Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เนรเทศเข้าคุกผิดตัว สู่ศึกตุลาการ-บริหาร ศาลสั่งสอบปากคำจนท.
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

เนรเทศเข้าคุกผิดตัว สู่ศึกตุลาการ-บริหาร ศาลสั่งสอบปากคำจนท.

16 เม.ย. 68
12:32 น.
แชร์

เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2568 ศาลสหรัฐฯ มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ มอบเอกสารและตอบคำถามตามคำสัตย์สาบานที่ให้ไว้ว่า จะดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการเดินทางกลับประเทศของอะเบรโก การ์เซีย ผู้ถูกส่งตัวไปกักขังในเรือนจำ ในเอลซัลวาดอร์ด้วยความผิดพลาด หลังการส่งกลับไม่คืบหน้า

ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐ พอลลา ซินิส กล่าวระหว่างการสืบพยานในกรีนเบลต์ รัฐแมรีแลนด์ว่า จะไม่ตัดสินลงโทษรัฐบาลในทันที แต่ขอจะหลักฐานเพื่อพิจารณาเพิ่มเติมก่อน และดูว่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลทรัมป์ได้ทำตามคำสั่งเดิมของเธอในการอำนวยความสะดวก คิลมาร์ อะเบรโก การ์เซีย เดินทางกลับหรือไม่

ผู้พิพากษาซินิสมีคพสั่งให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาล 4 คนจากกระทรวงความมั่นคงภายในสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรยื่นถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการและเข้าสอบปากคำอย่างเป็นทางการภายในวันที่ 23 เมษายน 2568


เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นอย่างไร?

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 มีนาคม มีผู้อพยพชาวเวเนซูเอลามากกว่า 200 คนถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวพันธ์ในกิจกรรมของกลุ่มอาชญากร เตรน เด อารากัว (Tren de Aragua: TdA) เนื่องจากทรัมป์กล่าวว่ากลุ่ม TdA “กำลังเตรียมการ มุ่งหมาย และข่มขู่จะรุกรานหรือบุกรุกโดยมุ่งหวังผลประโยชน์ต่อดินแดนของสหรัฐอมเริกา”

การส่งกลับชายผู้ที่รัฐบาลเชื่อว่าเป็นสมาชิกของกลุ่ม TdA ครั้งนี้เป็นการตอบโต้การรุกรานตาม พระราชบัญญัติศัตรูต่างด้าว ปี 1798 (Alien Enemies Act, 1798) ซึ่งเป็นกฎหมายที่มอบอำนาจให้ประธานาธิบดีสามารถจับกุมและเนรเทศพลเมืองได้ 

กฎหมายดังกล่าวเคยมีการใช้เพียง 3 ครั้งเท่านั้น คือในสงครามปี 1812 สงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งล่าสุดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง (1942) ประธานาธิบดีแฟรงกลิน ดี. รูสเวลต์ได้นำกฎหมายฉบับนี้มาใช้หลังจากเหตุการณ์โจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ ใช้กักกันพลเมืองอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่นกว่า 120,000 คน แต่ก่อนหน้านี้ พรบ. ศัตรูต่างด้าวไม่เคยมีการใช้โดยไม่มีการประกาศสงครามมาก่อนจนถึงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา


แต่ทำไมจึงส่งกลุ่มเวเนซูเอลาไปเอลซัลวาดอร์

ย้อนกลับไปอีกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอเดินทางไปพบประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ ไนยิบ บูเคเล ผู้นำเผด็จการประชานิยม ผู้ได้รับเลือกตั้งกลับมาอย่างขัดต่อรัฐธรรมนูญเมื่อปีก่อน บูเคเลเสนอว่าจะรับผู้ที่ถูกเนรเทศจากสหรัฐฯ และพลเมืองสหรัฐที่ก่ออาชญากรรมมาอยู่ในเรือนจำขนาดใหญ่ของเอลซัลวาดอร์

