จบลงไปแล้วสำหรับงานมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน กับงาน Sustainability Expo 2023 หรือ SX2022 ตลอด 10 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 29 กันยายน - 8 ตุลาคม 2565 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เราไปดูกันว่าในปีนี้ ตลอดระยะเวลา 10 วันของการจัดงาน SX2023 มีผู้เข้าร่วมงานเท่าไร และได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างไรบ้างทั้ง ภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา และประชาชนทั่วไป ว่าจะสะท้อนให้เห็นถึง ความตื่นตัวและความต้องการมีส่วนร่วมใน เพื่อรวมสร้าง สมดุลที่ดี เพื่อโลกที่ดีกว่า
สำหรับงาน Sustainability Expo 2023 (SX2023) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 กันยายน - 8 ตุลาคม 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด “Good Balance, Better World” หรือ “สมดุลที่ดี เพื่อโลกที่ดีกว่า” มุ่งเน้นการนำเสนอแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยได้รับเกียรติจากผู้นำธุรกิจและองค์กรพัฒนาสังคมชั้นนำของไทยและทั่วโลกมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์และองค์ความรู้
เริ่มต้นด้วยโซน นิทรรศการ SEP หัวใจของความยั่งยืน ใจกลางงาน นำเสนอโลกคู่ขนานระหว่างโลกไร้สมดุลและโลกแห่งสมดุลที่ดี ผ่านรูปแบบ Immersive Multimedia ผลงาน Collaboration ของศิลปิน BAB 2018 คุณสนิทัศน์ ประดิษฐ์ทัศนีย์ (บีน) ผนวกกลุ่มสร้างแสงและเสียงร่วมสมัย ร่วมกับภาพมหัศจรรย์บนพื้นโลกจาก NAT GEO ถ่ายทอดผ่านแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง สะท้อนให้เห็นความสำคัญขององค์ประกอบและนโยบายด้านความยั่งยืน ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ ผู้เข้าชมสามารถนำแรงบันดาลใจไปปรับใช้ในการสร้างความยั่งยืนได้
โซน ‘BETTER LIVING’ ไฮไลต์อีกจุด องค์กรชั้นนำนำเสนอกิจกรรมและโครงการส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม สร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ยกระดับคุณภาพชีวิต โดยโซนนี้มีจุดน่าสนใจ คือ แนวทางในการดูแลบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ของทางไทยเบฟเวอเรจ เพราะไทยเบฟให้ความสำคัญกับการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน
โดยมุ่งลดการใช้น้ำและนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำในกระบวนการผลิต ไทยเบฟได้ดำเนินโครงการต่างๆ มากมาย เช่น โครงการการบริหารจัดการน้ำชุมชน และโครงการไทยเบฟรวมใจต้านภัยหนาว ซึ่งนำขวดพลาสติก PET กลับมารีไซเคิลเพื่อผลิตเป็นผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลก ปัจจุบัน ไทยเบฟใช้น้ำในกระบวนการผลิตเฉลี่ย 4.5 ลิตรต่อลิตรของเครื่องดื่มที่ผลิต ไทยเบฟตั้งเป้าหมายในการลดการใช้น้ำลง 10% ภายในปี 2568 การลดการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ไทยเบฟประหยัดทรัพยากรน้ำและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
โซน BETTER LIVING ของงาน SX2023 ยังมี โซน ‘BETTER ME’ ที่รวบรวมเทรนด์สุขภาพและนวัตกรรมทางการแพทย์ในรูปแบบของ Application และ AI ที่จะนำไปสู่การใช้ชีวิตที่ดีขึ้น ผ่าน 3 มิติ ได้แก่
โซน ‘BETTER COMMUNITY’ นำเสนอมุมมองและเรื่องราวของสังคม เพื่อสร้างความเท่าเทียม พร้อมแนวทางการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตที่รับผิดชอบต่อสังคม ผ่านการรวมตัวกัน การสืบสานมรดกทางวัฒนธรรม และการพัฒนาชุมชนให้ยั่งยืน
โซน ‘BETTER WORLD’ สะท้อนมุมมองความยั่งยืนผ่านงานศิลป์หลากหลายรูปแบบ เช่น ผลงานของ NAT GEO สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ผลงานนานาชาติ 10 ประเทศอาเซียน จากโครงการ ASEAN SX Photo Contest และโครงการ Trash to Treasure เปลี่ยนขยะเป็นงานศิลป์