สื่อต่างชาติรายงานว่า ทางการจีนเตือนซีอีโอและผู้เชี่ยวชาญด้านเอไอ เลี่ยงการเดินทางไปสหรัฐฯ เพราะกังวลว่าความลับเรื่องเอไอของจีนอาจจะรั่วไหล และอาจจะถูกจับเป็นตัวประกันเหมือนกรณีที่เคยเกิดขึ้นกับผู้บริหารระดับสูงของหัวเว่ย ซึ่งการควบคุมตัวครั้งนั้นก็เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลสหรัฐฯของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในสมัยแรก
สำนักข่าววอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ทางการจีนได้แจ้งเตือนให้ผู้ประกอบการและนักวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ชั้นนำของประเทศ หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา เนื่องจากทางการจีนมีความกังวลว่าผู้เชี่ยวชาญ AI ที่เดินทางไปต่างประเทศ อาจเปิดเผยข้อมูลลับเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีนโดยไม่ตั้งใจ นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า รัฐบาลยังเกรงว่าผู้บริหารของบริษัท AI อาจถูกควบคุมตัวและถูกใช้เป็นเครื่องมือในการเจรจาต่อรองระหว่างจีนและสหรัฐฯ
วอลล์สตรีทเจอร์นัลยังระบุว่า ทางการจีนกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่คล้ายกับกรณีของเมิ่ง หว่านโจว อดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของหัวเว่ย ซึ่งถูกจับกุมในแคนาดาตามคำร้องขอของสหรัฐฯ ในช่วงรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สมัยแรก โดยขณะนั้น สหรัฐฯ อ้างเหตุผลด้านความมั่นคงในการดำเนินคดีกับหัวเว่ย ทำให้เกิดความตึงเครียดทางการทูตระหว่างสองประเทศ
รายงานยังระบุว่า ทางการจีนยังได้เพิ่มมาตรการควบคุมการเดินทางของผู้บริหาร AI โดยผู้ที่เลือกเดินทางไปต่างประเทศต้องรายงานแผนก่อนออกเดินทาง และต้องสรุปรายงานต่อเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับกิจกรรมและบุคคลที่พบเจอหลังเดินทางกลับมา
นอกจากนี้ รายงานระบุว่า เหลียง เหวินเฟิง ผู้ก่อตั้ง DeepSeek ได้ปฏิเสธคำเชิญเข้าร่วมการประชุมสุดยอด AI ที่กรุงปารีสเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ก่อตั้งบริษัท AI ชั้นนำอีกรายของจีนได้ยกเลิกการเดินทางไปสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว ตามคำสั่งของทางการปักกิ่ง
จีนและสหรัฐฯ กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในสงครามปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระดับโลก โดยล่าสุด DeepSeek สตาร์ทอัพสัญชาติจีนได้เปิดตัวโมเดล AI ใหม่ ที่อ้างว่าสามารถเทียบเคียงหรือเหนือกว่าผู้นำอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ อย่าง OpenAI และ Google ได้เลย แต่มีต้นทุนที่ต่ำกว่า
ด้านทำเนียบขาวและสำนักงานข้อมูลของคณะรัฐมนตรีจีน ซึ่งดูแลการสื่อสารกับสื่อมวลชน ยังไม่ได้ให้ความเห็นต่อกรณีดังกล่าว แม้รอยเตอร์จะติดต่อไปเพื่อขอความคิดเห็นก็ตาม
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้กล่าวในที่ประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า จีนจำเป็นต้องยกระดับความมั่นคงโดยรวมของประเทศ โดยเฉพาะในด้านความมั่นคงทางไซเบอร์และปัญญาประดิษฐ์
เมื่อเดือนที่แล้ว ผู้นำจีนได้จัดการประชุมที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนักกับผู้บริหารระดับสูงของภาคเทคโนโลยีในประเทศจีน ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก โดยกระตุ้นให้พวกเขาแสดงความสามารถออกมา และจงมีความมั่นใจในศักยภาพของรูปแบบเศรษฐกิจและตลาดของจีน