ไฮไลต์ห้ามพลาด ! งาน“ ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร ” จังหวัดนครนายก

สุดสัปดาห์นี้อยากชวนทุกคนไปเที่ยวงาน “ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร” จังหวัด นครนายก ซึ่งจัดขึ้น ณ สวนสาธารณะบริเวณเขื่อนขุนด่านปราการชลและศูนย์ฝึกอบรมสุดาเดือนเพ็ญและที่พักของมูลนิธิชัยพัฒนา บรรยากาศงานร่มรื่นด้วยอากาศที่เย็นลงในช่วงปลายปีบวกกับความร่นรื่นของต้นไม้และวิวทิวทัศน์จากเขื่อนขุนด่านปราการชล ทำให้การเที่ยวชมงาน “ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร” เต็มไปด้วยความเพลิดเพลิน  

งาน“ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร” จังหวัดนครนายก จะจัดไปจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2567 เวลา 10.00 น.- 22.00 น. SPOTLIGHT  ได้มีโอกาสไปเที่ยวชมงานจึงเก็บภาพบรรยากาศมาฝากทุกคน รับรองได้ถึงบรรยากาศดี เพราะนอกจากการเดินชมเลือกซื้อสินค้าแล้วเรายังได้มีโอกาสที่จะรู้จักเรื่องราวและความหมายของผลิตภัณฑ์ต่างๆรวมทั้งประโยชน์ของตัวผลิตภัณฑ์อีกด้วย

ไฮไลต์ที่ห้ามพลาดของงาน “ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร” จังหวัดนครนายก 

ภายในงานมีการจำหน่ายสินค้าคุณภาพหลากหลายทั้งของกินของใช้มากมายกว่า 170 ร้านจากทั่วทุกภูมิภาค โดยได้รับการสนับสนุนทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน แบ่งพื้นที่ออกเป็น 6 โซน ได้แก่ 

1.โซนสินค้าจากโครงการพัฒนาของมูลนิธิชัยพัฒนาทั่วประเทศ กว่า 45 โครงการ 

2.โซนร้านค้าจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริรวมทั้งศูนย์สาขาและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั่วประเทศของสำนักงาน กปร. รวมกว่า 12 แห่ง

3.โซนสินค้าเด่น ร้านอาหารดัง และผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัดนครนายก กว่า 80 ร้าน

4.โซนสินค้าและบริการจากบริษัทพันธมิตรของมูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งให้การสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิชัยพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง

5. โซนศิษย์เก่าหลักสูตร “ผู้นำการพัฒนาอย่างยั่งยืน” (นพย.)

6. โซนกิจกรรมบันเทิงและความรู้มากมาย

สำหรับงาน “ชัยพัฒนาแฟร์” จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2559 ณ โครงการอุทยานการอาชีพชัยพัฒนา จังหวัดนครปฐม ต่อมาในปี 2565 จัดขึ้น ณ เมืองสุขสยาม ไอคอนสยาม และในปี 2567 ในชื่อ “ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร” จังหวัดนครนายก ด้วยมุ่งหมายที่จะสัญจรไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ  

รู้จัก 6 โซนสำคัญของงานกันไปแล้ว คราวนี้มาดูรายละเอียดตัวอย่างสินค้า ร้านค้า กิจกรรมห้ามพลาดในโซนต่างๆกันบ้าง 

1. โซนสินค้าจากโครงการพัฒนาของมูลนิธิชัยพัฒนาทั่วประเทศ ภายในโซนนี้ประกอบไปด้วย 45 โครงการ

แต่ละโครงการก็จะนำผลิตภัณฑ์เด่นในพื้นที่มาจำหน่าย มีทั้ง อาหารสด อาหารแปรรูป เครื่องสำอาง เสื้อผ้า เครื่องประดับ  ตัวอย่างเช่น โครงการชัยพัฒนา-กาชาดไทย (บ้านทุ่งรัก) ของมูลนิธิชัยพัฒนา จ.พังงา  จำหน่ายกะปิปากจก น้ำผึ้งชันโรง ยาหม่องและพิมเสนน้ำสมุนไพรใบเสม็ด เรือจำลองกาบางมอแกน และอื่นๆอีกมากมาย , โครงการศูนย์พัฒนาพันธุ์สัตว์พระราชทานด่านซ้าย จ.เลย จำหน่าย“ไข่ไก่ อารมณ์ดี Happy Chicken” นอกจากนี้ยังมีไข่เป็ดอีกด้วย สินค้าจัดอยู่ในบรรจุภัณฑ์อย่างดีให้ทุกคนพร้อมหิ้วกลับบ้าน  เป็นต้น 

