ธุรกิจการตลาด

ซัมซุง รุกตลาดจอมอนิเตอร์พรีเมียม เปิดตัว 3 ซีรีส์ สายเกม-บันเทิง-ครีเอทีฟ

13 มิ.ย. 67
ซัมซุง รุกตลาดจอมอนิเตอร์พรีเมียม เปิดตัว 3 ซีรีส์ สายเกม-บันเทิง-ครีเอทีฟ

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดจอมอนิเตอร์ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน ‘กลุ่มจอมอนิเตอร์พรีเมี่ยม’ ที่มีอัตราการรีเฟรชมากกว่า 144 Hz หรือ ความละเอียดจอสูงกว่าระดับ QHD (2560 x 1440 พิกเซล) มีอัตราการเติบโตสูงถึง 22% เมื่อเทียบกับปี 2022 และสัดส่วนในตลาดเมื่อเทียบมูลค่าอยู่ที่ 40%

ในขณะที่กลุ่มนอนพรีเมี่ยม อัตราการเติบโตลดลง เหลือเพียง 9% และสัดส่วนในตลาดเมื่อเทียบมูลค่าอยู่ที่ 60% สะท้อนให้เห็นถึง เทรนด์การเติบโตของผู้บริโภคที่นิยมเลือกซื้อจอมอนิเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีผลมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่มองหาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย 

‘ซัมซุง’ เห็นถึงโอกาสและการเติบโตในกลุ่มจอมอนิเตอร์พรีเมี่ยม เดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านตลาดจอมอนิเตอร์พรีเมี่ยมรายแรกของประเทศไทย ยกทัพไลน์อัพที่สุดจอมอนิเตอร์จากซัมซุง เปิดตัว 3 ซีรีส์ใหม่ล่าสุดภายใต้คอนเซ็ปท์ ‘Tailored Monitor For You เลือกจอที่ใช่ในสไตล์คุณ

เดินหน้ารุกตลาดพรีเมี่ยม ตอกย้ำการเป็นที่ 1

ถึงแม้ตลาดจอมอนิเตอร์พรีเมี่ยมจะมาแรงด้วยการแข่งขันและอัตราการเติบโตที่สูง แต่ Samsung ก็ยังครองแชมป์ที่ 1 ในตลาด ด้วยอัตราการเติบโตทั่วโลกที่ 23% เทียบจากปี 2022 ในขณะที่ภูมิภาคเพิ่มขึ้น 18% และตลาดประเทศไทยที่เติบโตสูงที่ 22% ชี้ให้เห็นถึง พฤติกรรมการค้นหาจอมอนิเตอร์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนไทย

นอกจากนี้ ในฐานะแบรนด์แรกที่นำเข้าจอ OLED สู่ประเทศไทย กลุ่ม Odyssey OLED ของซัมซุง เติบโตทะลุ 2,302% ตั้งแต่ปี 2022 ที่ผ่านมา และในไตรมาสที่ 1/2024 ประเทศไทยมียอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน รองจากประเทศอินโดนีเซีย

ซัมซุงจึงตัดสินใจเปิดตัวไลน์อัพจอมอนิเตอร์พรีเมียม 3 ซีรีส์ใหม่ล่าสุด นำโดย Odyssey OLED จอมอนิเตอร์สำหรับการเล่นเกม, Smart Monitor จอมอนิเตอร์สำหรับคนทำงานพร้อมความบันเทิง และ ViewFinity จอมอนิเตอร์สำหรับการใช้งานด้านกราฟิก โดยทั้งหมด มาพร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี AI เป็นเจ้าแรก เพื่อเปลี่ยนทุกประสบการณ์การใช้งานจอมอนิเตอร์ของคนไทยให้สุดกว่าที่เคย พร้อมเติมเต็ม Innovative Hybrid Lifestyle ของผู้คนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

คุณเซยุน คิม ประธาน ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า ในฐานะผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมจอภาพ ซัมซุงมุ่งมั่นเติมเต็มประสบการณ์และยกระดับมาตรฐานเทคโนโลยีจอมอนิเตอร์ด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัย เพื่อเดินหน้าจุดประกายเทคโนโลยีจอแสดงผลสุดล้ำแห่งยุค โดยนำศักยภาพของเทคโนโลยี AI เข้ามาปลดล็อคประสบการณ์การใช้งานแก่ผู้ใช้  ที่ออกแบบมาเฉพาะจากซัมซุง เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำนวัตกรรม Smart Monitor

คุณอภิรดา พัวพรพงษ์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์จอภาพ ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ เผยว่า ซัมซุงตั้งเป้าการเติบโตในตลาดจอมอนิเตอร์พรีเมี่ยมเพิ่มขึ้นในปี 2024 ผ่านกลยุทธ์เชิงรุกตลาดจอมอนิเตอร์พรีเมี่ยมที่ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าของจอ OLED ด้วยจุดแข็งด้านเทคโนโลยีจากซัมซุง

ซึ่งจอมอนิเตอร์กลายเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในการทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่ในยุค Innovative Hybrid Lifestyle ที่มองหาตัวช่วยที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ชีวิต 3 ด้าน ได้แก่ การประหยัดเวลา การเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ชีวิต และการเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อ 

โดยเป้าหมายหลักของซัมซุง คือ การพัฒนาไลน์สินค้าตามไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า เน้นไปที่จอมอนิเตอร์พรีเมี่ยม โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มคนเล่นเกมที่มีอัตราการเติบโตสูงและสัดส่วนในตลาด ซึ่งในอนาคต ซัมซุงมีแพลนทำโปรโมชั่นกับเหล่า KOLs ทั้งช่องทางอฟไน์และออนไลน์ และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากตลอดทั้งปี เพื่อรักษาตำแหน่งอันดับ 1 ต่อเนื่อง

คุณกัญปภาศร หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์จอภาพ ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ เผยว่า ซัมซุงไม่หยุดนิ่งในการพัฒนานวัตกรรมที่สอดรับพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เดินหน้ายกระดับมาตรฐานเทคโนโลยีจอมอนิเตอร์ที่ตอบสนองความต้องการในทุกไลฟ์สไตล์ ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์อัจริยะด้วยเทคโนโลยี AI ที่จะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและการใช้งานให้สุดกว่าที่เคย กับไลน์อัพจอมอนิเตอร์ขั้นสูง 3 ซีรีส์

ข้อมูลเกี่ยวกับจอมอนิเตอร์ซีรีส์ใหม่จากซัมซุง

  1. Odyssey OLED Series: จอมอนิเตอร์สำหรับการใช้งานด้านการเล่นเกม โดย Odyssey OLED ปี 2024 ได้แก่ Odyssey OLED G8 (รุ่น G80SD) และ Odyssey OLED G6 (รุ่น G60SD)  ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี OLED ที่เป็นเอกสิทธิ์ของซัมซุง ยกระดับคุณภาพของจอภาพ OLED พร้อมคุณสมบัติหลักดังนี้:

- ความสว่าง 250 นิต (Typ.) FreeSync Premium Pro ช่วยให้ GPU และแผงจอแสดงผลซิงค์กัน ช่วยขจัดปัญหาการกระตุก การหน่วง และการฉีกขาดของหน้าจอ

- Samsung OLED Safeguard+ ช่วยป้องกันหน้าจอเบิร์น ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ใหม่ของซัมซุง และเป็นเทคโนโลยีแรกของโลกที่ป้องกันการเบิร์นของจอภาพโดยการใช้ท่อความร้อนแบบสั่นเป็นจังหวะกับจอภาพ 

- Dynamic Cooling System ครั้งแรกของโลกที่ได้นำ Pulsating Heat Pipe มาใช้ในมอนิเตอร์เพื่อกระจายความร้อนได้ดีกว่าการระจายความร้อนด้วยแผ่นกราไฟต์ถึง 5 เท่า

- OLED Glare Free ใหม่ ช่วยลดแสงจ้าจากแหล่งแสงสว่างภายนอก เพื่อให้หน้าจอ OLED ให้สีดำที่สมบูรณ์แบบ และแสดงสีสันได้อย่างไร้สิ่งรบกวน ด้วยเทคโนโลยีใหม่ในการเคลือบผิวหน้าจอชนิดพิเศษที่ทั้งแข็งแรงและมีประสิทธิภาพสูงในการลดการสะท้อนแสง

- Core Lighting+ แสงโดยรอบที่ซิงค์กับหน้าจอ ขาตั้งแบบหมุนและปรับความสูงได้ทำให้การใช้งานที่ยาวนานสะดวกมากยิ่งขึ้น 

- Ergonomic Design ที่สามารถหมุน เอียง และปรับมอนิเตอร์ได้ตามใจ

- อัตราส่วนหน้าจอ 16:9 และ อัตราตอบสนอง 0.03ms GtG (สีเทาถึงสีเทา)

คุณสมบัติเด่นของ Odyssey OLED G8

- จอภาพ OLED ขนาด 32 นิ้ว

- ความละเอียด 4K UHD (3840x2160) 

- อัตราการรีเฟรช 240Hz 

- Tizen OS พร้อมประสบการณ์ Smart TV และ SmartThings (IoT)

- หน่วยประมวลผล NQ8AI Gen3 ช่วยอัปสเกลภาพความละเอียดต่ำ ให้มีความละเอียดใกล้เคียง 4K ได้

- ราคา 49,990 บาท

คุณสมบัติเด่นของ Odyssey OLED G6

- จอภาพ OLED ขนาด 27 นิ้ว

- จอภาพความละเอียด QHD (2560 x 1440)

