มาอีกแล้ว! บาเลนเซียกาออกกระเป๋า 'ถุงเลย์' เปลี่ยนการถือขนมให้ไฮแฟชั่น
สำหรับ ‘บาเลนเซียกา’ (Balenciaga) แบรนด์ไฮแฟชั่นสัญชาติสเปน การออกสินค้าดีไซน์แปลกจากสิ่งที่ไม่ไฮแฟชั่น เช่น ถุงขยะ อาจกลายเป็นกิจกรรมประจำฤดูกาลไปแล้ว ชนิดที่ถ้าไม่แปลก คงไม่ใช่ Balenciaga
คอนเทนต์แนะนำ
ระหว่างโชว์ Paris Fashion Week ทางแบรนด์กลับมาเรียกเสียงฮือฮาอีกครั้งด้วย กระเป๋าถือหน้าตาคล้าย ‘ถุงเลย์’ ที่อาจทำให้คนเห็นคิดว่าสิ่งที่อยู่ในมือคนถือ ก็คือถุงมันฝรั่งยับๆ มากกว่ากระเป๋าที่คาดว่าจะราคาเกือบ 70,000 บาท!
ถุงเลย์ในคอลเลคชั่นนี้เกิดจากคอลแลปกันระหว่างบาเลนเซียกาและบริษัท ฟริโต-เลย์ (Balenciaga X Lay’s) มาใน 4 สีด้วยกัน คือ เหลือง แดง ฟ้า และ เขียว ทำด้วยหนัง มีซิปอยู่ด้านบน และมีลักษณะเหมือนถุงขนมเลย์ที่เราซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทุกประการ ยกเว้นตรงตำแหน่งชื่อรสที่จะเขียนไว้ว่า ‘Balenciaga’ เป็นการแปะป้ายแบรนด์แบบเนียนๆ ลงบนไอเทม
โดยผลงานนี้ก็ยังเป็นผลงานการดีไซน์ของ ‘เด็มนา กวาซาเลีย’ (Demna Gvasalia) ดีไซน์เนอร์ใหญ่ของบาเลนเซียกาเจ้าเก่าเจ้าเดิมที่เคยฝากผลงานเป็นไอเทมแปลกมาแล้วหลายชิ้น เช่น ‘สนีกเกอร์เน่า’ ที่สภาพยับเยินเหมือนไปลุยน้ำท่วมกรุงเทพฯ มา และ ‘กระเป๋าถุงขยะดำ’ สนนราคากว่า 6 หมื่นบาท รวมไปถึง ‘กระเป๋าอิเกีย’ ที่เหมือนแอบหยิบได้ตามอิเกียทุกสาขา ราคากว่า 8 หมื่นบาท ที่เคยส่งชื่อบาเลนเซียกาเป็นไวรัลมาได้แล้วก่อนหน้านี้
เด็มนา กวาซาเลีย ดีไซน์เนอร์แฟชั่นชาวจอร์เจีย ทำงานเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของบาเลนเซียกามาตั้งแต่ปี 2015 โดยเขาเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์ Vetements แบรนด์สตรีทแวร์ไฮเอนด์ที่โด่งดังมาจากการหยิบยกโลโก้แบรนด์หรือสิ่งที่เห็นในชีวิตประจำวันมาผสานรวมเข้ากับเชปและฟอร์มแปลกๆ ได้อย่างสร้างสรรค์
และด้วยความที่มีพื้นฐานมาจากสตรีทแวร์นี้เอง แบรนด์แฟชั่นเก่าแก่อายุกว่า 103 ปีภายใต้การนำของเด็มนาจึงกลายเป็นแบรนด์ไฮแฟชั่นที่มีความฮิปและทันสมัยของ Street Fashion อย่างเต็มเปี่ยม
เขาเคยให้คำอธิบายสำหรับแนวคิดในการเปลี่ยน ‘ของน่าเกลียด’ ให้กลายเป็นสินค้าแฟชั่นไว้ว่า การที่เขาทำแบบนี้ไม่ใช่ว่าเขาชอบของน่าเกลียด แค่เขาแค่พยายามมองหาแง่มุมที่สวยงามในของที่คนทั่วไปอาจมองว่าไม่สวยงาม และคนเราควรจะตั้งคำถามว่า “ทำไมเราถึงมองว่าหลายๆ สิ่งถึงต้องดูเป็นแบบนั้นแบบนี้ถึงจะ ‘สวยงาม’ หรือเรียกได้ว่า ‘หรูหรา’ มันจำเป็นหรือที่จะต้องเป็นแบบนั้น และเราสามารถเปลี่ยนมันได้ไหม”
เรียกได้ว่า ‘ดีเอ็นเอ’ ของงานดีไซน์ของเด็มนาคือ ความล้ำสมัย ความแหวกขนบ ที่ออกมาเพื่อขยายถ่างกรอบความงามและนิยามความหรูหราแคบๆ ของวงการแฟชั่น ผ่านการเอาของน่าเกลียด ถูกๆ หรือไร้ค่ามาดีไซน์ใหม่ให้เป็นงานแฟชั่น
เหมือนกับงานชิ้นล่าสุดที่อาจทำให้การเดินกำถุงเลย์เดินไปเดินมาบนถนนกลายเป็น Fashion Statement ไปได้
