จีนสร้างสถิติใหม่ด้วยการซื้อทองคำเพิ่มขึ้นถึง 30% ในปี 2566 เพื่อหลีกเลี่ยงการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐ
จีนทุ่มซื้อทองคำทำสถิติใหม่! สะท้อนความกังวลต่อเศรษฐกิจและลดถือเงินดอลลาร์
จากรายงานของทาง Nikkeiasia ระบุว่า ในปี 2023 จีนซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน สาเหตุหลักมาจากธนาคารกลางจีน (PBOC) หันมาซื้อทองคำแทนการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐ และนักลงทุนรายย่อยแห่ซื้อทองคำเพื่อหลบภัยจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
ด้านข้อมูลจากรายงานแนวโน้มอุปสงค์ทองคำประจำปี 2566 ของสภาทองคำโลก (World Gold Council) เผยให้เห็นภาพการซื้อทองคำที่คึกคัก โดยธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำสุทธิรวม 1,037 ตันในปี 2566 เป็นอันดับสองในรอบ 70 กว่าปี นับตั้งแต่ปี 2493 รองจากปี 2565 ที่ซื้อสุทธิ 1,082 ตัน ส่วนธนาคารกลางจีนสร้างสถิติใหม่ด้วยการซื้อทองคำสุทธิ 225 ตัน สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2520 ซึ่งเป็นปีแรกที่มีการเก็บข้อมูลการซื้อทองคำของจีน
ลดการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐ หันมาซื้อทองคำแทน
อิตสึโอะ โทชิมะ (Itsuo Toshima) นักวิเคราะห์ตลาดเงิน กล่าวว่า จีนลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เหลือ 782,000 ล้านดอลลาร์ ณ เดือนพฤศจิกายน 2566 ลดลงจากปีก่อนหน้า 10% สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาดอลลาร์และขยายอิทธิพลของเงินหยวน นอกจากนี้ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น สงครามในยูเครน กระตุ้นให้หลายประเทศลดการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐ และหันมาซื้อทองคำแทน นี่เป็นสัญญาณของความเชื่อมั่นที่ลดลงในเงินดอลลาร์ อันเป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลก
เวลานี้มีนักลงทุนรายย่อยชาวจีน แห่ซื้อทองคำเพื่อหลบภัยจากปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ถดถอยและตลาดหุ้นที่ตกต่ำ ความต้องการเครื่องประดับทองคำ ในปี 2566 เพิ่มขึ้น 10% เป็น 630 ตัน ส่วนความต้องการทองแท่งและเหรียญเพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้น 28% เป็น 280 ตัน แม้จะมีแรงขายจากนักลงทุนในยุโรปและอเมริกา แต่แรงซื้อจากประเทศกำลังพัฒนา นำโดยจีน ช่วยหนุนราคาทองคำในปีที่ผ่านมา
การถดถอยอย่างรุนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นเหตุ
ปกติชาวจีนจะนิยมลงทุน สินทรัพย์ มากที่สุด คือ อสังหาริมทรัพย์ หุ้น และทองคำ แต่เนื่องจกเวลานี้ เกิดการถดถอยอย่างรุนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์และการตกต่ำของหุ้นจีนทำให้ ทองคำ เป็นสิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจมากยิ่งขึ้น บางรายอาจต้องการถือครองทองคำโดยเป็นส่วนหนึ่งของสินทรัพย์ในสกุลเงินดอลลาร์ที่ตนเองถือครอง อย่างไรก็ตาม กองทุนรวมอีทีเอฟทองคำมีการไหลออก 244 ตันในปี 2023 เนื่องจากธนาคารกลางในยุโรปและสหรัฐอเมริกายังคงดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวด
โดยสรุป แรงซื้อทองคำของจีนสะท้อนความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกและเงินดอลลาร์ แม้ว่านักลงทุนในยุโรปและสหรัฐอเมริกาจะขายทองคำ แต่แรงซื้อจากประเทศกำลังพัฒนา led by จีน ก็ช่วยหนุนราคาทองคำในปี 2023
ที่มา Nikkeiasia