โดยรายงานการเงินของ Apple ในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ Apple มีรายได้รวม 9.48 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.2 ล้านล้านบาท ลดลง 2.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่กำไร อยู่ที่ 2.416 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ ราว 8.16 แสนล้านบาท ลดลง 3.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
อย่างไรก็ตาม แม้รายได้ของ Apple ในไตรมาสนี้จะลดลง แต่รายได้นี้ก็ ถือว่า ยังสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ อยู่ที่ 9.296 หมื่นล้านดอลลาร์ เพราะสินค้าเรือธงอย่าง ‘iPhone’ ยังสามารถสร้างรายได้เพิ่ม
โดยหากแยกรายได้จากสินค้าแต่ละประเภท สัดส่วนรายได้ของ Apple ใน Q2 สามารถแจกแจงได้ดังนี้
iPhone: รายได้ทั้งหมด 5.13 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.73 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5%
Mac: รายได้ทั้งหมด 7.17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.4 แสนล้านบาท ลดลง 31.3%
iPad: รายได้ทั้งหมด 6.67 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.25 แสนล้านบาท ลดลง 12.8%
สินค้าอื่นๆ : รายได้ทั้งหมด 8.76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.95 แสนล้านบาท ลดลง 0.5%
บริการ: รายได้ทั้งหมด 2.091 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 7.05 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4%
โดยจากรายการดังกล่าว จะเห็นได้ว่า สิ่งที่อุ้มรายได้ของ Apple ขึ้นมาได้ในไตรมาสนี้ มี 2 อย่างด้วยกัน คือ iPhone และ รายได้จากการให้บริการต่างๆ และไฮไลท์ ก็คือ iPhone ที่ยังสามารถทำรายได้เพิ่มได้ ถึงแม้ตลาดโทรศัพท์สมาร์ทโฟนทั่วโลกจะกำลังอยู่ในภาวะซบเซา
จากข้อมูลของ IDC บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยข้อมูลการตลาดชั้นนำระดับโลก ตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกหดตัวถึง 15% ในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้การที่ยอดขาย iPhone มีการเคลื่อนไหวสวนกระแสในตลาดแบบนี้
จึงสะท้อนว่า ผลกระทบจากสภาวะความไม่สงบที่มีต่อห่วงโซ่การผลิตของ iPhone ในจีนนั้นทุเลาลงแล้ว และส่งสัญญาณบวกว่า iPhone ยังเป็นสินค้าที่ลูกค้ารายได้สูงเลือกใช้ เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้จะได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจน้อยที่สุด
จากรายงานผลประกอบการของ Apple ประเทศที่ยังคงทำรายได้ได้มากที่สุด คือ ทวีปอเมริกา รองลงมาเป็นยุโรป จีน ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้น จีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ) และ ญี่ปุ่น โดยสามารถแจกแจกได้ตามพื้นที่ดังนี้
ทวีปอเมริกา: ทำรายได้ทั้งหมด 3.78 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 7.57%
ทวีปยุโรป: ทำรายได้ทั้งหมด 2.39 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.82%
จีน (รวมไต้หวัน ฮ่องกง): ทำรายได้ทั้งหมด 1.78 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 2.89%
ญี่ปุ่น: ทำรายได้ทั้งหมด 7.17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 7.09%
ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้น จีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ): ทำรายได้ทั้งหมด 8.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.29%
โดยจากข้อมูลนี้จะเห็นได้ว่า ขณะที่รายได้ในพิ้นที่อื่นๆ รวมถึงจีนลดลง รายได้จากประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกลับปรับตัวขึ้นสูงมากกว่า 15% สะท้อนผลสำเร็จจากการตีตลาดเอเชีย โดยเฉพาะ ‘อินเดีย’ ที่ Apple เพิ่งย้ายการผลิตบางส่วน รวมถึงไปตั้ง Apple Store แห่งแรกเมื่อเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา
จากคำกล่าวของ Tim Cook เขาพบว่ามี Switcher หรือคนที่ย้ายจากแบรนด์มือถืออื่นมาใช้ Apple จำนวนมากในอินเดียหลังมีการเข้าไปลงทุน
อย่างไรก็ตาม Apple คาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาสที่ 3 ของ Apple น่าจะลดลง 3% เพราะสภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังซบเซาอยู่ และ Apple ได้ผลกระทบอย่างมากจากรายได้โฆษณาดิจิทัลและเกมมือถือที่ลดลง แต่คาดว่ารายได้จากจีนน่าจะเพิ่มขึ้นจากลูกค้าที่เป็นบริษัทใหญ่และธุรกิจ เพราะลูกค้าเหล่านี้อาจต้องการเครื่องมือไปให้พนักงานใช้หลังมีการเปิดประเทศและปลดล็อกดาวน์แล้ว