Alibaba สร้างความตกตะลึงให้กับตลาดหุ้นฮ่องกง เมื่อยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซรายนี้ประกาศยกเลิกแผนการเสนอขายหุ้น IPO ของ Cainiao บริษัทลูกด้านโลจิสติกส์ เหตุการณ์นี้ ส่งผลสะเทือนต่อนักลงทุน และ จุดประกายความกังวล เกี่ยวกับอนาคตของตลาดหุ้นฮ่องกง
จากรายงานของทาง Reuters ระบุว่า อาลีบาบา ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ ได้ส่งสัญญาณเตือนสำหรับผู้ที่ลงทุนในสินทรัพย์จีนที่ยังไม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทได้ยกเลิกแผนการที่จะนำบริษัทลูกด้านโลจิสติกส์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และเสนอซื้อคืนหุ้นจากผู้ถือหุ้นส่วนน้อยรวมถึง Temasek ของสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นข้อตกลงที่น่าสนใจแม้จะไม่ได้ดีที่สุดก็ตาม
Cainiao Smart Logistics Network ยื่นเอกสารเพื่อเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนเป็นครั้งแรกในเดือนกันยายน โดยได้รับความสนใจมาก ในตอนนั้น Cainiao วางแผนที่จะระดมทุนอย่างน้อย 1 พันล้านดอลลาร์ ในการเสนอขายหุ้น IPO และมีมูลค่าบริษัทสูงถึง 20 พันล้านดอลลาร์
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม อาลีบาบา (Alibaba) ประกาศว่า Cainiao Smart Logistics Network Limited ซึ่งเป็นบริษัทลูก ได้ถอนตัวออกจากการเสนอขายหุ้นให้ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดหุ้นฮ่องกงแล้ว นอกจากนี้ อาลีบาบายังจะเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดจากผู้ถือหุ้นรายย่อยและพนักงานของ Cainiao ด้วยวงเงินสูงสุด 3.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
โจ ไช่ (Joe Tsai) ประธานกรรมการอาลีบาบากรุ๊ป อธิบายในการประชุมกับนักวิเคราะห์ว่า "สถานการณ์โดยรวมในตลาดทุนไม่เอื้อต่อการทำธุรกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นในภูมิภาคนี้ของโลก การดันทุรังทำข้อตกลงในตลาดทุนตอนนี้จึงไม่สมเหตุสมผลสำหรับเรา"
แหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า อาลีบาบาและนักลงทุนที่สนใจ มีความคาดหวังเรื่องมูลค่าของบริษัทไม่ตรงกัน ปัจจุบัน อาลีบาบาถือหุ้นใน Cainiao อยู่ 63.7% ส่วนนักลงทุนรายอื่นๆ ได้แก่ เสิ่น กั๋วจิน (Shen Guojun) มหาเศรษฐีชาวจีน, กองทุน GIC ของสิงคโปร์, กองทุนเทมาเส็ก (Temasek) และกองทุน Khazanah Nasional ของมาเลเซีย
การล้มเลิกแผน IPO นี้เป็นผลเสียอย่างเห็นได้ชัดต่อตลาดฮ่องกง ปริมาณการระดมทุนผ่าน IPO ในฮ่องกงลดลง 56% เมื่อปีที่แล้ว เหลือเพียง 5.9 พันล้านดอลลาร์ ดัชนี Hang Seng ก็เป็นหนึ่งในดัชนีหลักที่แสดงผลการดำเนินงานได้แย่ที่สุดในโลก ความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนและกฎระเบียบที่เข้มงวดของรัฐบาลปักกิ่งเป็นตัวผลักดันให้นักลงทุนหันหลังให้ ในการประชุมกับนักวิเคราะห์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ประธานบริษัทอาลีบาบา Joe Tsai ได้ชี้ไปที่ภาวะตลาดที่ “ซบเซาอย่างหนัก” และการขาดสภาพคล่องทั้งในปัจจุบันและอนาคต
แม้ Alibaba จะยกเลิกการนำ Cainiao เข้าตลาด แต่ข้อเสนอในการซื้อหุ้นคืนจากบรรดานักลงทุน (รวมถึงพนักงาน) ที่ถือหุ้นรวม 36.3% ของ Cainiao ก็ไม่ได้เลวร้ายมากนัก มูลค่าโดยนัยของ Cainiao ที่ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ แม้บริษัทฯจะขาดทุนสุทธิในปีงบประมาณที่สิ้นสุดมีนาคม 2023 ยังคิดเป็น 0.7 เท่าของยอดขายที่คาดการณ์ไว้ในปี 2024 ซึ่งตัวเลขนี้สูงกว่าคู่แข่งอย่าง S.F. Holding ในจีน แต่ยังต่ำกว่ายักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง DHL, UPS และ FedEx
สำหรับนักลงทุนอย่าง Temasek, GIC และผู้ถือหุ้นรายย่อยอื่นๆ นี่เป็นเพียงรางวัลปลอบใจ การที่ Alibaba ตัดสินใจยกเลิกการนำ Cainiao เข้าตลาดหลักทรัพย์โดยสิ้นเชิง (แทนที่จะแค่เลื่อนออกไป) บ่งบอกว่าตลาดจีนคงไม่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญในเร็วๆ นี้ โดยผู้บริหาร Alibaba ยืนยันว่าบริษัทฯ จะไม่ผลักดันการเข้าตลาดอื่นๆ อีกต่อไป การยกเลิก IPO ครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่สองของ Alibaba หลังก่อนหน้านี้ยกเลิกแผนการนำหน่วยงาน cloud computing เข้าตลาด
นักลงทุนอื่นๆ กำลังจับตามองสถานการณ์นี้อยู่ ทั่วโลก การควบรวมกิจการ (M&A) และการเสนอขายหุ้น IPO ที่ซบเซา ทำให้บริษัท private equity ต่างติดแหง็กกับเงินลงทุนมหาศาลที่ขายไม่ออก ผู้ที่ลงทุนจำนวนมากในตลาดจีนและตลาดเอกชน เช่น Temasek จำเป็นต้องเลือกระหว่างการขายหุ้นในราคาที่ต่ำกว่าที่คาดไว้มาก หรืออดทนถือต่อไปด้วยความหวังว่าตลาดจะดีขึ้น ซึ่งกรณีของ Cainiao บอกเป็นนัยว่า การรอคอยอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด
ตอนนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ว่าตลาดหุ้นฮ่องกงจะฟื้นตัวเมื่อไหร่ นักลงทุนจะต้อง ติดตาม พัฒนาการทางเศรษฐกิจและการเมืองอย่างใกล้ชิด และ การยกเลิก IPO ของ Cainiao เป็นสัญญาณเตือน เกี่ยวกับอนาคตของตลาดหุ้นฮ่องกง นักลงทุนควร ระมัดระวัง และ เตรียมพร้อมรับมือ กับความผันผวนของตลาด
ที่มา Reuters