ตลท.เตือนนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายหุ้น MGI ราคาร้อนแรงไม่หยุด
ราคาหุ้น MGI หรือ บมจ.มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ร้อนแรงตั้งแต่เปิดวันแรกของการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อ 14 ธ.ค.2566 โดยปรับขึ้นจากราคา IPO ที่ 4.95 บาท ไปแตะราคาสูงสุด (Ceiling) หลายวันทำการ ล่าสุดวันนี้ (20 ธ.ค.2566) ราคาขึ้นชนเพดานที่ 20.10 บาทและ ร่วงลงมาปิดที่ 16.90 บาท/หุ้น หรือ 9.03% มูลค่าการซื้อขาย 1,913 ล้านบาท
คอนเทนต์แนะนำ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ออกหนังสือเตือนขอให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายหลักทรัพย์ บมจ.มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MGI) เนื่องจากราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องด้วยมูลค่าการซื้อขายที่สูงตลอด 5 วันทำการที่เริ่มเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai รวม +255.56% จากราคา IPO ที่ 4.95 บาท และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยที่ 995.36 ล้านบาท โดยเฉพาะวันที่ 18-19 ธ.ค.66 ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นไปที่ราคาเพดานของวัน (Ceiling) จนไม่เหลือปริมาณหุ้นเสนอขาย (Offer) ทั้ง 2 วันทำการ
ในภาคเช้าของการซื้อขายวันนี้ (20 ธ.ค.) ราคามีความผันผวนปรับขึ้นไปสูงสุดที่ราคาเพดาน (Ceiling) ที่ 20.10 บาท (+29.68%) ก่อนจะลดลงอย่างรวดเร็วไปต่ำสุดที่ 13.60 บาท (-12.26%) โดยมาปิดภาคเช้าวันนี้ที่ 17.60 บาท (+13.55%) ด้วยมูลค่าการซื้อขายอันดับ 2 (SET+mai) ที่ 1,318 ล้านบาท มี P/E และ P/BV 41.81 เท่า และ 7.97 เท่า ตามลำดับ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังและพิจารณาปัจจัยพื้นฐาน ประกอบกับสภาพการซื้อขายของ MGI ก่อนการตัดสินใจลงทุน
ก่อนหน้านี้ นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรสด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI ระบุว่า การเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 284 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) เพื่อใช้สำหรับลงทุนปรับปรุงตกแต่งอาคาร จำนวนเงินที่ใช้โดยประมาณ 40 ล้านบาท ภายในปี 2566-2567, ลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้า และผลิตรายการ เพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้ในทุกช่องทาง จำนวนเงินที่ใช้โดยประมาณ 50 ล้านบาท ภายในปี 2566-2567, ลงทุนพัฒนาขีดความสามารถของระบบสารสนเทศ (Information Technology) จำนวนที่ใช้ราว 20 ล้านบาท ภายในปี 2566-2567 และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้เติบโตก้าวกระโดดได้ในอนาคต
สำหรับผลการดำเนินงานของ MGI ปี 2565 มีรายได้รวม 319.86 ล้านบา กำไรสุทธิ 47.85 ล้านบาท งวด 9 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้รวม 432.45 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 77.13 ล้านบาท
สำหรับสัดส่วนรายได้ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 มาจากธุรกิจพาณิชย์ 40.86% ธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ 12.63% ธุรกิจสื่อและบันเทิง 19.06% ธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน 23.12% รายได้ค่าเช่าช่วง MGI Hall 3.51% และ รายได้อื่น 0.82%
