สุกี้ตี๋น้อยรายได้ปี65เฉียด4พันล้านบาทแจกโบนัสพนง.2เดือนเงินพิเศษ7พัน
สุกี้ตี๋น้อย แบรนด์น้องใหม่ที่เปิดมาได้เพียงไม่นาน ก็สร้างความฮือฮาในวงการสุกี้ ชาบู รูปแบบบุฟเฟ่ต์ ด้วยราคาที่ไม่สูง การตกแต่งร้านดูทันสมัย เข้ากับคนยุคใหม่ ทำให้ได้ผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคจำนวนมาก รวมถึงบริษัทอย่าง JMART ที่เข้ามาถือหุ้นเป็นพันธมิตร
คอนเทนต์แนะนำ
สุกี้ตี๋น้อย นำโดยนางสาวนัทธมน พิศาลกิจวนิช กรรมการผู้จัดการ หรือ คุณเฟิร์น บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวกับ “Spotlight” ว่า “รายได้ปีนี้อยู่ระหว่างบริษัทตรวจสอบทางบัญชีตรวจสอบตัวเลขผลประกอบการอยู่คงไม่สามารถตอบตัวเลขตรงๆ เป๊ะๆ ได้” ต่อข้อซักถามว่าจะถึง 4,000 ล้านบาท ตามที่เคยแจ้งไว้หรือไม่นั้น เขาตอบว่า “อาจจะน้อยกว่าเล็กน้อย แต่ขอให้รอตัวเลขที่ชัดเจนอีกครั้ง หลังผู้ตรวจสอบบัญชีตรวจสอบเสร็จและแจ้งไปยังกระทรวงพาณิชย์”
คุณเฟิร์น กล่าวว่า ผลประกอการของปี 2565 สุกี้ตี๋น้อย ได้มีการแจกโบนัสพนักงาน จำนวน 2 เดือน ให้กับพนักงาน 1,200 คน และแจกเงินขวัญถุงให้กับพนักงานประจำ กว่า 3,000 คน อีกคนละ 7,000 บาท
“เราแจกโบนัสให้กับพนักงาน จำนวน 2 เดือนให้กับพนักงานที่เข้าเกณฑ์จำนวน 1,200 คน และเงินขวัญถุงให้กับพนักงานประจำ จำนวน 7,000 บาททุกคนกว่า 3,000 คน เราให้ทุกตำแหน่งไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน คนทำความสะอาด ทุกตำแหน่งที่เข้าเกณฑ์ ซึ่งสุกี้ตี๋น้อยให้ความสำคัญกับพนักงานเป็นอย่างมาก” คุณเฟิร์นกล่าว
ขณะนี้สุกี้ตี๋น้อยอยู่ระหว่างการปรับกระบวนการต่างๆ หลังบ้าน รวมถึงใช้ผู้ตรวจสอบบัญชีที่มาตรฐานเดียวกับบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ และมีการตั้งเป้าหมายภายในกับพนักงานว่า ภายในต้นปีหน้า(ปี 67) จะเตรียมยื่นไฟลิ่ง(Filing)ให้กับคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สำหรับทิศทางของร้านอาหารรูปแบบสุกี้ ชาบู บุฟเฟ่ต์ คุณเฟิร์น มองว่า เทรนของผู้บริโภคยังนิยมบริโภคอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ชาบู สุกี้ เนื่องจากมองว่าคุ้มค่าในราคา และการทานอาหารที่ร้านน่าจะถูกกว่าทำกินเองที่บ้าน และสามารถได้สังสรรค์กับเพื่อนฝูง ซึ่งสุกี้ตี๋น้อยเองในปีนี้ ก็ยังมีแผนเปิดสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้คาดว่าจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 12 สาขา จากปีที่แล้วเปิด 11 สาขา ทำให้คาดว่าปีนี้จะมีสาขารวมกันทั้งหมด 54 สาขา จากปีที่แล้ว 42 สาขา และคาดว่าน่าจะสามารถมีสาขาได้ 100 สาขา ในอีก 5 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ การเปิดสาขาจะเน้นเป็นการขยายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเบื้องต้นจะเริ่มขยายสาขาในจังหวัดพื้นที่ใกล้กับกรุงเทพฯ ก่อน โดยปีนี้เปิดไปแล้ว 3 สาขา คือ อยุธยา นครปฐม สระบุรี และช่วงปลายปีจะเปิดสาขาที่ชลบุรี
แต่สิ่งที่น่ากังวลขณะนี้ คือ เรื่องของราคาต้นทุนที่ปรับสูงขึ้นทุกอย่าง ซึ่งในปัจจุบันสุกี้ตี๋น้อยยังสามารถบริหารจัดการได้ แต่คงต้องติดตามการปรับเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าต่างๆ ไปอีกสักระยะหนึ่งก่อน ซึ่งในตอนนี้สุกี้ตี๋น้อยยังไม่มีแผนปรับขึ้นราคาในขณะนี้แต่อย่างใด
