เมื่อวานนี้ Alphabet บริษัทแม่ของ Google และ Youtube ได้ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 1 ของปี 2025 ออกมา
- รายได้ 3,020,000 ล้านบาท เติบโต 12%
- กำไร 1,155,000 ล้านบาท เติบโต 46%
สัดส่วนรายได้ของ Google
- รายได้จากโฆษณา (Google, Youtube และอื่น ๆ) สัดส่วน 74.1%
- ธุรกิจ Subscribe (Youtube Premium และอื่น ๆ) สัดส่วน 11.5%
- ธุรกิจคลาวด์ สัดส่วน 13.6%
- ธุรกิจอื่น สัดส่วน 0.5%
- กำไรจากค่าเงิน สัดส่วน 0.3%
โดยธุรกิจเสิร์ชที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัทยังเติบโตเพิ่มขึ้น 9.8% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
โดย Google มีรายได้หลักจากการโฆษณามาจาก 3 อุตสาหกรรมหลักนั่นก็คือ การเงิน ค้าปลีก เฮลธ์แคร์ และ ท่องเที่ยว
ด้านผลกระทบจากสงครามการค้าทาง Google ทางบริษัทเชื่อว่าจะมีผลกับธุรกิจของบริษัท โดยเฉพาะการยกเลิกมาตรการ de minimis
ที่งดเว้นภาษีสำหรับสินค้านำเข้าในสหรัฐอเมริกาที่มีมูลค่ารวมกันไม่ถึง 27,000 บาท หรือพูดง่าย ๆ ก็คือสินค้าราคาถูก
โดยการยกเลิกมาตรการตรงนี้จะส่งผลกระทบกับบริษัทอีคอมเมิร์ซจากจีน อย่างเช่น Shein แพลตฟอร์ม Fast Fashion และ Temu แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เน้นขายสินค้าราคาถูก
โดยทั้ง 2 บริษัทได้จ่ายเงินไปกับการโฆษณาออนไลน์อย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนั้นในการประกาศผลประกอบการครั้งนี้ บริษัทยังได้ประกาศซื้อหุ้นคืนคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งหมด 2,300,000 ล้านบาท อีกด้วย
ส่วนราคาหุ้นของ Google หลังตลาดปิดเมื่อคืนนี้ +4.6% จากธุรกิจที่ยังเติบโตได้ดี จนผลประกอบการออกมาสดใส