การเงิน

ลุ้นเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว-เฟดลดดอกเบี้ย หนุนราคาทองคำรอบใหม่

30 มิ.ย. 67
ลุ้นเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว-เฟดลดดอกเบี้ย  หนุนราคาทองคำรอบใหม่
ไฮไลท์ Highlight
ความหวังของนักลงทุนดังกล่าว แม้เสมือนว่ายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อประเด็นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งนับเป็นปัจจัยที่คอยกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ส่งเสริมแนวโน้มการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำดังเช่นที่ผ่านมา แต่กระนั้น จากการส่งสัญญาณของเฟดต่อแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกบี้ยด้วยขนาดที่ลดลง นับว่าได้มีส่วนบั่นทอนมุมมองเชิงบวกของทิศทางราคาทองคำลงจากช่วงก่อนหน้านี้

ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) รอบเดือนมิ.ย. นอกจากระบุถึงมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของหลายฝ่าย แต่ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่รายงานประมาณการภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ฉบับเดือนมิ.ย. ที่ระบุถึงคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2024 ที่ระดับ 5.1% หรือเท่ากับขนาดการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% จำนวน 1 ครั้ง จากเดิมที่เฟดเคยประเมินขนาดการปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้ง ในปีนี้

คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเฟดที่เปลี่ยนแปลงไปดังกล่าว ถูกชี้นำด้วยข้อมูลด้านเงินเฟ้อของสหรัฐที่ออกมาสูงกว่าคาดการณ์อย่างต่อเนื่องในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2024 ขณะที่ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรออกมาสูงกว่าคาดการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งตรงนี้ มีส่วนลดความมั่นใจของเฟดต่อการบรรลุเป้าหมายด้านเงินเฟ้อ สะท้อนผ่านถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ที่ชี้ว่า ข้อมูลดังกล่าวมีส่วนเปลี่ยนแปลงคาดการณ์ระดับเงินเฟ้อของเฟด ส่งผลให้เฟดจำเป็นต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง ด้วยระยะเวลายาวนานกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ 

afp__20240131__1975776561__v2

ทั้งนี้ แม้ว่าข้อมูลข้อมูลด้านเงินเฟ้อของสหรัฐ มีการชะลอตัวลงทั้งเดือนเม.ย. และพ.ค. ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจในฝั่งตลาดแรงงาน บ่งชี้ถึงการปรับตัวเข้าสู่ภาวะสมดุลที่ดีมากขึ้น แต่จาก การปรับเพิ่มคาดการณ์ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (PCE) และพื้นฐาน (Core PCE) ในปีนี้ ซึ่งเป็นมาตรวัดด้านเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ได้สะท้อนถึงคาดการณ์ระดับเงินเฟ้อของเฟดที่เปลี่ยนแปลงตามถ้อยแถลงของนายพาวเวล

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาที่ข้อมูลค่ากลางดอทพอทของเฟด พบว่า เจ้าหน้าที่เฟด 8 จาก 19 ราย นั้นยังคงสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ 2 ครั้งในปีนี้ สอดคล้องกับถ้อยแถลงของนางซูซาน คอลลินส์ ประธานเฟด สาขาบอสตัน ที่ชี้ถึงความเป็นไปได้ต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดระหว่าง 1-2 ครั้ง ในช่วงปลายปี ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดรายอื่นที่แม้สนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้ง ในปีนี้ แต่ได้แสดงความพึงพอใจต่อข้อมูลเงินเฟ้อในปัจจุบัน ทำให้นักลงทุนมีความหวังต่อแนวโน้มที่เฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงที่ 2 ครั้ง

ความหวังของนักลงทุนดังกล่าว แม้เสมือนว่ายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อประเด็นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งนับเป็นปัจจัยที่คอยกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ส่งเสริมแนวโน้มการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำดังเช่นที่ผ่านมา แต่กระนั้น จากการส่งสัญญาณของเฟดต่อแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกบี้ยด้วยขนาดที่ลดลง นับว่าได้มีส่วนบั่นทอนมุมมองเชิงบวกของทิศทางราคาทองคำลงจากช่วงก่อนหน้านี้

