รู้จัก "David Solomon" ซีอีโอของสถาบันการเงินยักษ์เบอร์ต้นของโลกที่มีอีกหนึ่งบทบาทเป็น "ดีเจ" ชื่อดัง สองแพชชั่นที่ต่างกันสุดขั้วมาอยู่ในตัวคนๆ เดียวกันได้
David Solomon ซีอีโอคนปัจจุบันของ Goldman Sachs ขึ้นรับตำแหน่งตั้งแต่ปี 2018 เขาได้เข้าร่วมกับ Goldman Sachs ในปี 1999 ในฐานะพาร์ทเนอร์และใช้ความเชี่ยวชาญด้านการเงินและการบริหาร ไต่เต้าขึ้นมาจนได้เป็นหัวเรือใหญ่ของบริษัท
Solomon พาบริษัททำผลงานอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง ฟันกำไร 2.06 พันล้านดอลลาร์ (7.52 หมื่นล้านบาท) ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2023 ที่ผ่านมา โดยนอกเหนือจากความความสามารถอันเป็นที่ประจักษ์ในแวดวงสายการเงินแล้ว เขายังมีความชื่นชอบที่กลายมาเป็นอีกอาชีพที่เติมเต็มทั้งความสุข และชื่อเสียงให้กับเขาด้วย
เมื่อก้าวเข้าสู่โลกแห่งเสียงเพลง บอสใหญ่ของ Goldman Sachs ผู้นี้ จะแปลงโฉมเป็นดีเจ 'D-Sol' (ตั้งจากตัวอักษรนำหน้าชื่อและนาสกุล) หนุ่มใหญ่คารมดีหลังเครื่องเล่นแผ่นเสียง ที่ค่อยๆ พัฒนาจากกิจกรรมยามว่างในวันอาทิตย์ช่วงบ่าย กลายมาเป็นศิลปินชั้นนำที่มีชื่อเป็น Headline ในเทศกาลดนตรีระดับโลก หนึ่งในนั้นคือ ‘Lollapalooza’ ในปี 2022 ที่มีผู้ชมรวมกว่า 400,000 คน D-Sol กลายเป็นขวัญใจของแฟนคลับได้อย่างรวดเร็ว และมีผลงานเพลงฮิตอย่าง ‘Don’t Stop’ ซึ่งมียอดสตรีมหลายล้านครั้งบน Spotify
แม้ตัวตน ‘D-Sol’ ให้ David Solomon ได้ผ่อนคลายจากงานที่เต็มไปด้วยความกดดัน และได้รับความรักจากแฟนเพลง แต่สิ่งนี้เองนำมาซึ่งสปอตไลท์ที่มากเกินไปของสื่อบันเทิง รวมถึงข่าวแง่ลบเช่น ขึ้นเวทีการแสดงในงานที่มีคนดูมากมาย แม้จะเป็นช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19, ขึ้นแสดงในงาน ‘Tomorrowland’ ซึ่งมีข่าวว่าผู้ชมในงานใช้สารเสพติดระหว่างรับชม และผลงานการบริหารที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากภายใน กลายเป็นสิ่งที่รบกวนจิตใจบอร์ดบริหารของ Goldman Sachs แม้อาชีพเสริมสุดเร้าใจกำลังไปได้สวย แต่Solomon ก็ได้ตัดสินใจแขวนหูฟัง พักอาชีพดีเจไว้อย่างไม่มีกำหนด ซึ่งทำให้แฟนเพลงได้แต่หวังว่า วันหนึ่งดีเจ ‘D-Sol’ จะกลับมามอบความสุขให้กับแฟนๆ อีกครั้ง
แม้เรื่องราวที่แสนสุดโต่งของซีอีโอ - ดีเจ อย่าง David Solomon จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่นาน แต่ก็เป็นตัวอย่างที่ช่วยเตือนใจทุกคนได้ว่า เราควรบาลานซ์งานที่ทำ กับความฝันที่มี ให้ดี แม้จะเป็นอาชีพระดับสูงอย่างซีอีโอบริษัท แต่ Solomon ก็จะแบ่งเวลามาทำตามความฝันได้ ซึ่งอาชีพดีเจไม่เพียงทำให้เขาได้ปลดปล่อยความเครียด เติมเต็มความสุขเท่านั้น แต่อาชีพนี้ยังช่วยให้ Solomon ทลายกำแพงระหว่างเขากับพนักงานรุ่นใหม่ได้ง่ายมากขึ้นด้วย.
ตัวอย่างนี้จึงเป็นสิ่งเตือนในว่า การสร้างสมดุลที่ดีระหว่างงานที่ทำและสิ่งที่รักสามารถช่วยเติมเต็มชีวิตการทำงานให้มีหลากหลายรสชาติ และสร้างนิยามความสำเร็จในรูปแบบใหม่ๆ ให้กับเราได้
ที่มา : Fox Business, Cnn Business, Business Insider