สหรัฐฯ ก็ตอบรับข้อเสนอดังกล่าว โดยจะจ่ายเงิน 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐแลกกับการคุมตัวนักโทษกลุ่มอาชญากรรมเวเนซูเอลา 1 ปี การส่งผู้อพยพไปคุมขังคร้งนี้ไม่ได้มีเฉพาะชาวเวเนซูเอลาแต่ยังมีผู้ต้องหาตามกฎหมายอื่นด้วย


ปัญหาเกิดเพราะส่งคนไปผิด

การบังคับใช้พรบ.ศัตรูต่างด้าวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งคนที่ถูกเนรเทศเอลซัลวาดอร์ด้วยเที่ยวบิน 3 เที่ยว 2 เที่ยวแรกเป็นบุคคลถูกเนรเทศตามพรบ.ศัตรูต่างด้าว และเที่ยวบินที่ 3 คือคนที่ถูกเนรเทศด้วยกฎหมายอื่นๆ อย่างไรก็ตามมีบุคคลหนึ่งคนที่ถูกส่งไปผิด

เขาคนนั้นคือชายชายเอลซัลวาดอร์ คิลมาร์ อะเบรโก การ์เซีย ผู้อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ อย่างถูกกฎหมายในรัฐแมรีแลนด์ และครอบครองใบอนุญาตการทำงาน แต่งงานกับพลเมืองชาวสหรัฐฯ และไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม เขาถูกส่งไปกับเที่ยวบินที่ 3 ด้วย "ความผิดพลาดระหว่างการปฏิบัติงาน" (an administrative error)

ขณะนี้อะเบรโก การ์เซียถูกกักขังโดยไม่ผ่านการไต่สวนอยู่ที่ศูนย์กักกันการก่อการร้าย Terrorism Confinement Center (CECOT) คุกขนาดใหญ่พิเศษและมีความปลอดภัยสูงสุดในทวีปอเมริกาที่ใช้รองรับแก๊งอาชญากร ในเมืองเตโกลูกา ประเทศเอลซัลวาดอร์


ปฏิเสธไม่ใช่สมาชิกกลุ่ม

อะเบรโก การ์เซียถูกเจ้าหน้าที่ ICE ควบคุมตัวเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 และสอบปากคำตามข้อกล่าวหาว่าเขาเป็นสมาชิกกลุ่มอาชญากร MS-13 ตามข้อพิพาทปี 2019 อย่างไรก็ดีอเบรโก การ์เซียปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ ทีมทนายของเขาระบุเมื่อวันที่ 28 มีนาคมว่า ไม่มีหลักฐานใดชี้ว่าอะเบรโก การเซียเป็นสมาชิกกลุ่มอาชญากรรมดังกล่าว ไม่เคยมีการดำเนินคดีอาญาของรัฐบาลกลางหรือกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนใด ๆ กับเขามาก่อนและเรียกร้องให้ศาลรัฐแมรีแลนด์ออกคำสั่งนำตัวเขากลับมาทันที

5 เมษายน 2568 ศาลสหรัฐฯ มีคำสั่งให่รัฐบาลทรัมป์ส่งตัวอะเบรโก การ์เซียกลับมาภายใน 3 วัน และชี้ว่าความผิดพลาดครั้งนี้คือความล้มเหลวครั้งล่าสุดของนโบบายเนรเทศของรัฐบาล

เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐอเมริกา (ICE) กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 7 เมษายนว่านายคิลมาร์ อะเบรโก การ์เซีย ถูกส่งตัวไปกับเที่ยวบินที่สามโดยมิชอบ แม้ว่าจะมีคำสั่งตัดสินปี 2019 ให้คุ้มครองเขาจากการถูกเนรเทศ

เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโรเบิร์ต เซรนากล่าวว่า “อะเบรโก การ์เซียถูกเนรเทศจากสหรัฐไปเอลซัลวาดอร์โดยมิชอบจากการจัดการที่ผิดพลาด…เป็นเพราะการมองข้ามเขาไป การเนรเทศทำไปด้วยเหตุสุจริตและเป็นไปตามคำสั่งเนรเทศขั้นสุดท้าย และคำกล่าวหาที่ว่าอะเบรโก การ์เซียเป็นสมาชิกกลุ่ม MS-13”