อนึ่ง นักลงทุนได้ซึมซับมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มที่เฟดจะสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่กำลังเข้าสู่ภาวะขาลงไปแล้ว สะท้อนผ่านการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำนับตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ฉะนั้น ความเป็นไปได้ในส่วนนี้ อาจไม่สร้างแรงหนุนต่อราคาทองคำให้ดีดตัวขึ้นได้มากนัก

นอกจากนั้น แม้ข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐในระยะนี้ มีการออกมาชะลอตัวลงกว่าคาดการณ์ในหลายรายการ แต่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดเหลือเพียง 2 ครั้ง ในปีนี้ ต่างจากคาดการณ์ของเฟดเพียง 1 ครั้ง ขณะที่ในช่วงเริ่มต้นปี 2024 หากนักลงทุนมีมุมมองเชิงบวก มักมีการให้น้ำหนักต่อคาดการณ์ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่สูงราว 6-7 ครั้ง ต่างคาดการณ์ของเฟดในเวลานั้นราว 3-4 ครั้ง  ซึ่งอาจบอกได้ถึงสถานการณ์ที่นักลงทุนก็ไม่เชื่อเช่นกันว่า เฟดจะสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงได้มากนักในปีนี้ 

อย่างไรก็ดี การตัดสินใจของเฟดยังคงขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อสหรัฐ ดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีการแสดงความพึงพอใจต่อข้อมูลเงินด้านเงินเฟ้อในระยะนี้ ซึ่งรวมถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด โดยการแถลงภายหลังการเปิดเผยผลการประชุม FOMC นั้น ได้มีการแสดงถึงมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางเงินเฟ้อและภาวะตลาดแรงงานในสหรัฐ เพียงแต่ยังคงสะท้อนถึงความไม่มั่นใจต่อความต่อเนื่องของข้อมูลที่ออกมาในลักษณะเชิงบวกเช่นนี้ สอดคล้องกับเจ้าหน้าที่เฟดรายอื่น ที่ชี้ว่า ข้อมูลการชะลอตัวลงของเงินเฟ้อเช่นปัจจุบันต้องมีความต่อเนื่อง ถึงจะชี้นำให้เกิดการปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้

ด้วยเหตุนี้ หากข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐนั้น มีทิศทางชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง อันเพิ่มความมั่นใจของเฟดต่อการบรรลุเป้าหมายด้านเงินเฟ้อของเฟด จนเกิดการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ได้จริง ราคาทองคำจะมีการปรับตัวขึ้นตอบรับ แต่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นได้อย่างร้อนแรงมากกว่า หากเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างหนัก อันเป็นเหตุให้เฟดอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่ส่งสัญญาณ ผลักดันให้นักลงทุนมีคาดการณ์ต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2025 ที่รุนแรงขึ้น สถานการณ์เช่นนี้ ราคาทองคำอาจสามารถสร้างระดับสูงสุดใหม่ตลอดกาลที่ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในช่วงปลายปี

ขณะที่หากเศรษฐกิจสหรัฐสามารถเข้าสู่ภาวะซอฟท์แลนดิ้งได้ โดยเงินเฟ้อมีการปรับตัวลง แต่เศรษฐกิจและตลาดแรงงานไม่ได้ชะลอตัวลงอย่างรุนแรง โดยเพียงปรับตัวเข้าสู่ภาวะสมดุลที่ดีมากขึ้น ราคาทองคำอาจเลื่อนการสร้างระดับสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่ออกไปในช่วงปี 2025 ดังนั้น แนะนำติดตามภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อสหรัฐ รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด เพื่อประเมินสถานการณ์ในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง 

 

ฐิภา นววัฒนทรัพย์

ฐิภา นววัฒนทรัพย์

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท YLG Bullion And Future จำกัด

advertisement

SPOTLIGHT