หรัฐอเมริกากำลังกดดันให้ยูเครนจัดการเลือกตั้ง ซึ่งอาจเกิดขึ้นภายในสิ้นปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับรัสเซียได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านยูเครนในรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และการเลือกตั้งครั้งนี้อาจทำให้ประธานาธบดีวลาดีมีร์ เชลสกี้ หลุดจากตำแหน่งในที่สุด
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สหรัฐอเมริกากำลังกดดันให้ยูเครนจัดการเลือกตั้ง ซึ่งอาจเกิดขึ้นภายในสิ้นปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับรัสเซียได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านยูเครนในรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
คีธ เคลล็อก (Keith Kellogg) ทูตพิเศษของทรัมป์ด้านยูเครนและรัสเซีย เปิดเผยกับรอยเตอร์สว่า จำเป็นต้องจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภา ซึ่งถูกระงับไปตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น โดยเขาให้เหตุผลว่า ประเทศประชาธิปไตยส่วนใหญ่มักดำเนินการเลือกตั้ง แม้ในช่วงสงคราม และการเลือกตั้งจะช่วยเสริมสร้างประชาธิปไตยของยูเครนให้แข็งแกร่งขึ้น "นี่คือความงดงามของประชาธิปไตยที่มั่นคง คุณจะมีตัวเลือกมากกว่าหนึ่งคนในการลงสมัครรับเลือกตั้ง"
ทั้งทรัมป์และเคลล็อกได้ส่งสัญญาณว่า พวกเขากำลังร่างแผนที่จะทำหน้าที่เป็นตัวกลาง สร้างข้อตกลงสันติภาพขึ้น ในช่วงแรกหลังทรัมป์ขึ้นมารับตำแหน่ง แม้ว่ารายละเอียดของแผนจะยังไม่ชัดเจนและยังไม่ทราบว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวสองราย รวมถึงอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ได้รับแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นนี้ เปิดเผยว่า คณะบริหารของทรัมป์กำลังหารือ เพื่อผลักดันให้ยูเครนจัดการเลือกตั้ง อันเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงหยุดยิงเบื้องต้นกับรัสเซีย
ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ กำลังพิจารณาว่า ควรผลักดันให้มีการหยุดยิงชั่วคราวก่อน แล้วจึงเจรจาข้อตกลงระยะยาวต่อไป โดยผู้ชนะเลือกตั้งก็อาจเป็นฝ่ายที่รับผิดชอบในการเจรจากับรัฐบาลมอสโกในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ท่าทีของรัฐบาลยูเครนต่อข้อเสนอนี้ยังคงไม่แน่ชัด ตามรายงานของรอยเตอร์ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เคยระบุว่า การเลือกตั้งสามารถเกิดขึ้นได้หากการสู้รบยุติลง และมีหลักประกันด้านความมั่นคงเพียงพอเพื่อป้องกันการรุกรานจากรัสเซียอีกครั้ง
ที่ปรึกษาระดับสูงของรัฐบาลยูเครนและเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งกล่าวว่า รัฐบาลทรัมป์ยังไม่ได้ยื่นข้อเรียกร้องอย่างเป็นทางการให้มีการเลือกตั้งภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่กฎหมายของยูเครนในปัจจุบันห้ามจัดการเลือกตั้งภายใต้กฎอัยการศึก ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ เคยหยิบยกประเด็นการเลือกตั้งกับเจ้าหน้าที่ยูเครนมาแล้วในช่วงปี 2023 และ 2024 ระหว่างการบริหารของโจ ไบเดน โดยนักการทูตสหรัฐฯ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเลือกตั้งต่อความชอบธรรมของระบอบประชาธิปไตย แต่เจ้าหน้าที่ยูเครนคัดค้าน โดยให้เหตุผลว่าการเลือกตั้งในช่วงสงครามอาจทำให้เกิดความแตกแยกภายในประเทศ และเปิดช่องให้รัสเซียใช้การบิดเบือนข้อมูลเป็นเครื่องมือ
ทางด้านรัสเซียเองได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับการไม่มีการเลือกตั้ง โดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน อ้างว่า ผู้นำยูเครนไม่มีอำนาจทางกฎหมายในการลงนามข้อตกลงที่มีผลผูกพัน อย่างไรก็ตาม ปูตินกล่าวว่าเซเลนสกียังสามารถเข้าร่วมการเจรจาได้ หากเขายกเลิกพระราชกฤษฎีกาปี 2022 ที่ห้ามการเจรจากับรัสเซียตราบใดที่ปูตินยังคงอยู่ในอำนาจ
อดีตเจ้าหน้าที่ชาติตะวันตกแสดงความกังวลว่า การยกเลิกกฎอัยการศึกเพื่อจัดการเลือกตั้งอาจทำให้ยูเครนเข้าสู่ภาวะไร้เสถียรภาพ เช่น อาจทำให้ทหารที่ถูกระดมพลสามารถลาออกจากกองทัพได้ ก่อให้เกิดปัญหาด้านการเงิน และกระตุ้นให้ผู้ชายที่อยู่ในวัยถูกเกณฑ์ทหารหลบหนีออกนอกประเทศ
หากทรัมป์กดดันให้ยูเครนจัดการเลือกตั้ง อดีตเจ้าหน้าที่ตะวันตกเตือนว่า สหรัฐฯ อาจเล่นตามเกมของรัสเซีย เพราะทรัมป์กำลังตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของรัสเซีย ซึ่งต้องการเห็นจุดจบของเซเลนสกี" ขณะที่อดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางคนแสดงความสงสัยว่าข้อตกลงสันติภาพจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าหรือไม่ หรือแม้แต่การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นภายในปี 2025 เนื่องจากดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายจะยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนเกี่ยวกับกระบวนการเริ่มต้นการเจรจาอย่างเป็นทางการ
ที่มา : Reuters