ความยั่งยืน

มากกว่า ESG คือ B+ESG ธุรกิจ+ความยั่งยืน = หัวใจของ ttb กลยุทธ์สู่ ‘ธนาคารเพื่อความยั่งยืน’

2 ก.ค. 66
มากกว่า ESG คือ B+ESG ธุรกิจ+ความยั่งยืน = หัวใจของ ttb  กลยุทธ์สู่ ‘ธนาคารเพื่อความยั่งยืน’

คำว่า ESG แนวคิดในการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน ทิศทางที่ทั่วโลกและทุกองค์กรนำไปสู่จุดนั้น รวมถึงการได้รับความนิยมจากทั่วโลกในการประกอบการตัดสินใจลงทุน

E ย่อมาจาก Environment = ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม หรือความรับผิดชอบของบริษัทต่อสิ่งแวดล้อม

S ย่อมาจาก Social = ความยั่งยืนด้านสังคม หรือความรับผิดชอบต่อสังคม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 

G ย่อมาจาก Governance = บรรษัทภิบาลและจรรยาบรรณทางธุรกิจ เพื่อความโปร่งใส ตรวจสอบได้

แนวคิด ESG จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ธุรกิจ ด้วยการสะท้อนบทบาทความรับผิดชอบของธุรกิจที่มีต่อผู้มีส่วนได้เสีย และการนำเสนอผลการดำเนินงานในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

แต่สูตรใหม่ของ ทีทีบี หัวใจของธนาคารสู่เส้นทางความสำเร็จ

ชูกลยุทธ์ B+ESG ปูเส้นทางความสำเร็จสู่ “การธนาคารเพื่อความยั่งยืน”

พร้อมสนับสนุนลูกค้าธุรกิจให้ปรับตัว รับมือกติกาใหม่ของโลกด้วยองค์ความรู้และโซลูชัน

โดยตามกรอบ B+ESG ผสานธุรกิจและความยั่งยืนเป็นเนื้อเดียวกัน ด้วยกลยุทธ์และแนวทางดำเนินธุรกิจอยู่บนพื้นฐานของการสร้างการเติบโตและความยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ทั้งลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ชุมชนและสังคม พร้อมสนับสนุนให้ปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและกติกาใหม่ของโลก ด้วยองค์ความรู้และโซลูชันที่ตอบโจทย์

B หรือ Business Sustainability เพราะเชื่อว่าเรื่องของการดำเนินธุรกิจและความยั่งยืนไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ทุกกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินธุรกิจของธนาคารจึงต้องอยู่บนพื้นฐานของการสร้างการเติบโตและความยั่งยืนให้กับทุก Stakeholders 

เห็นได้จาก ช่วงเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา  ทีทีบี ขับเคลื่อนองค์กรเพื่อสร้างชีวิตทางการเงินที่ดี (Financial Well-being) ให้กับคนไทย ด้วยแนวทางการธนาคารเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Banking) เป็นรากฐานในการวางกลยุทธ์ทั่วทั้งองค์กร และให้ความสำคัญในการลงมือทำเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความยั่งยืนไปในทุกกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders) ของธนาคาร โดยวันนี้ความยั่งยืนไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป และเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวทุกคนมากขึ้นเรื่อย ๆ

“ทีทีบี ถือว่าเรื่องการสร้างความยั่งยืน หรือ Sustainability เป็นอีกหนึ่งหน้าที่ของธนาคาร ที่จะต้องให้การสนับสนุนลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคมให้สามารถดำเนินชีวิตหรือธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ควบคู่ไปกับการดูแลบรรษัทภิบาลที่ดี ซึ่งทุกคนคงคุ้นเคยกับคำว่า ESG อยู่แล้ว” นายปิติ  ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต กล่าว 

จากหลักการสู่รูปธรรม B+ESG

ทีทีบี ได้สร้างชีวิตทางการเงินที่ดีและแก้ปัญหาให้กับผู้คนอย่างแท้จริง

ลูกค้าบุคคล 

โดยมี Financial Well-being Solutions ช่วยให้ลูกค้าบุคคลสามารถเดินหน้าต่อไปได้แม้ยามมีวิกฤต เช่น

  1. บัญชี all free ที่มอบฟรีประกันอุบัติเหตุและชีวิตให้ลูกค้า 
  2. ส่งเสริมให้ลูกค้าที่เป็นหนี้ลดภาระดอกเบี้ยสูงผ่านการรวบหนี้ (Debt Consolidation
  3. เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ๆ บนแอป ttb touch ที่จะช่วยสนับสนุนให้กลุ่มพนักงานเงินเดือนและคนมีรถจัดการเรื่องสำคัญของชีวิตได้อย่างครบวงจร

ลูกค้าธุรกิจ

ทีทีบีเพิ่งได้ดเปิดตัวแพลตฟอร์มออนไลน์ “รถโดนใจ” ที่รวบรวมรถมือสองคุณภาพดีมาไว้ให้ลูกค้าเลือก สามารถจัดไฟแนนซ์รถยนต์กับ ttb DRIVE ครบจบในที่เดียว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งภายใต้ Ecosystem 

สำหรับคนมีรถ ช่วยสนับสนุนให้ลูกค้ากลุ่มเต็นท์รถมือสองสามารถก้าวทันกระแสดิจิทัล และปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจไปสู่ช่องทางออนไลน์อันเป็นช่องทางหลักที่ผู้บริโภคในปัจจุบันใช้งาน เพื่อทำให้ธุรกิจของเต็นท์รถมือสองเติบโตได้อย่างยั่งยืน ปัจจุบันมีดีลเลอร์มาร่วมเป็นพันธมิตรกับรถโดนใจแล้วราว 900 ราย

นอกจากนี้ การเพิ่มความรู้ที่สำคัญกับลูกค้าธุรกิจผ่านการจัดอบรมหลักสูตร LEAN for Sustainable Growth by ttb ซึ่งทีทีบีก็ได้เริ่มนำหัวข้อ ESG เข้าเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร โดยที่ผ่านมามีบริษัทเข้าร่วมกว่า 1,700 แห่ง 

พร้อมกับจัดทำศูนย์กลางความรู้เชิงลึกที่มีประโยชน์ต่อการทำธุรกิจ ภายใต้ชื่อ finbiz by ttb บน website มีผู้เข้าชมกว่า 1 แสนคนต่อปี ทั้งมีการจัดงานสัมมนาให้ความรู้ในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งมีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเข้าร่วมงานกว่า 700 บริษัท

สำหรับบทบาทการขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Sustainability) สิ่งที่ธนาคารสามารถทำได้และเป็นการสร้างแรงกระเพื่อมได้อย่างเห็นผล คือ การสนับสนุนธุรกิจต่าง ๆ ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมผ่านโซลูชันทางการเงินที่ยั่งยืนและปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ

“ ทีทีบี เป็นธนาคารแห่งแรกที่ออกหุ้นกู้เพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนทางทะเล มูลค่ารวมมากกว่า 7,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินทุนไปสนับสนุนลูกค้าธุรกิจผ่านสินเชื่อสีเขียวและสีฟ้า และปล่อยสินเชื่อสีเขียวไปแล้วมากกว่า 13,000 ล้านบาท ในปี 2565 และตั้งเป้าจะปล่อยเพิ่มอีกมากกว่า 9,000 ล้านบาทภายในปี 2566 โดยปัจจุบันธนาคารเป็นผู้นำตลาดด้านการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ EV ราว 6,500 ล้านบาท” นายปิติกล่าว

โดยด้าน “ความยั่งยืนด้านสังคม” หรือ Social Sustainability เป็นอีกเรื่องที่ทีทีบีให้ความสำคัญ โดยมีโครงการปันบุญเป็นพื้นที่ช่วยมูลนิธิและองค์กรสาธารณกุศลให้สามารถเข้าถึงฐานผู้บริจาคได้มากขึ้น ผ่านการรับบริจาคเงินบนโลกออนไลน์ สอดคล้องกับ Digital Lifestyle ของคนรุ่นใหม่ 

รวมถึง การเข้าไปช่วยให้มูลนิธิบริหารจัดการทางการเงินได้อย่างครบวงจร ทั้งด้านการรับบริจาคและงานเอกสารต่าง ๆ ของมูลนิธิได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันมีมูลนิธิที่ร่วมอยู่บนปันบุญมากกว่า 270 แห่ง ระดมเงินบริจาคไปแล้วมากกว่า 400 ล้านบาท

นอกจากนี้ Corporate Social Responsibility (CSR) ที่ทีทีบีทำมาอย่างต่อเนื่องและจริงจังมาก โดยมุ่งเน้นการสอนจับปลาแทนการให้ปลา เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนด้านสังคมให้กับเยาวชนและชุมชนต่าง ๆ ซึ่งมีไฟ-ฟ้าเป็นโครงการหลักในการจุดประกายเยาวชนและชุมชนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน 

โดยมีศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า 5 แห่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อจุดประกายเยาวชนให้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่ผ่านมามีเด็กเข้าร่วมโครงการมากกว่า 10,000 ราย และยังมีโครงการที่มีพนักงานทีทีบีทั่วประเทศเป็นอาสาสมัครเข้าไปช่วยจุดประกายชุมชนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น มากกว่า 200 โครงการ ด้วยการนำทักษะและความรู้ของพนักงานลงไปช่วยเหลือชุมชนรอบข้าง

สำหรับเรื่องของ  Corporate Governance & Business Ethics หรือ บรรษัทภิบาลและจริยธรรมทางธุรกิจ เห็นได้จากการมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและทีมงานที่มีความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ที่ช่วยชี้แนะและผลักดันให้มีนโยบายที่ถูกต้องและเป็นธรรมต่อผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดทำให้ธนาคารได้รับรางวัล “การเงินที่เป็นธรรม” จาก Fair Finance Thailand คว้าอันดับหนึ่งด้วยคะแนนสูงสุดในกลุ่มธนาคารไทยด้าน ESG ถึง 4 ปีซ้อน 

ล่าสุด ทีทีบี ได้รับการจัดอันดับที่ดีที่สุดด้าน ESG ในกลุ่มสถาบันการเงินในประเทศไทย และเป็นอันดับสองในระดับเอเชียสำหรับกลุ่ม (Mid/Small Cap) และกลุ่มประเทศเอเชีย (ไม่รวมจีนและญี่ปุ่น) จาก Institutional Investor’s 2023 Asia (ex-Japan) Executive Team จากการโหวตของนักวิเคราะห์ สะท้อนถึงความทุ่มเทและความจริงจังที่ธนาคารมุ่งเน้นเรื่อง ESG มาอย่างสม่ำเสมอ

“เพราะเราเชื่อว่าธุรกิจ และ ESG จะเป็นเรื่องที่ต้องขับเคลื่อนไปด้วยกัน เราไม่เพียงมุ่งมั่นก้าวสู่การเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืน แต่ยังมุ่งขยายขอบเขตและความยั่งยืนให้เกิดกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง และนี่คืออีกหนึ่ง Mission หรือ หน้าที่ของธนาคารที่ให้การสนับสนุนลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคมของเราให้สามารถดำเนินชีวิตและธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป” นายปิติ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ESG หรือ B+ESG ถือเป็นสิ่งสำคัญที่บริษัทต้องให้ความสำคัญและขับเคลื่อนองค์กรไปในแนวทางนี้ นอกจากรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม มีธรรมาภิบาลที่ดี โปร่งใส่ แล้วธุรกิจยังไปต่อได้ 

จากผลการสำรวจในหลายๆ ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย จะเห็นได้ว่าปัจจุบันการลงทุนแบบยั่งยืนกำลังมีอิทธิพลในตลาดการลงทุนมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยในปัจจุบันมีองค์กรต่าง ๆ ในการจัดตั้งดัชนีความยั่งยืน (Sustainability Index) เพื่อเป็นดัชนีชี้วัดว่าบริษัทต่าง ๆ มีการดำเนินการธุรกิจที่สอดคล้องกับแนวคิด ESG มากน้อยอย่างไร เช่น ดัชนี Dow Jones Sustainability Indices (DJSI), FTSE4Good Index, MSCI ESG Index เป็นต้น 

ส่วนในประเทศไทยตลาดหลักทรัพย์ได้มีการจัดตั้งเกณฑ์หุ้นยั่งยืน หรือ THSI โดยบริษัทจำกัดที่ได้รับคะแนนผ่านการประเมินทั้ง 3 มิติจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มหุ้นยั่งยืนที่สามารถดึงดูดความสนใจในการลงทุนในกลุ่มนักลงทุนได้

ต่อจากนี้ กลุ่มบริษัทจดทะเบียนรวมถึงกลุ่มนักลงทุนทั้งนักลุงทุนรายย่อย และนักลงทุนสถาบันให้ความสำคัญกับ ESG มากขึ้นนี้จะส่งผลกระทบเชิงบวกในระยะยาวต่อตลาดหลักทรัพย์ และต่อประเทศชาติที่จะเติบโตขึ้นอย่างมั่นคงและยั่งยืน เพราะบริษัทจดทะเบียนมีการดำเนินการโดยเน้นการเติบโตของธุรกิจไปพร้อมกับการพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นทั้งในมิติสังคมและสิ่งแวดล้อม

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT