ธุรกิจการตลาด

Trip.com เปิดตัวสตูดิโอไลฟ์สตรีมมิ่ง ขายดีลท่องเที่ยวแห่งแรกในเอเชีย

17 ส.ค. 67
Trip.com เปิดตัวสตูดิโอไลฟ์สตรีมมิ่ง ขายดีลท่องเที่ยวแห่งแรกในเอเชีย
ไฮไลท์ Highlight

จากกระแสความนิยมการไลฟ์สดในไทย Trip.com จับมือพันธมิตรมาร่วมมอบดีลท่องเที่ยว ยกระดับการเป็นผู้ให้บริการการท่องเที่ยวแบบครบวงจรชั้นนำระดับโลก ผ่านการไลฟ์สตรีมครั้งแรกในไทย

‘Trip.com’ ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวแบบครบวงจรระดับโลก เปิดตัว ‘Asia Live Streaming Centre’ สตูดิโอศูนย์กลางการไลฟ์สตรีมมิ่งแห่งแรกในเอเชีย ที่สำนักงาน Trip.com กรุงเทพฯ สอดรับกับกระแสการไลฟ์สตรีมมิ่งที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย ซึ่งเป็นฮับท่องเที่ยวสำคัญในภูมิภาคเอเชีย

การเปิดตัวศูนย์กลางการไลฟ์สตรีมมิ่งในไทย เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ ด้วยกระแสการไลฟ์สตรีมมิ่งที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดสำคัญสำหรับการท่องเที่ยว

ในปี 2023 Trip.com Group ได้เริ่มโครงการไลฟ์สตรีมมิ่ง “Super World Trip” ที่ไทย ซึ่งสามารถขายห้องพักในโรงแรมได้มากกว่า 20,000 ห้อง โครงการนี้ยังขยายไปยังโตเกียว สิงคโปร์ โซล และฮ่องกง ส่งผลให้ความต้องการในการเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นายโบ ซุน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Trip.com Group กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีที่ได้รับความร่วมมือจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและพันธมิตรต่างๆ ในการเปิดตัวสตูดิโอไลฟ์สดแห่งแรกในเอเชีย ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์การเดินทางสำหรับผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มของ Trip.com

สตูดิโอไลฟ์ขายแพคเกจท่องเที่ยว

สตูดิโอ Asia Live Streaming Centre  แห่งใหม่นี้ จะนำเสนอดีลการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดแก่นักเดินทางชาวไทยและต่างชาติ โปรโมทการท่องเที่ยวของประเทศไทย และส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย โดยมีการขายแพคเกจท่องเที่ยวด้วยราคาที่ถูกกว่าปกติ และสามารถใช้งานเมื่อไหร่ก็ได้ หากไม่ใช้งานแล้ว สามารถคืนเงินได้ 100%

นอกจากนี้ ทาง Trip.com Group ยังมีแผนที่จะจับมือกับพันธมิตรโรงแรม สถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่น และธุรกิจในไทย เพื่อร่วมกันมอบข้อเสนอการเดินทางท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ ให้นักท่องเที่ยว ซึ่งจะเน้นที่ข้อเสนอที่แสดงอยู่ในรายการ ‘Trip.Best’ หรือรายการจัดอันดับสถานที่และบริการยอดนิยมบนแพลตฟอร์ม ที่จะช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกตัวเลือกที่ดี และเหมาะสมกับความต้องการที่สุด ณ จุดหมายปลายทางต่างๆ ทั่วโลก

ไม่เพียงเท่านี้ การไลฟ์จะช่วยเพิ่มช่องทางการขายให้กับพันธมิตรทางธุรกิจของ Trip.com Group เพื่อให้พันธมิตรสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการได้อย่างเต็มที่ เช่น การจัดแคมเปญ Mega Sale, ความร่วมมือกับเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ในไทย, หรือแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาดของการบริษัทเพื่อให้บริการแบบครบวงจร

ทั้งนี้ ทุกแคมเปญโปรโมชั่นพิเศษ จะถูกนำเสนอผ่านการไลฟ์ด้วยเช่นกัน ซึ่งการไลฟ์สตรีมมิ่งจะออกอากาศทุกๆ วันบนช่องทาง TikTok ของ Trip.com Thailand และมีแผนการจะขยายการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เช่น การไลฟ์เป็นภาษาอังกฤษสำหรับผู้ชมต่างประเทศในลำดับต่อไป โดยตั้งเป้าว่าจะเปิดตัวต่อไปในไตรมาสที่ 4/2024 และไตรมาสที่ 1/2025 เพื่อขยายการไลฟ์สตรีมมิ่งนี้ไปยังตลาดอื่นๆ ที่การไลฟ์สตรีมมิ่งนั้นได้รับความนิยม

กลยุทธ์การเติบโตของ Trip.com

ในฐานะผู้บริการด้านการท่องเที่ยวแบบครบวงจรมา 25 ปี Trip.com Group สามารถตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ด้วยการบริการแบบ one-stop service ตั้งแต่การเลิอกสถานที่เที่ยว จองตั๋ว จองโรงแรม ยันถึงจุดหมายปลายทาง

นางสาวซันนี่ ซัน รองประธานกรรมการ Trip.com Group เผยว่า เบื้องหลังความสำเร็จของ Trip.com คือ การใช้กลยุทธ์ ‘G2’ ซึ่งประกอบไปด้วย ‘Globalization’ การทำการตลาดทั่วโลก จากประเทศจีนไปที่อื่น มีการลงทุนทั้งในยุโรปและเอเชีย รวมทั้ง เปิดบริษัทในไทย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลี และดูไบ รวมทั้ง ‘Great Serivce’ การให้บริหารที่ดีแบบพิเศษให้ลูกค้า โดยเฉพาะการบริการ 24 ชั่วโมง

โดยการเปิดตัวสตูดิโอศูนย์กลางการไลฟ์สตรีมมิ่งในประเทศไทย สอดคล้องกับตัวเลขการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประเทศไทยที่ 80-90% และสามารถเอนเกจกับโซเชียลเยอะมากพอสมควร ซึ่งโดยปกติแล้ว คนไทยดูไลฟ์เพื่อความบันเทิงเป็นหลัก และเริ่มมีไลฟ์สดทางธุรกิจด้วย รวมทั้ง ประเทศไทยมีทรัพยากรและผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวที่เยอะมาก จึงเห็นถึงโอกาสทองในการทำธุรกิจ

ส่วนแผนในอนาคต ซันนี่ เชื่อว่า การไลฟ์สตรีมมิ่งจะทำให้ยอดของบริษัทเติบโตได้ รวมทั้ง content marketing ที่ใช้การไลฟ์สินค้าต่างๆ เปิดการตลาดท่องเที่ยวแบบใหม่ ด้วยระบบ AI รวบรวมข้อมูลรีวิวลูกค้า เพื่อดูเทรนด์ของผู้บริโภค เพื่อออกสินค้า ขายแพคเกจท่องเที่ยวผ่านไลฟ์สตรีม

โดนหนึ่งในอุปสรรคของการทำธุรกิจท่องเที่ยว คือ ปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ภายในประเทศ หรือระหว่างประเทศ เช่น สงคราม ปัญหาทางการเมือง ความขัดแย้ง ที่กระทบการปิดประเทศ หรือสร้างความลำบากให้กับการท่องเที่ยว แต่ด้วยกลยุทธ์ G2 ที่ Trip.com มีศูนย์อยู่ในประเทศอื่นๆ ทำให้บริษัทยังสามารถทำเงินได้อย่างต่อเนื่อง

แนวโน้มของธุรกิจโรมแรมในเอเชีย

นายบุน เซียน ชัย กรรมการผู้จัดการ และรองประธานฝ่ายการตลาดต่างประเทศ Trip.com Group เผย 3 แนวโน้มของธุรกิจโรมแรมในเอเชีย ผ่านมุมมอง Trip.com ดังนี้:

  1. คนรุ่นใหม่มองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ต้องการมากกว่าแค่การเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยว
  2. โรงแรมท้องถิ่นและโฮมสเตย์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในกลุ่มเพื่อนและครอบครัว โดยเติบโตขึ้นถึง 200% จากปีที่ผ่านมา
  3. ความต้องการท่องเที่ยวแบบหรูหราเพิ่มขึ้น โดยลูกค้ากลุ่มเอเชียของ Trip.com กว่า 63% เลือกพักในโรงแรม 4-5 ดาว

นอกจากนี้ Trip.com Group ยังได้นำ AI มาใช้เพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้งานผ่านแชทบอท ‘TripGenie’ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถถามคำถามและได้รับคำแนะนำการท่องเที่ยวอย่างรวดเร็ว รวมทั้งสามารถจองทริปผ่านคำตอบที่ TripGenie ใส่มาให้เลย ซึ่ง Trip.com พบว่า ลูกค้าที่ใช้งาน TripGenie ใช้เวลา 20 นาทีเพิ่มขึ้นบนแพลตฟอร์ม ทำให้มีการดูเว็บไชต์เพิ่มขึ้น 2 เท่า และลูกค้า 3.3 ล้านคนที่มีการจองทริปจาก TripGenie

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT