-'เคทีซี จับมือ เอ็กซ์สปริง' ผุดโมเดลธุรกิจใหม่รับคริปโท-โทเคน ใช้ค้ำประกันเงินกู้ ที่แรกในไทย คิดดอกเบี้ยไม่เกิน 15%
-ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 5,000-7,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี คาดจะสามารถขยายฐานลูกค้านักลงทุนได้ถึง 5-10%
กระแสความฮอตของคริปโทในช่วงนี้เริ่มซบเซาไปจากผลกระทบของภาพรวมตลาดคริปโททั่วโลกที่เข้าสู่ขาลง แต่ใครที่ยังถือสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่ตอนนี้กำลังจะสามารถใช้คริปโทหรือโทเคนที่มีนำไปใช้ค้ำเงินกู้ได้เป็นครั้งแรกในประเทศ เมื่อบริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG ประกาศความร่วมกับ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC
ร่วมกันเปิดโมเดลการทำธุรกิจใหม่ ด้วยการให้ลูกค้าสามารถนำ 'สินทรัพย์ดิจิทัล' มาใช้เป็นหลักประกันในการกู้เงินได้เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในเมืองไทยในตอนนี้ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้นักลงทุนคริปโท-โทเคนได้ ผ่านบริการบัตรกดเงินสด “เคทีซี-เอ็กซ์สปริง” โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงปลายเดือน ส.ค. นี้
โดย 'วรางคณา อัครสถาพร' ผู้จัดการใหญ่ ของ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) อธิบายที่มาของโมเดลธุรกิจนี้ว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนในปัจจุบัน ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้และทำให้ประชาชนบางส่วนประสบปัญหาการขาดสภาพคล่อง ทำให้แนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคลที่ยังคงขยายตัวได้ดีในครึ่งปีหลัง
ดังนั้น 'เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล' ในฐานะกลุ่มธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ ผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจรที่ต่อยอดสู่โลกบริการทางการเงินดิจิทัลหรือ Digital Financial Service จึงเห็นโอกาสขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มช่องทางหารายได้ จึงได้จับมือกับ “เคทีซี” ผู้ให้บริหารสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคของไทย เพื่อร่วมกันเตรียมปล่อยสินเชื่อเงินสดที่รองรับสินทรัพย์ทุกประเภทเป็นหลักประกัน
แม้ในปีนี้ ปีนี้นับเป็นปีที่ท้าทายมากของธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล จากสถานการณ์ราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีแนวโน้มลดลง เอ็กซ์สปริง ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทเอ็กซ์สปริง อัลไลแอนส์ จำกัด จึงได้ประเดิมเฟสแรกของการก้าวเข้าสู่ธุรกิจปล่อยสินเชื่อเงินสดด้วยการเปิดให้บริการเทิร์นสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นวงเงินสดพร้อมใช้ ร่วมกับ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ออกบัตรกดเงินสด “เคทีซี-เอ็กซ์สปริง”
โดยในเฟสแรกจะประเดิมให้สามารถสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งคริปโท-โทเคน ต่างๆ มาใช้เป็นหลักประกันเงินกู้ได้ เพื่อให้บุคคลทั่วไปสามารถเพิ่มสภาพคล่อง และเงินหมุนเวียนในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับนักลงทุนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการปลายเดือน ส.ค. ปีนี้
“เชื่อว่าการจับมือกับเคทีซีครั้งนี้ จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการการเงินไทยและปฏิวัติวงการสินเชื่อ เพราะเป็นการเทิร์นสินทรัพย์ดิจิทัลให้เป็นวงเงินสดพร้อมใช้ โดยที่ XSpring เป็นรายแรก และรายเดียวในเมืองไทยที่สามารถให้บริการนี้ได้ ประกอบกับภาพรวมของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ในภาวะผันผวน ขณะที่ตลาดสินเชื่อรายย่อยยังคงมีการเติบโตได้ดี จึงมั่นใจว่าการร่วมมือกันครั้งนี้ จะทำให้การก้าวเข้ามาดำเนินธุรกิจปล่อยสินเชื่อร่วมกันประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน”
