LINE ประเทศไทย เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยเป็นระยะเวลา 11 ปีแล้ว และยังคงแนวโน้มการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จากการเป็นแอปพลิเคชั่นเพื่อการส่งข้อความหากันหรือ แชท ทุกวันนี้ Line วางเป้าหมายจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของผู้คนทุกส่วน ตั้งแต่การคุยกับเพื่อนผ่าน LINE CHAT การซื้อของ ผ่าน LINE Shopping การอ่านข่าวผ่าน LINE TODAY การอ่านการ์ตูนผ่าน LINE WEBTOON หรือแม้กระทั่งการสั่งอาหาร ผ่าน LINE MAN
นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่แสดงให้เห็นว่า LINE มีการออกแบบ Customer Life Journey ได้อย่างแยบยลครอบคลุมการใช้งานของผู้ใช้ได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งจากการออกแบบ LINE Ecosystems ให้ครอบคลุมในชีวิจประจำวันของผู้ใช้งาน ทำให้ผู้ใช้หลายคนเลือกที่จะใช้ LINE ในทุกกิจกรรม หรือเรียกได้ว่าเป็น Life on LINE 24/7
LINE ประเทศไทย ได้จัด LINE Conference Thailand 2023 SPOTLIGHT สรุปข้อมูลที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับอนาคตของ Line ประเทศไทย ที่คนไทยใช้งานมากกว่า 54 ล้านคนแล้ว
นายวีระ เกษตรสิน รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ (CPO) ได้ประกาศวิสัยทัศน์ของ LINE ประเทศไทยผ่านงาน LINE Conference Thailand 2023 ว่า จากพันธกิจของ Line คือ Closing The Distance หรือการตอบโจทย์ทุกการใช้งานด้วย LINE Ecosystems สู่การเป็น Open Platform หรือ แพลตฟอร์มเปิด ภายในปี 2024-2027
คือ การสร้าง Customize Solution หรือการดีไซน์แนวทางที่หลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาเรื่องเฉพาะของธุรกิจได้ง่ายขึ้น ช่วยเก็บข้อมูลอย่างไร้รอยต่อ เพื่อให้ธุรกิจสามารถนำข้อมูลผู้ใช้งานไปต่อยอดทางธุรกิจได้ดีมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเปิดรับการเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ สู่การออกแบบแนวทางใหม่ๆ โอกาสใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์เฉพาะผู้ใช้งานคนไทยมากขึ้น
: เปิดการเชื่อมต่อกับระบบหรือโซลูชันอื่น ๆ ที่หลากหลาย ทั้งจากนักพัฒนาของ LINE และพาร์ทเนอร์จากภายนอก เพื่อสร้างสรรค์บริการที่ตรงใจผู้ใช้คนไทยในทุกมิติ และกว้างกว่าเดิม
: ส่งเสริมให้พาร์ทเนอร์และนักพัฒนาเข้าถึง Data ที่อยู่บนแพลตฟอร์มได้มากขึ้น ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพอย่างไร้รอยต่อ เพื่อภาคธุรกิจที่จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้วางแผนต่อสู่การขับเคลื่อนการเติบโตได้อย่างแท้จริง
: เพิ่มประสิทธิภาพการตลาดบนแพลตฟอร์ม ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก นำไปสู่ Data ที่แข็งแกร่งเพื่อสร้างการเติบโตให้ภาคธุรกิจผ่านโซลูชันต่าง ๆ ของ LINE ได้อย่างยั่งยื
: ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูล และความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานอย่างเคร่งครัด
เพิ่มขีดความสามารถในจัดการข้อมูลลูกค้าผ่านเครื่องมือ MyCustomer ในการเก็บรวบรวม 1st Party Data ของผู้บริโภค โดยให้อำนาจร้านค้าในการเข้าถึงและจัดการข้อมูลได้มากเดิม แต่ยังคงเป็นไปตามกฎหมาย PDPA ภายใต้ขอบเขตการยินยอมจากผู้บริโภค
กลุ่มธุรกิจรายย่อย (SME) สามารถต่อยอดในการทำ CRM และ Performance Marketing ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ปรับปรุงเครื่องมือสำหรับการโฆษณาบน LINE ให้สามารถวิเคราะห์ ประยุกต์ใช้ข้อมูลที่แบรนด์ได้มาเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น
เพื่อยิงโฆษณาหากลุ่มเป้าหมายที่เจาะจงมากขึ้น เช่นบุคคลที่มีความสนใจ, ความต้องการซื้อ หรือ พฤติกรรมผู้ใช้งาน
ที่จะมาช่วยเสริมข้อมูลเจาะกลุ่มลูกค้า ให้มีความแม่ยำยิ่งขึ้น
ยิงแอดเพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย ผ่านการ Built-In Tracking บน LINE Shopping เจาะพฤติกรรมของผู้บริโภคผ่านการเลือกซื้อของ เช่นการเลือกดู Product detail, Add to cart, หรือ การCheck out
เปิดขยายการเชื่อมต่อ API ให้มีความหลากหลายและตอบโจทย์เฉพาะด้านได้อย่างครอบคลุมขึ้น เช่น การดูแลหลังบ้านด้วย LINE SHOPPING API, Messaging API สิ่งเหล่านี้จะมาช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการสินค้า จัดการคำสั่งซื้อได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้จะมีการเปิดตัว OA Plus Plug-in Store แหล่งรวมโซลูชั่นสำหรับนักพัฒนานอกองค์กร LINE เพื่อเปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถสร้าง Solution ที่เข้ามาแก้ปัญหาเฉพาะให้ธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น