CNN เปิดเผยข้อมูลจากเอกสารภายในของกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาปิดสถานทูตและสถานกงสุลต่างประเทศเกือบ 30 แห่ง ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนทิศทางนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ อย่างสิ้นเชิง เอกสารดังกล่าว ยังแนะนำให้ลดบทบาทของหน่วยงานการทูตของสหรัฐฯ ในโซมาเลียและอิรัก ซึ่งเป็นสองประเทศสำคัญต่อปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้ายของกองทัพสหรัฐฯ
ในรายละเอียดของเอกสารดังกล่าว พบคำแนะนำให้ปิดสถานทูต 10 แห่งและสถานกงสุล 17 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นหน่วยงานที่อยู่ในยุโรปและแอฟริกา แต่ก็มีบางส่วนที่พิกัดอยู่ในเอเชียและแคริบเบียน ได้แก่ มอลตา ลักเซมเบิร์ก เลโซโท สาธารณรัฐคองโก สาธารณรัฐแอฟริกากลาง และซูดานใต้ นอกจากนี้ รายชื่อดังกล่าวยังรวมถึงสถานกงสุลในฝรั่งเศส 5 แห่ง เยอรมนี 2 แห่ง บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา 2 แห่ง สหราชอาณาจักร 1 แห่ง แอฟริกาใต้ 1 แห่ง และเกาหลีใต้ 1 แห่ง
ด้านแทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ได้ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเอกสารภายในหรือแผนการลดจำนวนเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศลง เธอกล่าวว่า ขอแนะนำสื่อมวลชนตรวจสอบเอกสารดังกล่าวกับทำเนียบขาวและประธานาธิบดีสหรัฐฯ เองเลย เนื่องจากทำเนียบขาวยังคงทำงานเกี่ยวกับแผนงบประมาณและสิ่งที่พวกเขาจะยื่นต่อรัฐสภา ตัวเลขและสิ่งที่เรามักจะเห็นคือรายงานที่เร็วเกินไปหรือผิดพลาด โดยอ้างอิงจากเอกสารที่รั่วไหลจากแหล่งที่มาที่ตรวจสอบไม่ได้
ในปัจจุบัน สหรัฐฯ มีความร่วมมือกับรัฐบาลอิรักในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย เช่น กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนด้านการฝึกอบรม การข่าวกรอง และการสนับสนุนทางอากาศแก่กองกำลังอิรัก การปิดหน่วยงานทางการทูตในอิรักอาจสะท้อนทิศทางของนโยบายต่างประเทศของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ไม่อยากยื่นมือเข้าไปปกป้องใครเป็นพิเศษอีกแล้ว
ปัจจุบัน อิรักมีสถานทูตสหรัฐอเมริกาในกรุงแบกแดด ตั้งอยู่ในเขตกรีนโซน (Green Zone) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการรักษาความปลอดภัยสูงในกรุงแบกแดด สถานทูตแห่งนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับสถานทูตอื่นๆ ของสหรัฐฯ นอกจากนี้ อิรักยังมีสถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาในเมืองเออร์บิล ตั้งอยู่ในภูมิภาคเคอร์ดิสถานทางตอนเหนือของอิรัก
การดำเนินงานของสถานทูตและสถานกงสุลในอิรักมีความท้าทายเนื่องจากสถานการณ์ความมั่นคงที่ยังคงเปราะบาง อย่างไรก็ตาม การมีอยู่ของหน่วยงานเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ในการมีส่วนร่วมและสนับสนุนอิรักในระยะยาว แต่โดนัลด์ ทรัมป์ ชัดเจนมาตลอดว่าอยากพาสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากประเทศสงครามแห่งนี้ เห็นได้จากในสมัยแรกที่เข้าดำรงตำแหน่ง ได้สั่งให้ลดจำนวนทหารสหรัฐฯ แต่ก็ยังคงรักษาความสัมพันธ์ที่ดีไว้เป็นหน้าด่านในการต่อต้านอิหร่าน ซึ่งสหรัฐฯ มองว่าเป็นภัยคุกคามหลัก
ปัจจุบัน สหรัฐฯ มีสถานกงสุลในปูซาน นอกเหนือจากสถานทูตในกรุงโซล หากคำแนะนำที่ระบุไว้ในเอกสารภายในมีผลบังคับใช้จริง นั่นหมายความว่า การดำเนินงานด้านกงสุลในปูซานอาจถูกรวมเข้ากับสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงโซล การสั่งปิดหน่วยงานสหรัฐฯ ในประเทศพันธมิตรอันแน่นแฟ้นเช่นนี้ ไม่ได้หมายความว่าสหรัฐฯ จะลดความสำคัญของเกาหลีใต้หรือประเทศพันธมิตรอื่น ๆ ลง แต่เป็นการหน่วยงาน ลดข้าราชการ เพื่อลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลกลางนั่นเอง
หลายฝ่ายคาดว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นผลมาจากนโยบายปฏิรูปหน่วยงานราชการสหรัฐฯ ของกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล หรือ DOGE นำโดยนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลาผู้เข้ามามีบทบาททางการเมือง และพยายามที่จะลดขนาดรัฐบาลกลาง ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวยังไม่มีการยืนยันหรือการลงนามอย่างเป็นทางการจากรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ
สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลเป็นด่านหน้าที่สำคัญของกระทรวงการต่างประเทศ โดยให้บริการต่างๆ เช่น การดำเนินการด้านวีซ่าและความช่วยเหลือสำหรับพลเมืองอเมริกันในต่างแดน และยังทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลพลเมืองและด้านอื่น ๆ เพื่อส่งกลับไปยังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เจ้าหน้าที่กล่าวว่าสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลเป็นเครื่องมือทางการทูตที่สำคัญ เนื่องจากสหรัฐฯ กำลังมองหาทางที่จะต่อกรกับประเทศต่างๆ เช่น จีน การเดินหน้าปิดสถานทูตและสถานกงสุลเช่นนี้ แน่นอนว่ากระทบกับการต่อรองของสหรัฐฯ กับประเทศต่าง ๆ ไม่มากก็น้อย