สภาทองคำโลกชี้ สิงคโปร์มีศักยภาพสูงที่จะกลายเป็นศูนย์กลางซื้อขายทองที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก เพราะว่ามีทำเลที่ตั้งเหมาะ อยู่ไม่ไกลมากจากประเทศที่เป็นแหล่งผลิตทอง มีการเมืองที่มีเสถียรภาพและเศรษฐกิจที่มั่นคง อีกทั้ง ยังมีมาตรการยกเว้นภาษีซื้อขายทองลงทุนสนับสนุน
ปัจจุบัน ทองกลายเป็นสินทรัพย์ยอดฮิตที่คนพอมีกำลังทุน รวมถึงหน่วยงานอย่างธนาคารกลาง นิยมหาซื้อมาเก็บไว้ เพื่อรักษามูลค่าสินทรัพย์ กระจายความเสี่ยง และลงทุน เพราะเศรษฐกิจโลกและการเมืองโลกกำลังอยู่ในความไม่แน่นอน ทั้งความขัดแย้งในตะวันออกกลาง สงครามรัสเซียยูเครนที่ยังไม่จบ และสงครามการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ จีน และสหภาพยุโรป
ท่ามกลางการซื้อขายทองที่ร้อนแรงขึ้น หนึ่งในผู้ได้รับผลประโยชน์ก็หนีไม่พ้นผู้ที่เกี่ยวข้องในซัพพลายเชนการซื้อขายทุน และประเทศตัวกลางที่เป็นแหล่งในการซื้อขาย ซึ่งในความเห็นของสภาทองคำโลก มองว่า ประเทศที่มีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางซื้อขายทองของโลกได้ก็คือ ‘สิงคโปร์’ เพราะมีทั้งปัจจัยทางภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ และการเมือง ที่พร้อม
ในด้าน ‘ภูมิศาสตร์’ สิงคโปร์มีความเหมาะสม เพราะตั้งอยู่ไม่ไกลจากประเทศที่เป็นแหล่งผลิตทองสำคัญของโลก ไม่ว่าจะเป็น จีน ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ปาปัวนิวกินี และ สปป. ลาว ทำให้การขนส่งขนย้ายทองมาสิงคโปร์เป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย เพราะสิงคโปร์เป็นเมืองท่าที่มีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมสำหรับการขนส่งอยู่แล้ว
นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังเป็นประเทศที่มีที่ตั้งอยู่ใกล้ผู้ซื้อทองรายใหญ่ของโลก นั่นก็คือ ธนาคารกลางของเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น ธนาคารประชาชนจีน (People’s Bank of China) ซึ่งเป็นผู้ซื้อทองรายใหญ่ที่สุดในปี 2023 ธนาคารกลางญี่ปุ่น ธนาคารกลางอินเดีย รวมไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยที่ซื้อทองมากที่สุดติดสิบอันดับแรกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ในด้าน ‘เศรษฐกิจ’ สิงคโปร์ เป็นประเทศที่เป็นศูนย์กลางการเงิน การซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตรา มีเสถียรภาพทางการเงินและเศรษฐกิจสูง อีกทั้ง ยังมีมาตรการทางภาษีช่วย เพราะรัฐบาลได้ยกเว้นภาษีการซื้อขายทองสำหรับการลงทุนตั้งแต่ปี 2012 ทำให้การซื้อขายทองในสิงคโปร์มีต้นทุนน้อยกว่าที่อื่น
ส่วนในด้าน ‘การเมือง’ สิงคโปร์ก็มีความโดดเด่นเพราะเป็นประเทศหนึ่งที่มีเสถียรภาพการเมืองมากที่สุดในโลก เห็นได้จากการสืบทอดอำนาจที่ราบรื่นระหว่างนายกรัฐมนตรี 4 คนจากพรรคกิจประชาชน แม้จะยังมีข้อกังขาในด้านความเป็นประชาธิปไตย
นอกจากนี้ สิงคโปร์ ยังถือได้ว่า เป็นประเทศที่มีความเป็นกลาง และไม่มีบทบาทในเกมการเมืองโลกมากนัก ทำให้มีโอากสต่ำที่จะเกิดความขัดแย้งหรือสงครามกับประเทศอื่นๆ ทำให้ค่อนข้างมั่นใจได้ว่าการซื้อขายทองในสิงคโปร์จะไม่ถูกรบกวนด้วยควาามขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ หรือสงครามที่มีการใช้อาวุธหนัก
จากปัจจัยเหล่านี้ สิงคโปร์จึงเหมาะที่จะเป็นศูนย์กลางเก็บและซื้อขายทองที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลก นอกเหนือจากนิวยอร์ก และลอนดอน ที่เป็นเมืองศูนย์กลางที่เก็บรักษาทองไว้มากที่สุดของโลกในปัจจุบัน
ในปี 2022 สิงคโปร์เป็นผู้นำเข้าและส่งออกทองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 7 ของโลก โดยนำเข้าเป็นมูลค่า 1.71 หมื่นล้านดอลาร์สหรัฐ และส่งออกเป็นมูลค่า 1.31 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา: CNBC