กองกำลังรัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เปิดเผยว่ากองทัพได้เสริมกำลังลงพื้นที่ในเมืองฮามา เมืองทางตอนเหนือด้วย เพื่อปกป้องการรุกคืบและโจมตีของกลุ่มกบฏฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS) โดยได้ส่งทหาร ยุทโธปกรณ์และเครื่องยิงจรวดเพิ่มเติม จนสามารถขับไล่กลุ่มกบฏติดอาวุธออกไปได้สำเร็จแล้ว
ก่อนหน้านี้ เกียร์ เปเดอร์เซน ทูตพิเศษของสหประชาชาติประจำซีเรีย เรียกร้องให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายในความขัดแย้งครั้งนี้ ร่วมกันแสวงหาวิธีแก้ไขปัญหาทางการเมืองทันที โดยระบุว่า “การโจมตีที่เกิดขึ้นล่าสุดสร้างความเสี่ยงให้แก่พลเรือน อีกทั้งยังส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค”
โดยกลุ่มกบฏได้ขยายพื้นที่มุ่งหน้าไปยังเมืองฮามา เพื่อหวังยึดครอง หลังจากก่อนหน้านี้เพิ่งเข้ายึดเมืองอเลปโป เมืองใหญ่อันดับสองของซีเรียได้
กลุ่มกบฏ HTS คือใคร?
นับตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แนวรบในซีเรียเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยกลุ่มกบฏที่นำโดยกลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ควบคุมพื้นที่จังหวัดอิดลิบบริเวณชายแดนตุรกี ได้เปิดฉากรุกครั้งใหญ่ กวาดล้างกองกำลังของรัฐบาลซีเรียในหลายพื้นที่
อเลปโป เคยเป็นฐานที่มั่นสำคัญของกองทัพรัฐบาลระหว่างปี 2012-2015 สมัยที่เมืองอเลปโปถูกแบ่งการควบคุมระหว่างฝ่ายกบฏและรัฐบาล แต่นับตั้งแต่ปี 2016 กองทัพรัฐบาลก็ปกครองเมืองอเลปโปมาโดยตลอด และไม่มีสงครามกลางเมืองเกิดขึ้นที่นั้น
สำหรับ HTS กลุ่มที่นำการโจมตีครั้งนี้ มีต้นกำเนิดจากอัลกออิดะห์ แม้ว่ากลุ่มจะแยกตัวออกมาตั้งแต่ปี 2016 อย่างไรก็ตาม HTS ยังคงถูกจัดให้เป็นกลุ่มก่อการร้ายโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ตุรกี และสหราชอาณาจักร ในขณะที่รัฐบาลซีเรียยังคงเรียกกลุ่มกบฏทั้งหมดว่า "ผู้ก่อการร้าย"
ย้อนจุดเริ่มต้นสงครามซีเรีย
การสู้รบในซีเรียเริ่มขึ้นนับตั้งแต่ปี 2011 ในการปฏิวัติอาหรับสปริง ซึ่งมีการลุกฮือขึ้นเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในหลายประเทศแถบภูมิภาคดังกล่าว สงครามกลางเมืองของซีเรียดำเนินมาอย่างยาวนาน
ตลอดทศวรรษของสงคราม ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด สามารถรักษาอำนาจไว้ได้ เพราะตลอดมา เขาเตรียมตัวรับการแบ่งแยกประเทศ เพื่อปกป้องระบอบการปกครองที่เขาสืบทอดมาจากบิดา โดยอัสซาดพึ่งพาพันธมิตรสำคัญอย่างรัสเซีย อิหร่าน และฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอน ที่ให้การสนับสนุนเขาในการสู้รบกับกลุ่มกบฏหลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ไปจนถึงกองกำลังที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และประเทศในอ่าวอาหรับ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อิหร่านกำลังเผชิญสถานการณ์ความไม่มั่นคงในตะวันออกกลาง จากอิสราเอล ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ โดยพันธมิตรอย่างฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ซึ่งเคยส่งกำลังพลชั้นยอดไปช่วยอัสซาดในซีเรีย ก็ได้รับความเสียหายหนักจากการโจมตีของอิสราเอลเช่นกัน ขณะเดียวกัน รัสเซียก็เริ่มเปิดฉากโจมตีทางอากาศในซีเรียเพื่อตอบโต้การรุกของกลุ่มกบฏ แต่กำลังทางทหารของรัสเซียส่วนใหญ่ก็ยังคงมุ่งเน้นไปที่สงครามในยูเครน
แม้สงครามในซีเรียดูเหมือนจะสงบลง แต่ในความเป็นจริง ความขัดแย้งไม่ได้สิ้นสุด เพียงแต่สื่อต่างชาติเริ่มลดการให้ความสนใจลง เนื่องจากเหตุการณ์วุ่นวายในภูมิภาคอื่นและข้อจำกัดของสื่อมวลชนในการเข้าถึงพื้นที่ ในหลายพื้นที่ สงครามยุติชั่วคราว หรือถูกแช่แข็งเอาไว้ แต่ประเทศยังคงเต็มไปด้วยปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างแท้จริง