Disney ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2023 พบธุรกิจสตรีมมิ่ง Disney+ ขาดทุนน้อยลง จากการขึ้นค่าสมาชิก พร้อมตัดค่าใช้จ่ายด้านการตลาด ถึงแม้จำนวน subscriber จะหายไปถึง 4 ล้านคน หรือ 2% พร้อมเผยแผนเพิ่มค่าสมาชิกในครึ่งปีหลัง ขายโฆษณามากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้
รายงานของ CNBC ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2023 ระบุว่า Disney ทำรายได้ไปทั้งหมด 2.18 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 7.36 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.271 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โตกว่า 100% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หลักๆ มาจากรายได้ของการดำเนินการสวนสนุกและจำหน่ายสินค้าต่างๆ ซึ่งทำรายได้ให้ Disney ถึง 7.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่ธุรกิจสตรีมมิ่ง หรือ Disney+ รวมไปถึง ESPN+ และ Hulu ยังมีแนวโน้มขาดทุนลดลง โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 12% เป็น 5.51 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้หักลบแล้วธุรกิจสตรีมมิ่งของ Disney ลดลง 13% (228 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ไปเหลือ 659 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากช่วงเดียวกันของปีงบประมาณที่แล้ว
ทั้งนี้ แนวโน้มผลประกอบการที่ดีขึ้นของธุรกิจสตรีมมิ่ง สาเหตุมาจากการปรับ ‘ขึ้นราคาค่าสมาชิก’ และการ ‘ลดค่าใช้จ่ายด้านการตลาด’ ทำให้รายได้ต่อหัวสมาชิกในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 20% เป็นเฉลี่ยคนละ 7.14 ดอลลาร์สหรัฐ ถึงแม้จำนวนสมาชิกหรือ ผู้สมัครเข้าใช้บริการของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเหล่านี้จะลดลงถึง 4 ล้านคนจากไตรมาสก่อนหน้า หรือจาก 161.8 ล้านคน เหลือเพียง 157.8 ล้านคนในไตรมาสนี้
หลังจากเห็นผลดีของการเพิ่มค่าสมาชิกดังกล่าว Bob Iger ซีอีโอของ Disney ก็ออกมาประกาศแผนธุรกิจของ Disney+ ต่อ โดยชูว่าจะเพิ่มค่าสมาชิกสำหรับแพคเกจแบบทั้งมีและไม่มีโฆษณา เพิ่มจำนวนโฆษณาในแพคเกจมีโฆษณา และลดจำนวนคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มลง เพื่อจำกัดค่าใช้จ่าย
จากการรายงานของ CNN Disney มีแผนจะรวบแพลตฟอร์ม Disney+ เข้ากับ Hulu นำคอนเทนต์บางส่วนออกจากแพลตฟอร์ม และจะระมัดระวังในการลงทุนเพื่อสร้างคอนเทนต์ในอนาคตมากขึ้น และเพิ่มจำนวนโฆษณาในหลายๆ แพลตฟอร์ม
นอกจากนี้ ยังจะเพิ่มค่าสมาชิกทั้งในแพลนแบบมีและไม่มีโฆษณา เพื่อดันให้ผู้ใช้แพลนไม่มีโฆษณาบางส่วนย้ายไปใช้แพลนแบบมีโฆษณาที่มีราคาสูงกว่า
โดยในมุมมองของ Disney การเพิ่มราคาค่าสมาชิกอาจจะทำให้จำนวนสมาชิกลดลงเล็กน้อย แต่ Disney เชื่อว่า ธุรกิจสตรีมมิ่งและคอนเทนต์ออนไลน์มีศักยภาพในการเติบโตสูง เพราะคนในสมัยปัจจุบันเริ่มดูโทรทัศน์น้อยลงเรื่อยๆ และ Disney สามารถเพิ่มราคาแพลนสมาชิกได้อีกเพื่อสะท้อน ‘มูลค่าที่แท้จริง’ ของคอนเทนต์ของ Disney ที่มีแฟนๆ ติดตามอยู่ทั่วโลก
การตัดสินใจเพิ่มราคาแพลนสมาชิกในครั้งนี้ของ Disney สะท้อนแนวโน้มการขึ้นราคาเพื่อเพิ่มรายได้ของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งทั่วโลกที่มีความมั่นใจว่า ผู้บริโภคจะยังยอมควักเงินเพื่อคอนเทนต์ของพวกเขาอยู่ ถึงแม้ราคาจะเพิ่มขึ้น เพราะในปัจจุบันพวกเขากำลังก้าวขึ้นเป็นทั้งผู้เผยแพร่และผู้ผลิตคอนเทนต์บันเทิงรายใหญ่ของโลก