อินไซต์เศรษฐกิจ

ญี่ปุ่นเปิดประเทศ ทำไมเปิดประเทศแล้วไม่ปัง? กับ 3 อุปสรรคการท่องเที่ยว

15 ส.ค. 65
ญี่ปุ่นเปิดประเทศ ทำไมเปิดประเทศแล้วไม่ปัง? กับ 3 อุปสรรคการท่องเที่ยว

ญี่ปุ่นเปิดประเทศแล้ว! ถือเป็นประเทศในฝันที่คนรออยากจะกลับไปเที่ยวอีกครั้งหลังโควิดคลี่คลาย แต่กลายเป็นว่าหลังเปิดประเทศงวดนี้ กลับไม่มีคลื่นนักท่องเที่ยวอย่างที่คาด  


จากข้อมูลสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่น พบว่า ระหว่างวันที่ 10 มิถุนายน - 10 กรกฎาคม "มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพียง 1,500 คน" เท่านั้น ลดลงถึงกว่า 95% จากตัวเลขในปี 2019

อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศครั้งนี้ ไม่ปังอย่างที่คิด?


นักเที่ยวไม่ชอบท่องเที่ยวแบบ "กรุ๊ปทัวร์"

ถึงแม้ญี่ปุ่นจะเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้แล้ว นักท่องเที่ยวบางส่วนกลับเลือกที่จะไม่กลับมาเพราะไม่ชอบที่ทางการญี่ปุ่นบังคับให้นักท่องเที่ยวเดินทางเป็น "กรุ๊ปทัวร์" แบบมีไกด์นำ

นอกจากจะเปลืองค่าใช้จ่ายแล้ว การท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ยังทำให้นักท่องเที่ยวขาดอิสระและไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนตามใจได้

กฎนี้ทำให้นักท่องเที่ยวจากประเทศแถบตะวันตกที่นิยมเดินทางคนเดียว หรือกับคนสนิทแบบไม่มีแพลนตายตัว ตัดสินใจไปประเทศข้างเคียงที่มีจุดเด่นด้านวัฒนธรรมคล้ายกันแต่ไม่มีข้อจำกัดจุกจิกแทน อย่างเช่น "เกาหลีใต้" จึงไม่น่าแปลกใจที่นักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกา จะมีจำนวนแค่ 150 คนเท่านั้น ในขณะที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เข้าไปในญี่ปุ่นช่วงดังกล่าว มักเป็นนักท่องเที่ยวจากเอเชียที่คนยังนิยมเที่ยวเป็นกลุ่มใหญ่กับทัวร์ เช่น เกาหลีใต้ และไทย แต่ก็มีจำนวเพียงแค่ 400 คนเท่านั้น



ญี่ปุ่นเปิดประเทศ

ญี่ปุ่นเปิดประเทศ แต่ "ไม่สุด" 

นอกจากห้ามเดินทางคนเดียวแล้ว เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย ทางการญี่ปุ่นจึงยังคงบังคับให้นักท่องเที่ยวต้อง "กักตัว" ซึ่งสวนทางหลายๆ ประเทศที่ยกเลิกมาตรการกักตัวกันแล้ว และสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในญี่ปุ่นยังคงบังคับให้นักท่องเที่ยวใส่แมสก์ขณะท่องเที่ยว ทำให้การเปิดประเทศของญี่ปุ่นถือเป็นการเปิดแบบ "ไม่สุด" (semi-open)

ข้อจำกัดเหล่านี้ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถสนุกกับการเที่ยวได้เต็มที่ อีกทั้งยังต้องวางแผนเผื่อเวลามากักตัวด้วย ทำให้ไม่สามารถเดินทางเข้ามาเที่ยวถี่ๆ ตามใจได้แบบเมื่อก่อน

อย่างไรก็ตาม การจำกัดให้คนเข้ามาน้อยๆ แบบนี้ก็มี "ข้อดี" เหมือนกัน เพราะนักท่องเที่ยวสามารถจองคิวไปกินข้าวร้านดังๆ ที่ในเวลาปกติคนเยอะจนไม่สามารถจองได้ ทำให้ธุรกิจร้านอาหารใหญ่ๆ ยังพอมีรายได้เข้ามาบ้างถึงแม้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยรวมจะยังคงซบเซา

ในญี่ปุ่นจะมีเว็บไซต์ที่ชื่อว่า arry ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ (เฉพาะสมาชิกที่ลงทะเบียน) สามารถจองคิวไปกินร้านอาหารดังๆ ที่จองยากๆ หรือไม่รับจองจากคนทั่วไปได้ เช่น ร้านซูชิ Sukiyabashi Jiro ทำให้เว็บนี้เป็นตัวช่วยอย่างดีสำหรับสายกินที่ตะลุยชิมร้านดังหรือร้านติดดาวมิชลินทั่วญี่ปุ่น ปัจจุบัน arry เริ่มมีคนต่างชาติบางรายกลับมาใช้งานจองร้านบ้างแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มที่มาด้วยวีซ่าธุรกิจ ซึ่งเป็นวีซ่าเดียวที่มาเดี่ยวได้ไม่ต้องพึ่งกรุ๊ปทัวร์ บางคนจึงถือโอกาสช่วงคนน้อยไปตามเก็บร้านในช่วงนี้เลย

ญี่ปุ่นเปิดประเทศ

ญี่ปุ่นเปิดประเทศ แต่นักท่องเที่ยว "จีน" ยังไม่กลับมา



เช่นเดียวกับประเทศท่องเที่ยวอื่นๆ นักท่องเที่ยว "จีน" คือลูกค้ากลุ่มสำคัญที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น ซึ่งพวกเขา "ยังไม่กลับมา"

ในปี 2019 ญี่ปุ่นต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนมากถึง 9.5 ล้านคน ซึ่งนับเป็นจำนวนสูงที่สุด ทิ้งห่างอันดับสองอย่างเกาหลีใต้ไปถึง 4 ล้านคน

แต่ถึงแม้ญี่ปุ่นจะเปิดประเทศแล้ว นักท่องเที่ยวจีนจำนวนมหาศาลนี้ก็ยังไม่กลับมาเพราะรัฐบาลจีนยังคงใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ (zero-Covid) ที่ทำให้คนจีนและชาวต่างชาติในประเทศไม่สามารถเดินทางเข้าออกประเทศอย่างอิสระได้ ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวของหลายๆ ประเทศเช่น ญี่ปุ่น ไทย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และออสเตรเลีย หายไปเป็นจำนวนมาก


อย่างไรก็ตาม ถึงแม้แนวโน้มการฟื้นตัวในระยะสั้นจะไม่สดใสนัก อุตสาหกรรมท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็ยังมีโอกาสฟื้นตัวสูงหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย เพราะหากญี่ปุ่นสามารถยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ และสามารถเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแบบเต็มที่ได้ ญี่ปุ่นก็ยังคงเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวเลือกกลับไปเยือน และใช้จ่ายให้เต็มคราบเพื่อ “แก้แค้น” โควิดที่ทำให้หลายคนไม่ได้ออกไปไหนนานแน่นอน


ที่มา: CNN

advertisement

SPOTLIGHT