'เอ็กซ์สปริง' ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 5,000-7,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี พร้อมคาดว่าจะสามารถขยายฐานลูกค้านักลงทุนได้ถึง 5 - 10% จากทั้งหมดที่ซื้อขายในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทย จึงมั่นใจว่าจะสร้างรายได้ให้แก่บริษัท เอ็กซ์สปริง อัลไลแอนซ์ จำกัด อีกทั้งยังเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อที่มีแนวโน้มเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดในช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมด้วยโอกาสในการขยายฐานลูกค้าใหม่ในการเปิดบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัล
เนื่องจากลูกค้าที่ต้องการจะเทิร์นสินทรัพย์ดิจิทัลให้เป็นวงเงินสดพร้อมใช้จากบัตรกดเงินสด “เคทีซี-เอ็กซ์สปริง” (KTC - XSPRING) จะต้องมีบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลกับบริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด อยู่ก่อนการใช้บริการเพื่อนำสินทรัพย์ดิจิทัลที่ตนเองถือครองอยู่มาเป็นหลักประกัน ทั้งยังวางแผนที่จะเปิดรับเหรียญคริปโทฯ สกุลยอดนิยมและโทเคนมาใช้เป็นหลักประกัน พร้อมวางแผนที่จะปล่อยสินเชื่อประเภทอื่นๆ ในอนาคตเพิ่มขึ้นอีกด้วย
“เอ็กซ์สปริงคาดว่า ความร่วมมือกับเคทีซีในการรุกธุรกิจสินเชื่อกลุ่มใหม่นี้ นับเป็นธุรกิจใหม่ในปีนี้ รวมกับแผนการดำเนินงานภายใต้บริษัทในเครือของเอ็กซ์สปริงในครึ่งปีหลัง จะส่งผลให้กลุ่มเอ็กซ์สปริง มีรายได้ที่เติบโตในปีนี้อย่างแน่นอน” น.ส.วรางคณา กล่าว
ด้าน 'พิชามน จิตรเป็นธรรม' ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ธุรกิจสินเชื่อบุคคล บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC อธิบายถึงความร่วมมือกับ XSpring ในครั้งนี้ ว่า 'เอ็กซ์สปริง' จะมีรูปแบบคือ ผู้ที่ต้องการขอกู้เงินหรือขอสินเชื่อจะต้องยื่นเรื่อง โดยสามารถนำสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีนำมาวางใช้เป็นหลักประกันไว้กับ 'เอ็กซ์สปริง' ได้
ขณะในฝั่งของ KTC จะมีหน้าที่ในการปล่อยเงินกู้ให้กับลูกค้า โดยคิดอัตราดอกเบี้ยกับลูกค้าไม่เกิน 15% ซึ่งทั้ง 'เอ็กซ์สปริง' กับ KTC ก็จะมีการแบ่งรายได้(Revenue Sharing)จากโดเมลนี้ ถือเป็นมิติใหม่ของวงการสินเชื่อ-การเงินดิจิทัล เพราะเป็นโอกาสให้เคทีซีได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่
โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์ดิจิทัล ด้วยการ บัตรกดเงินสด “เคทีซี-เอ็กซ์สปริง” (KTC - XSPRING) ซึ่งเป็นวงเงินสินเชื่อพร้อมใช้ที่มีความยืดหยุ่น สามารถเบิกใช้วงเงิน และชำระคืนได้ตามความต้องการ เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน โดยบัตรกดเงินสดดีไซน์แนวตั้งแบบโมเดิร์นรับกับยุคดิจิทัล จากจุดแข็งของมาสเตอร์การ์ด ซึ่งมีเครือข่ายร้านค้าขนาดใหญ่กระจายอยู่กว่า 80 ล้าน ร้านค้าทั่วโลก
ทำให้สมาชิกสามารถใช้ บัตรกดเงินสด KTC - XSPRING ได้สะดวกขึ้น และเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล และสามารถกดเบิกเงินสดจากตู้เอทีเอ็มได้ตลอด 24 ชั่วโมง แบบไม่มีค่าธรรมเนียม โดยเคทีซีคาดหวังว่าการร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มยอดสมาชิกสินเชื่อรายใหม่ รวมถึงสร้างการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อรายย่อย และส่วนแบ่งทางการตลาดสินเชื่อบุคคลที่สูงขึ้นได้