Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ปราบบัญชีม้า หนีไปบัญชีคริปโท ส่วนเคสแอปดูดเงินเป็นศูนย์แล้ว
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

ปราบบัญชีม้า หนีไปบัญชีคริปโท ส่วนเคสแอปดูดเงินเป็นศูนย์แล้ว

20 ก.พ. 68
14:03 น.
|
786
แชร์

ความคืบหน้าการยกระดับปราบบัญขีม้าของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ได้ร่วมมือกับหลายหน่วยงานกำลังเห็นผลมากขึ้น ทั้งจำนวนการปิดบัญชีม้า จำนวนเคสผู้เสียหายกรณีแอปดูดเงินเหลือศูนย์ราย แต่การปราบบัญชีม้าให้หมดไปอาจไม่ง่าย ข้อมูลล่าสุดพบว่า มิจฉาชีพใช้ช่องทางการโอนเงินผ่านไปยังตลาดคริปโทจำนวนมาก 

SPOTLIGHT ได้มีโอกาสร่วมพูดคุยเกี่ยวกับการยกระดับปราบบัญชีม้ากับผู้บริหารของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมี ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน , คุณดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน และ คุณพีรจิต ปัทมสูต ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายคุ้มครองและตรวจสอบบริการทางการเงิน ซึ่งพบว่า การปราบบัญชีม้าเห็นผลมากขึ้นปัจจุบันจำนวนการปิดบัญชีม้าเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2 ล้านบัญชีแล้ว  

ส่วนความเสียหายกรณีแอปดูดเงินกลายเป็นศูนย์ นั่นหมายความว่า ไม่มีผู้เสียหายโดนมิจฉาชีพดูดเงินออกจากบัญชีได้ จากเดิมที่มีความเสียหายเกิดขึ้นราว 300 เคสต่อเดือน ซึ่งความสำเร็จนี้มาจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการกำหนดมาตรฐาน Mobile Banking Security เช่น ห้ามการส่ง SMS แนบลิงก์ การสแกนใบหน้าก่อนโอนเงิน เพื่อเป็นการยกระดับ  Mobile Banking Security นั่นเอง 

หนีจากบัญชีม้า หนีไปผ่านคริปโทฯ 

อย่างไรก็ตามการปราบบัญชีม้าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะขณะนี้มิจฉาชีพปรับเปลี่ยนช่องทางการเอาเงินออก จากเดิมที่ต้องเปิดบัญชีม้าหลายทอดเปลี่ยนเป็นโอนไปยังบัญชีคริปโทฯแทน ซึ่งพบว่า ขณะนี้ความเสียหายถึง 75% เป็นการโอนเงินผ่านไปยังคริปโทฯ Exchange ในไทย ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยเอง ไม่มีอำนาจในการเข้าไปปิดได้ ยังต้องอาศัยกฏหมายและความร่วมมือในการแชร์ข้อมูลของหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง 

และนอกจากช่องทางผ่านโอนไปคริปโทฯแล้ว ปัจจุบันกรณีบัญชีม้า ที่เป็นนิติบุคคล ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีของแกงค์มิจฉาชีพในการนำเงินออก ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบกำลังเร่งแก้ปัญหาอย่างจริงจัง 

เร่งดำเนินมาตรการแบ่งเฉดสีบัญชีม้า 

สำหรับการแบ่งเฉดสีบัญชีม้าขณะนี้ กำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการกรณีม้าสีดำและม้าสีเทาเข้ม มีข้อมูลการแจ้งความและปปง.ประกาศรายชื่อแล้ว กลุ่มนี้ไม่สามารถโอนเงินออกและรับเงินเข้าบัญชีได้แล้ว และไม่สามารถเปิดบัญชีใหม่ได้เช่นกัน ส่วนบัญชีม้าสีอื่น เช่น น้ำตาล อ่อน ที่เป็นกลุ่มยังไม่มีผู้แจ้งความ แต่ธนาคารได้พบความผิดปกติ ก็จะมีมาตรการขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละธนาคารไป โดยมาตรการที่นำมาใช้มีทั้งการเตือน การหน่วง และการระงับธุรกรรม เพื่อลดความเสียหายให้มากที่สุด

ส่วนกรณีที่ต้องการปลดล็อกความเป็นบัญชีม้า โดยเฉพาะจากกรณีที่อาจะเกิดความผิดพลาด ผู้เสียหายสามารถติดต่อไปที่หน่วยงานต้นทางโดยตรง เช่นกรณีเป็นบัญชีม้าดำ ก็ต้องให้ทาง ปปง.เป็นผู้ดำเนินการแก้ไขให้ ม้าเทา เป็นตำรวจดำเนินการ ส่วนม้าน้ำตาล ธนาคารอาจสามารถปลดล็อกได้ ทั้งนี้การปลดล็อกบัญชีม้าจะเป็นการปลดทีละบัญชีเท่านั้น 

ภัยการเงินที่นับวันจะสร้างความเสียหายมากขึ้นนั้น ผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย ยอมรับว่า เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า โดยเฉพาะการมาของ AI อาจจะส่งผลให้อีกด้านหนึ่งถูกนำมาใช้ในทางผิดได้ เช่น กรณีมิจฉาชีพหลอกลวงให้เหยื่อหลงเชื่อจากการใช้ AI มาปลอมให้แนบเนียนมากขึ้นทั้งการปลอมเสียง ปลอมภาพ ซึ่งประชนต้องตระหนักและมีความรู้ให้เท่าทัน ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทย จะเร่งดำเนินการตามมาตรการที่วางไว้ รวมถึงประเมินผลเพื่อให้ลดมูลค่าความสูญเสียจากภัยหลอกลวงทางการเงินให้หมดไป

แชร์
ปราบบัญชีม้า หนีไปบัญชีคริปโท ส่วนเคสแอปดูดเงินเป็นศูนย์แล้ว