สิงคโปร์ขึ้นแท่นประเทศที่มีพนักงานเสริมทักษะด้าน AI ได้เร็วที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลกแล้ว จากรายงานฉบับล่าสุดของ LinkedIn สะท้อนเทรนด์สำคัญในการยกระดับแรงงาน โดยรายงานฉบับนี้เผยว่า สิงคโปร์มีอัตราการกระจายตัวแรงงานที่มีทักษะด้าน AI โตแรงถึง 20 เท่า นับตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยของทั่วโลกที่ 8 เท่า
Pooja Chhabria ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพของ LinkedIn เผยว่า โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่แข็งแกร่งของประเทศ, กฎหมายปกป้องด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่เข้มแข็ง และแวดวงนักลงทุน VC และ Angel Investor ที่กำลังเติบโต คือสาเหตุสำคัญที่ส่งผลต่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในด้านทักษะของแรงงานสิงคโปร์ พื้นฐานที่สมบูรณ์เหล่านี้ช่วยให้สตาร์ทอัพและธุรกิจกล้าที่จะนำ AI มาใช้และพัฒนาต่อยอด เพิ่มแต้มต่อในการแข่งขันให้หลากหลายอุตสาหกรรมของประเทศ
นอกจากสิงคโปร์แล้ว ตัวอย่างประเทศที่มีการเติบโตของแรงงานที่มีทักษะทางด้าน AI ที่น่าสนใจยังมี Finland โต 16 เท่า, Ireland โต 15 เท่า, India โต 14 เท่า, Canada โต 13 เท่า
LinkedIn เผยว่า AI จะเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพให้กับสายอาชีพต่างๆ เช่น อาชีพครู ซึ่ง Generative AI สามารถเข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถ และศักยภาพในการทำงานได้ แต่ทักษะเฉพาะด้านของสายอาชีพนั้นๆ เช่น การจัดการห้องเรียน การศึกษาพิเศษ ยังคงต้องการการมีส่วนร่วมของมนุษย์ผู้มีทักษะเชี่ยวชาญจริงๆ ค่อนข้างมาก
สัดส่วนของทักษะที่ GenAI เข้ามาช่วยเสริมในแต่ละอาชีพ
ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีหลายอาชีพที่ต้องพึ่งพามนุษย์เป็นส่วนใหญ่ และใช้ AI เข้ามาช่วยงานได้เพียงเล็กน้อย เช่น พนักงานดูแลบ่อขุดน้ำมัน 1%, ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของสุขภาพสิ่งแวดล้อม 3%, พยาบาล 6% และแพทย์ 7%
ผลลัพธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คือ ตลาดงานจะต้องหาสมดุลใหม่ระหว่างการนำ AI เข้ามาใช้ กับทักษะการทำงานเฉพาะด้านของมนุษย์ ซึ่งหมายความว่า AI จะเข้ามาทรานสฟอร์มวงการการทำงานและการกระจายงาน ส่งผลให้ทักษะความคิดสร้างสรรค์, ความเป็นผู้นำ, การสื่อสาร และการตัดสินใจบนพื้นฐานของจริยธรรม สำคัญมากยิ่งขึ้น
ที่มา : cnbc