ในโซนนี้มีร้านภัทรพัฒน์ (PatPat) เป็นตราของผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการพัฒนาตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9  และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมุ่งมั่นและทรงงานหนักเพื่อให้ราษฎรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สินค้าที่จะจำหน่ายในงานมีความหลากหลาย เช่น กลุ่มสินค้าความงามที่ทำมาจากเมล็ดคามีเลีย มีทั้งเจลอาบ ออยล์บำรุงผิว ครีมบำรุงผิว สบู่ล้างมือ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีผ้าพันคอลายผ้าขาวม้า ยาหม่องสมุนไพร ดอกเกลือขัดผิว(สูตรขมิ้น) ร่มพับ 5 ตอน กระเป๋าและผลิตภัณฑ์หญ้าแฝก 

อีก 1 จุดที่มีประชาชนให้ความสนใจมากก็คือร้านจันกะผัก ซึ่งชื่อและตราสัญลักษณ์พระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อใช้ในการจำหน่ายผักสดและเมล็ดพันธุ์พืชผักคุณภาพ จากโครงการศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ ซึ่งภายในงานนี้ บูธร้านจันกะผักจะวางจำหน่ายสินค้า ได้แก่ เมล็ดพันธุ์ที่มาจากการพัฒนาสายพันธุ์ ข้าวหอมมะลิคุณภาพดีจากโครงการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 ของมูลนิธิชัยพัฒนา ข้าวเกรียบผัก ไอศกรีมผลไม้ บราวนี่กรอบ และมะม่วงเบาลอยแก้ว เป็นต้น 

โครงการทหารพันธุ์ดีเป็นความร่วมมือระหว่างมูลนิธิชัยพัฒนาและกองทัพบก ในการปฏิบัติงานสนองพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อให้ทหารกองประจำการมีความรู้และประสบการณ์ในการทำการเกษตรและขยายผลสร้างเครือข่ายในชุมชนที่อยู่อาศัย โดยภายในงานนี้มีหน่วยงานทหารที่เข้าร่วมออกบูธ ได้แก่ โรงเรียนนายร้อย จปร., โรงเรียนทหารการสัตว์ กรมการสัตว์ทหารบก, และกรมพลาธิการทหารบก ซึ่งได้จัดโซนพิเศษสำหรับเกษตรกรและผู้สนใจการเกษตรโดยเฉพาะ ณ บริเวณพื้นที่ส่วนต่อขยายของศูนย์ฝึกอบรมสุดาเดือนเพ็ญและที่พักของมูลนิธิชัยพัฒนา นำเสนอนิทรรศการความรู้ และวางจำหน่ายสินค้าคุณภาพเพื่อการเกษตร 

2.โซนร้านค้าจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมทั้งศูนย์สาขาและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั่วประเทศของสำนักงาน กปร. รวมกว่า 12 แห่ง

ซึ่งแต่ละแห่งจะนำผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นและมีศักยภาพในภูมิภาคนั้น ๆ มาจัดจำหน่าย อาทิเช่น น้ำมันกระดูกไก่ดำ ข้าวหอมกระดังงา ชาและกาแฟกระวาน เซรั่มเห็ด แชมพูประคำดีควาย น้ำผึ้งดอกกาแฟ หมี่กรอบสาหร่ายผักกาดทะเล น้ำพริกปลานิลหยอง เป็นต้น ภายใต้แนวคิดหลักของงาน “พระราชดำริสร้างสุข” รวมทั้งยังมีการจำหน่ายวัตถุดิบ Rare item ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ และศูนย์สาขาฯ เช่น ไก่ดำภูพาน โคเนื้อภูพาน แพะขุนภูพาน กุ้งขาวแวนนาไม เป็ดปากน้ำ ไข่มดแดงในน้ำเกลือ เห็ดโคนในน้ำเกลือ เป็นต้น

3. โซนสินค้าเด่น ร้านอาหารดัง และผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัดนครนายก กว่า 80 ร้าน

