ธนาคารกลางจีน (PBOC) เซอร์ไพรส์ตลาด ประกาศหั่นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีลงเป็น 3.35% จาก 3.45% และอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีลงเป็น 3.85% จาก 3.95% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังตัวเลขการเติบโตของ GDP ในไตรมาสที่ 2 ออกมาต่ำกว่าคาด
ล่าสุด ธนาคารกลางจีน ได้ออกมาประกาศลดอัตราดอกเบี้ยทั้งระยะยาวและระยะสั้น ขัดกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่า PBOC จะยังคงคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมในเดือนนี้ หลังตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนออกมาต่ำกว่าคาดในไตรมาสที่ 2
นักวิเคราะห์มองว่า จีนตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในครั้งนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากปัจจุบัน จีนกำลังจะประสบปัญหาเงินฝืด เพราะประชาชนไม่เชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ไม่อยากใช้จ่าย และแนวโน้มเศรษฐกิจจีนยังต้องเจอความเสี่ยงจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ และท่าทีของหลายๆ ประเทศที่เริ่มไม่พอใจการส่งออกสินค้าราคาถูกเพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาดของจีน
ในวันจันทร์ ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้น ลงเป็น 3.35% จาก 3.45% และ อัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง ลงเป็น 3.85% จาก 3.95%
นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนยังได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยธุรกรรมซื้อคืนหลักทรัพย์ระยะเวลา 7 วัน หรือ 7-day reverse repo rate จาก 1.8% ลงเป็น 1.7% ซึ่งเป็นการปรับลดเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2023 และลดข้อกำหนดเกี่ยวกับมูลทรัพย์สินค้ำประกันสำหรับสินเชื่อระยะกลางลงตั้งแต่เดือนกรกฎาคม
หลังจากมีการประกาศลดดอกเบี้ย เงินหยวนอ่อนค่าลงไปเกือบถึงระดับต่ำสุดใน 2 สัปดาห์ที่ 7.275 หยวนต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลจีน 10 ปี และ 30 ปี ลดลงเหลือ 2.24% และ 2.45% ตามลำดับ
Louise Loo หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Oxford Economics กล่าวว่า การลดดอกเบี้ยของจีนในครั้งนี้ถือเป็นเซอร์ไพรส์สำหรับนักวิเคราะห์ เพราะแต่เดิมนักวิเคราะห์คาดว่าธนาคารกลางจีนจะเริ่มลดดอกเบี้ยหลังจากที่ธนาคารกลางของสหรัฐฯ หรือเฟด เริ่มลดดอกเบี้ยในช่วงปลายปี หรือไตรมาสที่ 4
Zhang Zhiwei หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Pinpoint Asset Management กล่าวว่า การที่จีนตัดสินใจลดดอกเบี้ยก่อนที่เฟดจะลดดอกเบี้ย สะท้อนความตั้งใจของรัฐบาลจีนที่กระตุ้นเศรษฐกิจจีนโดยเร็วที่สุด เพราะมองว่าไม่ควรรออีกต่อไป แม้ช่องว่างระหว่างดอกเบี้ยจีนและสหรัฐฯ จะกดดันให้เงินหยวนอ่อนค่าลงมากในปีนี้
ทั้งนี้ แม้จะเริ่มลดดอกเบี้ยนำหน้าสหรัฐฯ ไปแล้ว นักวิเคราะห์มองว่า ธนาคารกลางจีนน่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปลายปีนี้ หลังเฟดเริ่มลดดอกเบี้ย โดย Louise Loo มองว่า ธนาคารกลางจีนอาจลดดอกเบี้ยระยะยาวอีก 10 basis points ใสไตรมาสที่ 4 และลดดอกเบี้ย reverse repo rate อีก 25 basis points ในไตรมาสที่ 3 และ 4 เพื่อส่งเสริมสภาพคล่อง
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังมองอีกว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจจีนนั้น รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้นโยบายการเงินอย่างเดียวยังไม่พอ แต่ยังต้องอาศัยนโยบายการคลังด้วย หากจีนต้องการให้เศรษฐกิจในปีนี้โตตามเป้าที่วางไว้
โดยในการประชุมใหญ่ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชุดที่ 20 ครั้งที่ 3 (Third Plenum) เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้เผยแผนในการพัฒนาเศรษฐกิจจีนในเชิงลึก โดยเฉพาะปรับแนวทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใหม่เพื่อทำให้ประชาชนทุกครัวเรือนเข้าถึงที่พักอาศัย และทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น