ภารกิจแรกของ ‘Legacy Holding Group’ ยกระดับแบรนด์ ‘Miss Universe’
ภารกิจแรกของ ‘มิสเตอร์ราอูล โรชา คานตู’ ร่วมกับ ‘แอน จักรพงษ์’ ภายหลังจากได้ ‘Legacy Holding Group’ เดินหน้าการเป็น Strategic Partner พลิกโฉมกลุ่มธุรกิจ MUO ให้ครอบคลุมมากกว่าการเป็นธุรกิจจัดการประกวดสาวงามอันดับ 1 ของโลก ยกระดับแบรนด์ ‘Miss Universe’ เพื่อเพิ่มมูลค่า
ด้วยโมเดลการให้สิทธิผลิตหรือบริการหรือใช้เครื่องหมายการค้าแบรนด์ Miss Universe สร้างความสำเร็จครั้งใหม่กับการขยายธุรกิจสินค้าและบริการระดับพรีเมียมใน 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลก
มิสเตอร์ราอูล โรชา คานตู ประธานคณะกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Legacy Holding Group และ Strategic Partner ของ JKN Legacy เปิดเผยว่า กลุ่ม Legacy Holding เดินหน้าการเป็น Strategic Partnership เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตให้แก่กลุ่มธุรกิจ MUO ทันที ภายหลังเข้าลงทุนใน JKN Legacy ผู้ดำเนินธุรกิจองค์กรนางงามจักรวาลและครอบครองลิขสิทธิ์นางงามจักรวาล หรือ มิสยูนิเวิร์ส
คอนเทนต์แนะนำ
โดยจะนำศักยภาพของ Legacy Holding Group ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจหลากหลายอุตสาหกรรม และเครือข่ายทางธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีมากกว่า 40 บริษัท ใน 5 ภูมิภาคทั่วโลก ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจอุตสาหกรรม ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจการแพทย์ นิคมอุตสาหกรรม ธุรกิจการตลาด ธุรกิจด้านการบริการ ธุรกิจการบิน ธุรกิจยานยนต์ ธุรกิจบันเทิง ที่มีบุคลากรรวมกันมากกว่า 10,000 คน เพื่อสนับสนุนและสร้างโอกาสทางธุรกิจ MUO ในกลุ่มประเทศอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้
ภารกิจแรกภายหลังร่วมทุน จะมุ่งยกระดับความยิ่งใหญ่ของแบรนด์ Miss Universe โดยสานต่อความสำเร็จการประกวด Miss Universe เปิดโอกาสให้ผู้หญิงทุกๆ คน ในทุกช่วงชีวิต ได้เข้ามาแสดงความสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้หญิงทั่วโลก บนเวทีการประกวด Miss Universe ครั้งที่ 73 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศเม็กซิโกในช่วงปลายปีนี้ พร้อมสานต่อความสำเร็จด้านโปรดักชั่นทั้งแสงสีเสียงจากการจัดประกวดครั้งที่ผ่านมา เพื่อตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของเวทีการประกวดสาวงามอันดับหนึ่งโลก
นอกจากนี้ จะทำงานร่วมกับ ‘คุณแอน-จักรพงษ์’ เพื่อร่วมขับเคลื่อนกลยุทธ์ธุรกิจ MUO โดยจะมุ่งเพิ่มพูนโครงสร้างรายได้ 10 ด้าน ได้แก่ 1.Franchise Fee รายได้จากค่าลิขสิทธิ์ในการจัดประกวดที่เรียกเก็บจากแต่ละประเทศในการจัดประกวดนางงามเพื่อหาตัวแทนเข้าร่วมประกวด Miss Universe 2.Hosting Fee รายได้จากค่า License ที่เรียกเก็บจากประเทศที่เป็นเจ้าภาพจัดการประกวด 3.Production Fee รายได้จากการรับจ้างผลิตงานประกวด 4.Sponsorship Fee รายได้ที่เกิดจากผู้สนับสนุนการจัดการประกวด 5.Licensing & Merchandising Fee รายได้จากการจำหน่ายสินค้าหรือบริการ หรือให้สิทธิ์ผลิตสินค้าหรือบริการภายใต้แบรนด์หรือเครื่องหมายการค้าต่างๆ ของ MUO 6.Broadcast Fee รายได้จากการให้ License ในการเผยแพร่สัญญาณการจัดการประกวดในแต่ละประเทศ 7.Program & Format fees รายได้จากการให้สิทธิในการผลิตรายการ 8.Talent Management fee (รายได้จากการบริหารจัดการงานจ้างและงานบันเทิงให้แก่ผู้ครองตำแหน่ง 9.Ticket Sales รายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมการประกวดทั้งงาน Event และ 10.Travel Packages รายได้จากการดำเนินธุรกิจท่องเที่ยว
“เรามีเป้าหมายชัดเจนที่ต้องการยกระดับแบรนด์ Miss Universe เพื่อเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจจากการใช้ประโยชน์ของ Miss Universe ซึ่งเป็นระดับ Global Brand ที่มีมูลค่าสูงที่ได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลกมายาวนานกว่า 72 ปี ไปแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ สร้างประสบการณ์ระดับพรีเมียมแก่สินค้าและบริการที่จะนำเสนอให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลก” มิสเตอร์ราอูล โรชา คานตู กล่าว
กลุ่ม Legacy Holding Group เร่งขับเคลื่อนยกระดับการดำเนินงานของกลุ่ม MUO สร้างโอกาสทางธุรกิจให้ครอบคลุมมากกว่าการจัดการประกวด โดยปรับเปลี่ยน Business Model ขยายขอบเขตแบรนด์ Miss Universe ไปสู่ธุรกิจสินค้าและบริการทั้ง 5 กลุ่ม ได้แก่ 1.สปาและสกินแคร์ 2.คอสเมติก 3.น้ำหอม 4.ชุดว่ายน้ำและชุดชั้นใน และ 5.เครื่องดื่ม ผ่านรูปแบบการให้สิทธิผลิตหรือบริการหรือใช้เครื่องหมายการค้าภายใต้แบรนด์ Miss Universe
คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JKN Legacy Inc ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ. เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป หรือ JKN กล่าวว่า บริษัทฯ จะทำงานร่วมกับ Strategic Partner อย่างใกล้ชิด เพื่อวางแนวทางธุรกิจ MUO ไปสู่โอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจและประโยชน์สูงสุดให้แก่ผู้บริโภค ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อทำตลาดทั่วทุกภูมิภาคของโลก โดยอาศัยเครือข่ายธุรกิจของพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของกลุ่ม Legacy Holding ที่มีความเชี่ยวชาญการดำเนินธุรกิจและเข้าใจผู้บริโภคในแต่ละประเทศ นำพาแบรนด์ Miss Universe ไปสู่ความสำเร็จบทใหม่ที่จะทำให้แบรนด์มีความใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
