.jpg)
ผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2567 ของ Alphabet บริษัทแม่ Google พบว่า ทำรายได้สูงถึง 84,742 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ 3.068 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.6% จากช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ในขณะที่รายได้จากการดำเนินการเพิ่มขึ้นเป็น 27,425 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 992,785 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.7% และกำไรสุทธิทะลุ 23,619 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 855,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.6% เช่นกัน
เนื่องจากรายได้จาก Google Search และ Google Cloud เพิ่มสูงขึ้น โดยในรายงานระบุว่า Search ทำรายได้ถึง 48,509 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ Google Cloud ทำรายได้สูงถึง 10,347 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และผลกำไรจากการดำเนินงานมากถึง 1,172 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 395 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยในระหว่างการประชุมทางโทรศัพท์ Sundar Pichai ซีอีโอของ Google กล่าวว่า โซลูชัน Generative AI สำหรับลูกค้าคลาวด์ของบริษัทสามารถสร้างรายได้นับพันล้านแล้วและมีนักพัฒนามากกว่า 2 ล้านคนที่ใช้งาน ซึ่งบริษัทกำลังสร้างนวัตกรรมในทุกชั้นของ AI ด้วยความมั่นใจในการเป็นผู้นำและสร้างสรรค์นวัตกรรมต่อไป ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี จากความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมาและความพยายามในการวิจัยที่ทุ่มเท
ทั้งนี้ ภายหลังจาก Google มีมูลค่าตลาดในระดับ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัทเริ่มเปิดตัว AI Overview ใน Search ที่ขับเคลื่อนโดยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ‘Gemini’ แต่ผู้ใช้งานบางรายยังพบคำตอบที่แปลกประหลาดสำหรับคำถามบางข้อที่ป้อนเข้าไปในแชทบอท ทำให้ Google ต้องเอาฟีเจอร์นี้ลงก่อน อย่างไรก็ตาม Pichai กล่าวว่า ภาพรวมของ AI Overview ได้นำไปสู่ การใช้งาน Search ที่เพิ่มขึ้น และเพิ่มความพึงพอใจของผู้ใช้กับผลลัพธ์
ส่วนในสัปดาห์นี้ Google ประกาศว่า จะยกเลิกแผนในการยุติการใช้คุกกี้ของบุคคลที่สามตามค่าเริ่มต้น หลังจากที่มีแผนมาตั้งแต่ปี 2019 โดย Google Chrome จะให้ผู้ใช้งานตัดสินใจเลือกการตั้งค่าคุกกี้ของตน แทนที่จะบล็อกคุกกี้ของบุคคลที่สามตามค่าเริ่มต้น เพื่อให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของตนได้มากขึ้น
ส่วนธุรกิจอื่นๆ ของ Alphabet ก็เติบโตเช่นกัน โดยธุรกิจโฆษณาของ Google เพิ่มขึ้นเป็น 64,616 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่โฆษณา YouTube เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา เป็น 8,663 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนรายได้จากการสมัครสมาชิก แพลตฟอร์ม และอุปกรณ์ต่างๆ อยู่ที่ 9,312 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ Google เป็นผู้นำในการแข่งขัน AI เนื่องจากได้พัฒนาเทคโนโลยีส่วนใหญ่ที่สนับสนุนแชทบอทยอดนิยม แต่ตอนนี้ บริษัทอยู่ภายใต้แรงกดดันในการพิสูจน์ว่า บริษัทสามารถทนต่อการแข่งขันจาก OpenAI และ Microsoft ได้ เนื่องจากพวกเขาพยายามดึงผู้คนออกจากการค้นหาเว็บแบบเดิมๆ โดยผลักดันแชทบอทที่สามารถตอบคำถามของผู้ใช้ในรูปแบบการสนทนาได้
Google จึงเร่งพัฒนารวม AI เข้ากับผลิตภัณฑ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งหมด ซึ่งมีทั้ง Gmail, Google Docs, และ Search ในขณะเดียวกันก็เพิ่มขีดความสามารถ AI ของตัวเอง นอกจากนี้ Google มีแนวโน้มที่จะขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากงานเปิดตัวฮาร์ดแวร์มาเร็วกว่าปกติในเดือนสิงหาคม ซึ่งจะเปิดตัว Pixel 9 และ Pixel 9 Pro Fold
ทั้งนี้ หุ้นของ Alphabet ปิดตลาดที่ 138.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.14% และมูลค่าตลาดที่ 2.254 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ที่มา The Verge, ABC XYZ, New York Times, Bloomberg