Elon Musk เตรียมผลิตรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดรุ่นใหม่คาดว่าจะมีราคาเริ่มต้นที่ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ด้านนายกรัฐมนตรี เศรษฐา มั่นใจว่า Tesla จะลงทุนในประเทศไทยอย่างแน่นอน โดยเทสลาต้องการที่ดินประมาณ 2,000 ไร่ เพื่อสร้างโรงงานและซัพพลายเชนทั้งหมด
จากข้อมูลของ electrek รายงานว่า Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ยืนยันเตรียมผลิตรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดรุ่นใหม่คาดว่าจะมีราคาเริ่มต้นที่ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (880,000 บาท) โดยจะเริ่มผลิตที่โรงงาน Gigafactory Texas ในสหรัฐอเมริกาก่อน จากนั้นจึงจะผลิตที่โรงงาน Gigafactory Mexico ตามมา Elon Musk เปิดเผยข้อมูลนี้ระหว่างงานส่งมอบ Cybertruck ว่า Tesla กำลังพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดรุ่นนี้อย่างจริงจัง โดยเขามีการตรวจทานแผนการผลิตทุกสัปดาห์ และคิดว่าการปฏิวัติการผลิตรถรุ่นนี้จะทำให้ทุกคนตะลึง
นอกจากนี้ แหล่งข่าวจากจีนยังรายงานว่า Tesla กำลังวางแผนกลับมาก่อสร้างพื้นที่เฟส 3 ในโรงงาน Gigafactory Shanghai ในประเทศจีนอีกครั้ง โดยคาดว่าโรงงานเฟส 3 นี้จะทำไว้สำหรับผลิตรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดรุ่นใหม่ของ Tesla สำหรับ โรงงาน Gigafactory Shanghai ถือเป็นโรงงานที่มีประสิทธิภาพที่สุดของ Tesla สามารถผลิตรถ 1 คันได้ในเวลาเพียง 37 วินาที และมีกำลังการผลิตประมาณ 950,000 คันต่อปี ทำให้โรงงานแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า Tesla ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตใน Giga Shanghai เป็น 2 ล้านคันต่อปี โดยเพิ่มการผลิตด้วยการสร้างโรงงานเฟส 3 ที่คาดว่าจะใช้ผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ราคาประหยัดเป็นจำนวนมากหาก Tesla ผลิตรถยนต์รุ่นราคาประหยัดในจีน ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะนำเข้ามายังประเทศไทยด้วย โดยจะต้องรอติดตามความคืบหน้าต่อไป
นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน มั่นใจเต็มร้อยว่าบริษัท เทสลา (Tesla) ซึ่งเป็นบริษัทยานยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา จะลงทุนในประเทศไทยอย่างแน่นอน โดยเทสลากำลังพิจารณาเลือกอุตสาหกรรมที่จะลงทุนในประเทศไทย โดยที่ดินที่เทสลาต้องการคือประมาณ 2,000 ไร่ และจะไม่ใช่เพียงอู่ประกอบรถยนต์เพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นซัพพลายเชนทั้งหมด การลงทุนครั้งนี้จะช่วยยกระดับประเทศไทยขึ้นไปอีกระดับ ไม่ติดอยู่กับกับดักรายได้ปานกลาง และทำให้ประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางของอุตสาหกรรมสมัยใหม่
นายกฯ เปิดเผยถึงความมั่นใจในการลงทุนของเทสลานี้ จากการกล่าวปาฐถกาพิเศษ หัวข้อ “อนาคตเศรษฐกิจไทย” ในงานสัมมนาวิชาการหลักสูตรวิทยาการการจัดการสำหรับนักบริหารระดับสูง (วบส.) ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ โดยมีใจความว่า "เป็นผลมาจากการที่รัฐบาลไทยได้ดำเนินการต่างๆ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก เช่น การปรับโครงสร้างภาษี การปรับปรุงกฎระเบียบ และการให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนต่างชาติ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เทสลาได้เดินทางมาเยือนประเทศไทย และรัฐบาลไทยได้จัดโปรแกรมพิเศษเพื่อต้อนรับ โดยพาเทสลาไปเยี่ยมชมงานยี่เป็งที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเทศกาลวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ของไทย และยังเป็น Soft Power อีกด้วย โดย นายกฯ เชื่อว่าการต้อนรับอย่างอบอุ่นของรัฐบาลไทยจะช่วยสร้างความประทับใจให้กับเทสลา และทำให้เทสลาตัดสินใจลงทุนในประเทศไทยในที่สุด"
ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ที่สำคัญของโลก โดยมีโรงงานผลิตรถยนต์มากกว่า 30 แห่ง กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ สามารถแบ่งตามขนาดพื้นที่ได้เป็น 3 ระดับ ดังนี้
สำหรับโรงงานผลิตรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยคือ โรงงานผลิตรถยนต์ของโตโยต้า ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ จ.ฉะเชิงเทรา มีพื้นที่ทั้งหมด 2,000 ไร่ ส่วนโรงงานผลิตรถยนต์ที่มีขนาดเล็กที่สุดในไทยคือ โรงงานผลิตรถยนต์ของอีซูซุ ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซี บอร์ด จ.ชลบุรี มีพื้นที่ทั้งหมด 100 ไร่
จากข้อมูลที่กล่าวมา สำหรับเนื้อที่ 2,000 ไร่นี้ถือว่าใหญ่มากๆ หากเทียบกับ byd ที่ได้ เซ็นสัญญากับ WHA ในการซื้อที่ดิน 600 ไร่ ตั้งโรงงานผลิตรถ EV 1.5 แสนคัน/ปี เรียกได้ว่าเยอะกว่าถึง 3 เท่า และหากเทสลาตัดสินใจลงทุนในประเทศไทยจริง การลงทุนครั้งนี้จะมีมูลค่ามหาศาล และจะช่วยสร้างงานให้กับคนไทยจำนวนมาก การลงทุนครั้งนี้ยังจะช่วยยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลก และทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียได้
ที่มา electrek