ศึกตุลาการ-บริหาร

โฆษกทำเนียบขาว คาโรไลน์ ลีวิตต์ กล่าวในแถลงการณ์แนะนำให้ผู้พิพากษาซินิสผู้ติดต่อประธานาธิบดีไนยิบ บูเคเลด้วยตนเอง เพราะทำเนียบขาวไม่ทราบว่าผู้พิพากษาจะมีอำนาจในอาณาเขตเอลซัลวาดอร์หรือไม่ 

ทำเนียบขาวกล่าวว่าอะเบรโก การ์เซียนั้นไม่มีสิทธิใดในการพำนักในสหรัฐฯ หากนำตัวเขากลับมาก็จะถูกส่งกลับเอลซัลวาดอร์อยู่ดีและชี้ว่า เสียงส่วนใหญ่จากสาธารณชนไม่เห็นด้วยต่อการนำตัวเขากลับมา 

“อย่างไรเสีย การเนรเทศเขากลับไปเอลซัลวาดอร์ก็คือปลายทางสุดท้าย ไม่มีทางที่บุคคลคนนี้จะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในแมรีแลนด์ [...] เพราะเขาคือผู้ก่อการร้ายต่างชาติและสมาชิกกลุ่ม MS-13 ไม่ใช่แค่เราที่ยืนยันข้อนี้ แต่ประธานาธิบดีบูเคเลก็ยืนยันเช่นเดียวกันที่ห้องทำงานรูปไข่เมื่อวานนี้”  คาโรไลน์ ลีวิตต์กล่าวเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2568

อย่างไรก็ดีหลังผู้พิพากษาซินิสมีคำสั่งสอบปากคำและเรียกดูเอกสารเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ มีการ “อำนวยความสะดวก” ให้นายอะเบรโก การ์เซียหลังเธอมีคำสั่งนับตัวเขากลับรัฐแมรีแลนด์หรือไม่ ทนายฝั่งรัฐบาลดรูว์ เอนซินกล่าวว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คงจะได้ “อำนวยความสะดวก” แล้วหากอะเบรโก การ์เซียมาปรากฎตัวที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ หากเป็นเช่นนั้นเขาคงถูกนำตัวกลับสหรัฐฯ ในทันที

ศาลสูงสหรัฐยึดในคำตัดสินของผู้พิพากษาซินิสให้เจ้าหน้าที่สหรัฐ “อำนวยความสะดวกและทำให้เกิดผลสำเร็จ” ต่อกรณีการส่งตัวอะเบรโก การ์เซียกลับมา อย่างไรก็ตามรัฐบาลทรัมป์ชี้ว่าคำว่า “ทำให้เกิดผลสำเร็จ” นั้นคลุมเครือและกล่าวว่าเป็นคำสั่งที่เกินขอบเขตอำนาจศาล 

อีกคนที่กล่าวว่าเขานั้นไร้อำนาจในการดำเนินการกรณีนี้คือประธานาธิบดีบูเคเลแห่งเอลซัลวาดอร์ ที่เข้าพบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และมาร์โก รูบิโอ เมื่อวันจันทร์ที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ขณะที่ด้านสหรัฐฯ ยังคงยืนยันว่าอะเบรโก การเซียเป็นพลเมืองของเอลซัลวาดอร์ และไม่สามารถนำตัวเขากลับมาได้หากประเทศบ้านเกิดไม่อนุญาต

อีกทั้งรัฐมนตรีต่างประเทศยังชี้ว่า การดำเนินนโยบายต่างประเทศนั้นเป็นอำนาจประธานาธิบดี ไม่ใช่ของศาล

อ้างอิง: Reuters, News.Illinois, WashingtonPost


แชร์
เนรเทศเข้าคุกผิดตัว สู่ศึกตุลาการ-บริหาร ศาลสั่งสอบปากคำจนท.