จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ดุเดือดในช่วงตั้งแต่ต้นปี ทั้งปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว เงินเฟ้อ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้บรรยากาศของแวดวงคริปโทเคอร์เรนซีที่เคย ‘รุ่งโรจน์’ ถึงจุดสูงสุดเมื่อปลายปีก่อน กลายเป็น ‘รุ่งริ่ง’ ในเวลาไม่กี่เดือน
ส่งผลให้ตลาดร่วงกราว เกิดระเบิดลูกใหญ่อย่าง ‘การล่มสลายของเหรียญ LUNA-UST’ ที่ลากเอาบริษัทที่ให้บริการการกู้-ยืมคริปโทขนาดใหญ่ เจ๊งตามกันไปถึง 3 ราย นั่นคือ 3AC, Voyager และล่าสุด ‘Celsius’ หนึ่งในแพลตฟอร์มปล่อยกู้คริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดในโลก
เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมานั้น Celsius ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า บริษัทกำลังยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ตามกฎหมายล้มละลาย อ้างอิงจากเอกสารที่บริษัทยื่นต่อศาล ขณะนี้ Celsius มีทรัพย์สินและหนี้สินอยู่ในช่วง 1 พันล้าน - 1 หมื่นล้านดอลลาร์ (3.63 หมื่นล้านบาท - 3.63 แสนล้านบาท)
“ทางบริษัทกำลังมองหาแนวทางในการสร้างเสถียรภาพของธุรกิจโดยใช้วิธีการปรับโครงสร้าง ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้นทุกคน โดยขณะนี้บริษัทมีเงินสดอยู่ประมาณ 167 ล้านดอลลาร์ เพื่อพยุงกิจการให้ดำเนินต่อไปในเวลานี้” ส่วนหนึ่งจากแถลการณ์ของบริษัทระบุ
นิตยสาร Fortune ได้ประเมินมูลค่าบริษัทของ Celsius อยู่ที่ 3.25 พันล้านดอลลาร์ (1.18 แสนล้านบาท) ในปีที่ผ่านมา มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการมากถึง 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ (8.7 แสนล้านบาท) ก่อนจะเกิดมหกรรมกระหน่ำเทขายสินทรัพย์ดิจิทัลตั้งแต่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เหลือเพียง 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จนบริษัทต้องประกาศระงับการถอนเงินเพื่อป้องกันการเกิด ‘Bank run’
ทั้งนี้ บริษัทมีลูกค้าอยู่ประมาณ 1.7 ล้านคน และมีดอกเบี้ยรับฝากเหรียญอยู่ที่ประมาณ 17% ต่อปี
Alex Mashinsky ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งของ Celsius กล่าวเพิ่มเติมในแถลงการณ์ว่า นี่เป็นการตัดสินใจถูกต้อง เพื่อวงการคริปโทและบริษัท
“พวกเรามีทีมที่แข็งแกร่งและมากประสบการณ์ ที่จะช่วยพา Celsius ก้าวผ่านกระบวนการนี้ไปด้วย ผมมั่นใจว่า เมื่อเราหันหลังกลับมามองเหตุกาณ์นี้ เราจะเห็นว่าการลงมือแก้ไขปัญหาด้วยความมั่นใจ และแน่วแน่ จะช่วยวงการคริปโท และช่วยให้บริษัทของเราแข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
ในระยะเวลาเพียงถึงไม่ถึงครึ่งเดือน นับตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา มีแพลตฟอร์มคริปโทขนาดใหญ่ยื่นขอล้มละลายไปแล้วถึง 3 บริษัทด้วยกัน
เริ่มตั้งแต่กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตชื่อดัง ‘Three Arrows Capital (3AC)’ ที่ยื่นล้มละลายเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ตามมาด้วย ‘Voyager’ โบรกเกอร์คริปโทรายใหญ่จากสหรัฐ ที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ จากการผิดชำระหนี้ของ 3AC และความเสียหายอื่นๆ จากตลาดคริปโทขาลง จนทำให้บริษัทต้องตัดสินใจยื่นล้มละลายเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ตามมาด้วย Celsius เป็นรายที่สาม วานนี้
ที่มา : Cointelegraph, The Verge