ปีนี้ลดหย่อนภาษีด้วยอะไรดี TESG หรือ SSF หรือ RMF แบบไหนดีกว่ากัน ? โค้งสุดท้ายลดหย่อนภาษีปลายปี 2567 แบบนี้ ผมมักจะได้ยินคำถามทำนองนี้บ่อย ๆ
ก่อนจะไปตอบคำถามว่าซื้ออะไร ผมอยากชวนคุยในมุมของเงื่อนไขการลดหย่อนภาษีก่อนครับ
โดยเป็นกองทุนที่ลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, and Governance หรือ ESG) หรือ ลงทุนในตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน (Sustainable Bond) ตามหลักเกณฑ์ของสำนักงาน ก.ล.ต.ครับ
โดยในปี 2567 กองทุน TESG มีการเปลี่ยนเงื่อนไขเพิ่มเติม ให้ซื้อได้ในจำนวนเงินที่มากขึ้นและถือครองในอายุที่น้อยลงตามนี้ครับ
เป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่งที่ลงทุนไว้ในสินทรัพย์หลากหลายประเภท ซึ่งมีวัตถุประสงค์ไว้ใช้ในการวางแผนเกษียณของเราครับ โดยมีเงื่อนไขดังนี้ครับ
เป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่งที่ลงทุนไว้ในสินทรัพย์หลากหลายประเภท ซึ่งมีวัตถุประสงค์ไว้ใช้ในการวางแผนลงทุนระยะยาวของเราครับ โดยมีเงื่อนไขดังนี้ครับ
*การลงทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ หมายถึง กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD), กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.), กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน, กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.), กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)
ทีนี้มาถึงคำถามแล้วครับว่า แล้วควรเลือกตัวไหนดี ผมมีแนวคิดสั้น ๆ สามข้อให้พิจารณาครับ
ดังนั้นสิ่งทีต้องตอบให้ได้ คือ เราเลือกจากแนวคิดแบบไหน และ ยอมรับผลของการเลือกของตัวเองได้หรือเปล่า เพราะสิ่งที่ผมมักจะได้ยินเสมอคือ กองทุนลดหย่อนภาษีกลุ่มนี้ดีกว่ากองทุนนั้น กองทุนนั้นดีกว่ากองทุนโน้น แต่ความเป็นจริงแล้ว กองทุนแต่ละกลุ่มถูกออกแบบในเป้าหมายที่แตกต่างกัน และ สินทรัพย์ที่แตกต่างกัน หรือถ้าให้พูดสั้น ๆ ก็คือ เลือกกองทุนให้ถูกประเภทกับเป้าหมายที่เราต้องการ และความเสี่ยงที่เรารับได้ครับ
ดังนั้นผมมองว่า สิ่งที่เราควรยึดและใส่ใจจริง ๆ คือ เป้าหมายการเงินระยะยาวที่เรามี ทุกครั้งที่เกิดความผิดพลาดในการลงทุน ลองเช็คหนทางแก้ไขว่า ควรจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร เช่น สับเปลี่ยนกองทุน (ในประเภทเดียวกัน) เพื่อปรับผลตอบแทนและความเสี่ยงตามที่เรารับได้ในแต่ละช่วงเวลา หรือ การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่เราเข้าใจมันจริง ๆ เพื่อผลประโยชน์ที่ได้รับในอนาคต ซึ่งมีคุณค่ามากกว่าการลดหย่อนภาษีเป็นตัวตั้งเพียงอย่างเดียว
สุดท้ายแล้ว ก่อนจะลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีต่าง ๆ เราควรตอบคำถามเหล่านี้ให้ดี เพื่อที่เราจะได้ลงทุนด้วยความเข้าใจ และปรับตัวได้ทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะขาดทุนหรือกำไรนั่นเองครับ...แต่ขอเป็นกำไรน่าจะดีกว่านะครับ (ฮา)
ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี เจ้าของเพจ TAXBugnoms