ที่ออกร้านโดยหน่วยงานต่างๆ ของจังหวัด โดยเป็นสินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดจากร้านอาหารดังที่คัดสรรจากหลายหน่วยงานในจังหวัดนครนายก เช่น สำนักงานเกษตรจังหวัดนครนายก มีทั้งผลไม้สด ผลไม้แปรรูป ข้าวเกรียบเห็ด น้ำพริกเห็ด ปลาร้า ปลาส้ม ปลาเค็ม อาหารสาเร็จรูปจากปลา ชามะดัน สินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดที่คัดสรรโดยสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครนายก เช่น เนื้อโคขุนแฮมเบอร์เกอร์ เนื้อเสียบไม้ย่าง ไก่แปรรูปปรุงสุก เป็นต้นนอกจากนี้ยังมีสินค้าของดีของนครนายกอีกเพียบ 

4.โซนสินค้าและบริการจากบริษัทพันธมิตรของมูลนิธิชัยพัฒนา

ซึ่งให้การสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิชัยพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เช่น เครื่องดื่มจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน),Cafe Amazon จากบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ,“You Hunt We Cook” จากกูร์เมต์ มาร์เก็ต โดยให้นักท่องเที่ยวเลือกซื้อวัตถุดิบจากร้านต่างๆ ภายในงานแล้วนำมาให้เชฟของ “You Hunt We Cook” ปรุงอาหารกันสดๆ ในงาน ,PUFF & PIE จากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน),ร้านค้า 16 ร้านจากเมืองสุขสยามซึ่งยกเมืองสุขสยามมาไว้ที่งานชัยพัฒนาแฟร์สัญจร รวมถึงร้านภูฟ้า เป็นต้น 

5.โซนศิษย์เก่าหลักสูตร “ผู้นำการพัฒนาอย่างยั่งยืน” (นพย.) 

จัดแสดงผลงานของกลุ่มศิษย์เก่า นพย. ที่เป็นผู้นำในภาคธุรกิจ ผู้นำชุมชน อาจารย์ และเกษตรกร ซึ่งหลังจากเรียนจบหลักสูตรจนถึงปัจจุบันยังรวมตัวกันเพื่อนำความรู้ที่ได้จากหลักสูตรไปต่อยอดจากงานของตัวเองสู่งานพัฒนาสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยในงานจะจำหน่ายสินค้าจากชุมชนที่กลุ่มศิษย์เก่า นพย. ได้เข้าไปช่วยพัฒนาจนประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม 

6. โซนกิจกรรมบันเทิงและความรู้มากมาย

ต้องบอกเลยว่า ทั้เพลิดเพลิน สนุก และ ได้ความรู้อีกด้วย เพราะมีการจัดเวิร์คชอปหลากหลายหัวข้อ รวมไปถึงได้ชมการแสดงจากศิลปินมากมาย การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย  นั่งฟังดนตรีในสวนโดยวงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์ และการแสดงดนตรีจากวง Playground ด้วยการสนับสนุนจากกลุ่มเซ็นทรัล และการแสดงดนตรีดนตรีจากวงต่างๆ ตลอดงาน และในช่วงกลางวันทางเขื่อนขุนด่านปราการชลได้เปิดการระบายน้ำจากเขื่อนผ่าน Spillway กลายเป็นน้ำตกยักษ์ตระการตา โดยในแต่ละวันของการจัดงานจะปล่อยน้ำ 3 เวลา คือ 11.00 น. 14.00 น. และ 17.00 น. ซึ่งจะได้มุมถ่ายภาพที่สวยงามอย่างมาก 

ใครมีเวลาวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ อย่าลืมแวะไปเที่ยวชมงาน “ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร” จังหวัดนครนายก ซึ่งจะจัดไปจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2567 เวลา 10.00 น. – 22.00 น. สะดวกสบายมีบริการที่จอดรถกว้างใหญ่และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเหมาะกับทุกคนในครอบครัว ที่สำคัญยังเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงก่อตั้งมูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎรให้มีความร่มเย็นเป็นสุข อยู่ดีกินดี อันนำไปสู่ความมั่นคงของประเทศจนเกิดเป็น “ชัยชนะจากการพัฒนา” ตามที่ได้พระราชทานชื่อมูลนิธิไว้ว่า “ชัยพัฒนา”