รัฐบาลออกมาตรการบรรเทาภาระค่าครองชีพให้ประชาชน ด้วยการตรึงค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ไว้ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย สำหรับงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2567 นอกจากนี้ ยังมีข่าวดีสำหรับกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน จะได้รับส่วนลดพิเศษ เหลือจ่ายเพียง 3.99 บาทต่อหน่วยเท่านั้น
ครม. ไฟเขียว! ตรึงค่าไฟใหม่ 4.18 บาทต่อหน่วย ถึงสิ้นปี 67
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 ถึงมติเห็นชอบมาตรการสำคัญเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนในภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงมีความท้าทาย โดยมาตรการหลักประกอบด้วย
- ตรึงค่าไฟฟ้า: รัฐบาลตัดสินใจคงอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) สำหรับงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2567 ไว้ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นระดับเดียวกับงวดปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังคงมาตรการช่วยเหลือพิเศษสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยให้จ่ายในอัตราเพียง 3.99 บาทต่อหน่วย ซึ่งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและครัวเรือนขนาดเล็กได้อย่างมาก
- ตรึงราคาน้ำมันดีเซล: เพื่อลดผลกระทบจากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นต่อภาคขนส่งและภาคธุรกิจ รัฐบาลยังคงตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไว้ที่ 33 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นระดับราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริง โดยรัฐบาลจะรับภาระส่วนต่างนี้ไว้เอง
สำหรับความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จากการตรึงค่า Ft นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานยืนยันว่า รัฐบาลมีแผนการบริหารจัดการอย่างรอบคอบ โดยจะไม่ผลักภาระการขาดทุนให้แก่ กฟผ. หรือประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า รัฐบาลจะรับผิดชอบค่า Ft ส่วนที่เกินกว่า 4.18 บาทต่อหน่วย และทยอยชำระคืนให้ กฟผ. เป็นงวดๆ เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นทางการเงินและไม่กระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยรวม
รัฐบาลพร้อมบรรเทาภาระค่าครองชีพให้ประชาชน
มาตรการตรึงค่าไฟฟ้าและราคาน้ำมันดีเซลนี้ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลในการดูแลประชาชนและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ทั้งนี้ รัฐบาลจะติดตามสถานการณ์ด้านพลังงานอย่างใกล้ชิดและพร้อมปรับมาตรการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
มาตรการตรึงค่าไฟฟ้าและราคาน้ำมันดีเซลในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการดูแลประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง ให้สามารถรับมือกับภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ รัฐบาลจะไม่หยุดยั้งในการติดตามสถานการณ์และพร้อมปรับเปลี่ยนมาตรการต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพและมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