หุ้นจีนยังถูกได้อีก! "อาลีบาบา" นำทีมหุ้นเทคจีนร่วงหนักยกกระดาน แค่ 2 ปี มูลค่าหุ้นดิ่งไปแล้วถึง 70% ล่าสุดถูกจ่อบีบพ้นตลาดหุ้นสหรัฐ
วิบากกรรมบริษัทเทคโนโลยีของจีนยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพความเสียหาย อาจเป็นสิ่งที่ใช้บรรยายกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีในจีนได้ดีที่สุด นับตั้งแต่ที่ "อาลีบาบา" กล้าท้าทายถูกรัฐบาลจีน
เมื่อวานนี้ (11 มี.ค.) บรรดาหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น 2 ตลาดคือ ตลาดหุ้นสหรัฐ และ ตลาดฮั่งเสง ฮ่องกง นำทีมกันร่วงหนักยกกระดานหลังจากที่มีรายงานก่อนหน้านี้ว่า สำนักงานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ประกาศรายชื่อบริษัทจีน 5 แห่ง ที่อาจต้องถูกถอดพ้นกระดานตลาดหุ้นในสหรัฐ เนื่องจากปัญหาเรื่องความโปร่งใสทางบัญชี ตามกฎหมาย HFCAA ที่ออกมาเมื่อปลายปี 2020 ทำให้นักลงทุนกังวลจนแห่เทขาย
บริษัทจีนทั้ง 5 แห่งดังกล่าว ได้แก่ BeiGene, Zai Lab, ACM Research, HUTCHMED รวมถึง Yum China Holdings เจ้าของ KFC และ Pizza Hut ในจีนด้วย และยังลากกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีของจีนร่วงลงหนักทั้งกระดาน อาทิ
- อาลีบาบา (Alibaba) ปิดตลาดสหรัฐ -7.9% และเปิดตลาดฮ่องกง -6%
- เจดีดอตคอม (JD.com) ปิดตลาดสหรัฐ -16% และเปิดตลาดฮ่องกง -17%
- ไป่ตู้ (Baidu) ปิดตลาดสหรัฐ -6.3% และเปิดตลาดฮ่องกง -5%
- เท็นเซนต์ (Tencent) ลดลง 4.5% ในตลาดฮ่องกง
ทั้งนี้ HFCAA เป็นกฎหมายที่ออกมาโดยมุ่งเป้าไปยังบริษัทต่างชาติที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ เพื่อเพิ่มความโปร่งใส และเพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทเหล่านี้จะปราศจากการครอบงำของรัฐบาลต่างชาติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐมีอำนาจขอเรียกสอบทางการเงินได้ ซึ่งหากบริษัทใดไม่ยอมให้ความร่วมมือนานเกิน 3 ปีติดต่อกัน ก็อาจถูกบังคับถอดออกจากตลาดหุ้นสหรัฐตามมา
ปัจจุบัน มีบริษัทจีนเข้าตลาดหุ้นสหรัฐแบบเทรดพร้อมกัน 2 ตลาด (Dual listing) คือที่กระดานนิวยอร์ก/แนสแด็ก และที่ฮ่องกง/เซี่ยงไฮ้ เป็นจำนวนประมาณ 270 แห่ง และ 5 บริษัทดังกล่าวก็เป็นบริษัทจีนกลุ่มแรกที่ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายใหม่ของสหรัฐ
แม้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จะเชื่อว่า จะไม่เกิดการถอดบริษัทจีนออกจากสหรัฐในเร็วๆ นี้ โดยรัฐบาลทั้งสองประเทศอาจหาทางคุยกันได้ แต่สิ่งที่หลายฝ่ายกังวลก็คือ บริษัทเทคโนโลยีของจีนยังไม่พ้นจากวิบากกรรมง่ายๆ ทั้งจากการคุมเข้มจากรัฐบาลจีน และผลกระทบจากสงครามในยูเครน จนส่งผลให้กลุ่มหุ้นเทคจีน มีมูลค่าร่วงลงไปแล้วมากกว่า 60% จากราคาสูงสุดเมื่อเดือน ก.พ. 2021
ในบรรดาหุ้นตัวใหญ่นั้น "อาลีบาบา" ของแจ๊ค หม่า ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นให้รัฐบาลจีนเข้ามาควบคุมภาคเทคโนโลยีนั้น เป็นหนึ่งในหุ้นที่เจ็บหนักที่สุด เพราะหากนับจากราคาสูงสุดเมื่อปี 2020 ราคาหุ้นของอาลีบาบาร่วงลงไปแล้วถึง 70.9% จนลงไปต่ำกว่าราคาปิดตลาดวันที่เข้าตลาดหุ้นเป็นครั้งแรกในปี 2014 เรียบร้อยแล้ว และยังไม่มีอะไรรับประกันว่า หุ้นเทคจีนจะเดินมาถึงจุดต่ำสุดแล้วจริงๆ