- อัตราการรีเฟรช 360Hz

- ราคา 34,990 บาท

  1. Smart Monitor M8: จอมอนิเตอร์สำหรับการใช้งานด้านบันเทิง ที่รวมฟังก์ชันการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์ไว้ด้วยกันเพื่อความบันเทิงที่ชาญฉลาดและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวปี 2024 ประกอบด้วย M8 (รุ่น M80D) M7 (รุ่น M70D) และ M5 (รุ่น M50D) พร้อมคุณสมบัติหลักดังนี้:

- Tizen OS พร้อมประสบการณ์ Smart TV และ SmartThings (IoT)

- แอปสำหรับการทำงาน Microsoft 365

- อัตราส่วนหน้าจอ 16:9

คุณสมบัติเด่นของ Smart Monitor M8

- จอภาพขนาด 32 นิ้ว

- จอภาพความละเอียด 4K UHD

- ความสว่าง 400cd/m2

- อัตราตอบสนอง 4ms (GTG)

- เทคโนโลยี AI Upscaling

- โปรเซสเซอร์ NQM AI ยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงและประสิทธิภาพการทำงานไปอีกขั้น

- รองรับ HDR10+

- Active Voice Amplifier Pro ตรวจจับเสียงรอบข้างของผู้ใช้ เพื่อปรับระดับเสียงของลำโพงให้คมชัดมากที่สุด 

- SolarCell Remote รีโมทที่มีแผงโซลาร์ด้านหลังสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ 

- วิดีโอคอลได้ ด้วยกล้อง SlimFit

- พอร์ต USB-C รองรับ 65W

- ราคา 34,990 บาท

คุณสมบัติเด่นของ Smart Monitor M7

- จอภาพขนาด 32 นิ้ว

- จอภาพความละเอียด 4K UHD

- ความสว่าง 300 นิต (Typ.)

- อัตราตอบสนอง 4ms GtG (สีเทาถึงสีเทา)

- SolarCell Remote รีโมทที่มีแผงโซลาร์ด้านหลังสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ 

- พอร์ต USB-C รองรับ 65W

- ราคา 12,990 บาท

คุณสมบัติเด่นของ Smart Monitor M5

- จอภาพขนาด 27 นิ้ว

- จอภาพความละเอียด FHD (1920 x1080)

- ความสว่าง 250 นิต (Typ.)

- อัตราตอบสนอง 4ms GtG (สีเทาถึงสีเทา)

- ราคา 7,990 บาท

  1. ViewFinity Series: จอมอนิเตอร์สำหรับการใช้งานด้านกราฟิก กลุ่มผลิตภัณฑ์ ViewFinity รุ่นล่าสุด ประกอบด้วย ViewFinity S8 (รุ่น S80UD) และ ViewFinity S6 (รุ่น S65VC) รองรับการใช้งานของครีเอทีฟและคนทำงาน พร้อมคุณสมบัติหลักดังนี้:

- รองรับ HDR10 และการแสดงผล 1 พันล้านสี แสดงสีที่แม่นยำ

- ฟีเจอร์ Intelligent Eye Care ที่ได้รับการรับรองจาก TÜV-Rheinland ช่วยลดความเมื่อยล้าของตาที่ทำงานกับหน้าจอเป็นเวลานาน

- อัตราตอบสนอง 350 นิต (Typ.)

- USB Hub และ Ethernet (LAN) เพื่อการเชื่อมต่อที่ง่ายดาย และขาตั้งแบบปรับความสูงได้

- สวิตช์ KVM ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ เพื่อให้การเชื่อมต่อและการสลับใช้อุปกรณ์ 2 เครื่อง ทำได้ง่ายขึ้น

- พอร์ต USB-C ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถชาร์จอุปกรณ์ ได้ด้วยกำลังไฟสูงสุด 90W

- ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิลอย่างน้อย 10% ไม่ใช้สารเคมีพ่นสเปรย์ในส่วนประกอบพลาสติก

คุณสมบัติเด่นของ ViewFinity S80UD

- จอภาพขนาด 27 นิ้ว

- จอภาพความละเอียด 4K UHD (3840x2160)

- อัตราส่วนหน้าจอ 16:9

- อัตราการรีเฟรช 60Hz

- อัตราตอบสนอง 350 นิต (Typ.)

- ราคา 11,990 บาท

คุณสมบัติเด่นของ ViewFinity S6

- จอภาพขนาด 34 นิ้ว

- จอภาพความละเอียด WQHD (3440x1440)

- อัตราส่วนหน้าจอ 21:9 และโค้งระดับ 1000R

- อัตราการรีเฟรช 100Hz

- อัตราตอบสนอง 5ms
- ราคา 11,990 บาท

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT