Chat GPT (แชทจีพีที) ได้ปลุกกระแสความโด่งดังของ Chatbot AI สั่นสะเทือนไปทั่วทุกวงการ ทำสถิติผู้ใช้งานทะลุ 100 ล้านคนภายในระยะเวลา 2 เดือน มีผู้เข้าชมเว็บไซต์เดือนละ 616 ล้านคน ล่าสุด Open AI ได้เปิดตัว โมเดลภาษาตัวใหม่ ‘GPT-4’ มาแทนโมเดล GPT-3.5 ที่อยู่เบื้องหลัง Chat GPT ก่อนหน้านี้ การันตีว่าฉลาดปราดเปรื่องกว่าเดิมแน่นอน!
GPT-4 มีจุดขายที่น่าสนใจ 3 ด้านด้วยกัน
มีความเป็นไปได้สูงว่า ความสามารถเหล่านี้จะมาช่วยให้พระเอกของบริษัทอย่าง ChatGPT มีความสามารถเหล่านี้เพิ่มตามไปด้วยเช่นกัน
OpenAI เผยว่า GPT-4 เรียนรู้จากฐานข้อมูล 1 ล้านล้านพารามิเตอร์ เพิ่มจาก GPT 3 ที่เรียนรู้จากฐานข้อมูล 1.75 แสนล้านพารามิเตอร์ และยังใช้เวลา 6 เดือน เพื่อพัฒนาให้ GPT-4 ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยจะเลี่ยงตอบคำถามที่มีความสุ่มเสี่ยงได้ดีกว่าเดิม 82% และให้คำตอบที่ถูกต้องตรงตามข้อเท็จจริงมากขึ้น 40% เมื่อเทียบกับ GPT-3.5
ซึ่งการปรับปรุงเหล่านี้ เกิดขึ้นจาก Feedback ของผู้ใช้งาน ร่วมกับการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย AI กว่า 50 คน
บริษัทกล่าวว่า GPT-4 ทำให้ ChatGPT สามารถทำข้อสอบมาตรฐานต่าง ๆ ได้คะแนนดีกว่า GPT-3.5 และลดโอกาสที่จะให้คำตอบแบบหลุดโลกกับผู้ใช้งาน ดังที่เป็นประเด็นก่อนหน้านี้
OpenAI กล่าวว่า GPT-4 สามารถทำข้อสอบเนติบัณฑิตของโรงเรียนกฎหมาย จากเดิมที่ ChatGPT (แชทจีพีที) ทำได้ผ่านครึ่งแบบฉิวเฉียด (213 เต็ม 400) ก็ทำได้เกือบ 75% หรือ 298 คะแนนเต็ม 400
เมื่อนำ GPT-4 ไปสอบแข่งขันต่าง ๆ พบว่าเก่งกว่า ChatGPT (แชทจีพีที) เดิมหลายเท่าตัว การสอบกฏหมาย Bar Exam ของสหรัฐฯ พบว่าได้คะแนนสูงกว่า 90% ของผู้สอบ และการสอบชีววิทยาโอลิมปิกระหว่างประเทศ GPT-4 ได้คะแนนสูงกว่า 99% ของผู้สอบ
นอกจากนี้ ในด้านตรรกะก็พัฒนาขึ้นเช่นกัน ดังตัวอย่างการให้นัดหมายคน 3 คน ซึ่งมีช่วงเวลาว่างแตกต่างกัน GPT-4 ก็สามารถทำได้ ในขณะที่ตัวเก่าคิดไม่ออก
เว็บไซต์ของ OpenAI ผู้สร้าง GPT-4 และ ChatGPT (แชทจีพีที) เผยว่า ตอนนี้มีหลากหลายบริการ จากหลากหลายวงการที่ได้ใช้ระบบ GPT-4 แล้ว เช่น Duolingo แอปสอนภาษา, Morgan Stanley ผู้ให้บริการทางการเงินระดับโลก, Khan Academy คลังคอร์สเรียนออนไลน์, รัฐบาลไอซ์แลนด์, Dropbox และ Bing บริการจาก Microsoft หนึ่งในผู้สนับสนุนรายใหญ่ของ OpenAI ในปัจจุบัน
ที่มา : OpenAI, Microsoft Bing Blogs