หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (9 กุมภาพันธ์ 2025) ว่า เกาหลีเหนือส่งแรงงานนับพันคนไปทำงานในรัสเซียเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ที่ห้ามเกาหลีเหนือส่งแรงงานไปทำงานในต่างประเทศ
ตามรายงานของสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลีใต้ (NIS) เชื่อว่า เกาหลีเหนือได้ส่งแรงงานหลายพันคนไปยังไซต์ก่อสร้างต่าง ๆ ทั่วรัสเซียเมื่อปีที่แล้ว ท่ามกลางปัญหาขาดแคลนแรงงานของรัสเซีย อันเนื่องมาจากสงครามกับยูเครนที่ยังยืดเยื้ออยู่
ภายใต้มติของ UNSC ที่ออกมาเพื่อตอบโต้การทดสอบอาวุธของเกาหลีเหนือ สั่งห้ามเกาหลีเหนือไม่ให้ส่งพลเมืองไปทำงานในต่างประเทศ และแรงงานเกาหลีเหนือทั้งหมดจะต้องเดินทางกลับประเทศภายในเดือนธันวาคม 2019
ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสงสัยว่า เกาหลีเหนือและรัสเซียอาจใช้วีซ่านักศึกษาเป็นช่องทางในการส่งแรงงานเข้าไปในรัสเซีย
Radio Free Asia รายงานอ้างข้อมูลจากสำนักงานสถิติกลางของรัสเซียว่า เมื่อปีที่แล้ว มีชาวเกาหลีเหนือจำนวน 13,221 คนเดินทางเข้ารัสเซีย เพิ่มขึ้นถึงราว 12 เท่าจากปีก่อนหน้านั้น ในจำนวนดังกล่าว มี 7,887 คนแจ้งว่า เดินทางเข้ารัสเซียเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการศึกษา
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ยังระบุว่า เกาหลีเหนืออาจได้ส่งกำลังพลประมาณ 11,000 นายไปยังแนวหน้าฝั่งตะวันตกของรัสเซียในแคว้นเคิร์สก์เพื่อทำสงครามกับกองกำลังยูเครนอีกด้วย
ขณะเดียวกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กล่าวหาสหรัฐอเมริกาว่าอยู่เบื้องหลังความขัดแย้งทั่วโลก พร้อมยืนยันนโยบายของประเทศที่จะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป โดยคิม จองอึน ประกาศเรื่องดังกล่าวระหว่างเยือนกระทรวงกลาโหมเมื่อวันก่อน เนื่องในโอกาสครบรอบ 77 ปี การก่อตั้งกองทัพประชาชนเกาหลี (Korean People's Army)
ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งด้านการทหารและการเมืองของกระทรวง คิมได้เปิดเผยแผนใหม่หลายประการเพื่อเสริมสร้าง "ศักยภาพป้องปรามในทุกมิติ" และยืนยันว่าเกาหลีเหนือจะเดินหน้าพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ขณะที่คิม จองอึน กล่าวหาสหรัฐฯ ว่า การส่งอาวุธยุทธศาสตร์นิวเคลียร์มายังเกาหลีใต้ จัดการซ้อมรบร่วมจำลองสงครามนิวเคลียร์ รวมถึงความร่วมมือทางทหารระหว่างสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ กำลังทำให้เกิด "ความไม่สมดุลทางทหาร" ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ และสร้างโครงสร้างความขัดแย้งใหม่ ซึ่งเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อเกาหลีเหนือ
คิมย้ำว่า เกาหลีเหนือไม่ต้องการความตึงเครียดที่ไม่จำเป็นในภูมิภาค แต่ย้ำว่าประเทศจะดำเนินมาตรการตอบโต้เชิงยุทธศาสตร์อย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาสมดุลทางทหารในภูมิภาค ป้องกันการเกิดสงครามครั้งใหม่ รักษาสันติภาพและความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลี