สื่อต่างประเทศรายงานวันนี้ (7 มีนาคม 68) ว่า สหรัฐและยูเครนเตรียมหารือกันที่ซาอุดีอาระเบียในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือเกี่ยวกับกรอบความร่วมมือด้านสันติภาพเพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯสั่งระงับความช่วยเหลือทางทหารและแบ่งปันความกรองกับยูเครน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ปะทะคารมกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครนที่ทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ก่อน
สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของทรัมป์ยืนยันว่า เขาจะเข้าพบกับตัวแทนจากยูเครนที่ซาอุดีอาระเบียในสัปดาห์หน้า เพื่อวางกรอบข้อตกลงสันติภาพ โดยตอนนี้กำลังหารือเพื่อประสานจัดการประชุม อาจจะเป็นที่กรุงริยาด หรือที่เมืองเจดดาห์ แต่ยืนยันว่า จะเป็นที่ซาอุดีอาระเบียอย่างแน่นอน
ด้านเซเลนสกีเปิดเผยว่า เขาจะเดินทางไปซาอุดีอาระเบียในวันจันทร์นี้ และมีแผนที่จะจัดการประชุมกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และเขายังยืนยันว่า ยูเครนนั้นให้ความสนใจที่จะสร้างสันติภาพมากที่สุด
การประชุมที่จะเกิดขึ้นนั้น นับเป็นการหารือระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนและสหรัฐฯครั้งแรก นับตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเซเลนสกีได้เข้าพบกับทรัมป์ แต่กลายเป็นว่า การประชุมไม่ได้เป็นผลดี และเซเลนสกีถูกเชิญออกจากทำเนียบขาวก่อนกำหนด
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายเหมือนจะปรับปรุงความสัมพันธ์ เพราะเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทรัมป์เปิดเผยว่า เซเลนสกีได้ส่งจดหมายหาเขา เพื่อยืนยันว่า พร้อมแล้วที่จะเข้าสู่โต๊ะเจรจา
ส่วนเมื่อวานนี้ ทรัมป์ได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าว และเปิดเผยว่า เขาเชื่อว่า รัฐบาลของเขามีความก้าวหน้าไปเยอะมากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา กับทั้งรัสเซียและยูเครน โดยสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ยูเครนต้องการทำข้อตกลง และเขาคิดว่า เพราะยูเครนไม่มีทางเลือกแล้ว ส่วนรัสเซียก็ต้องการทำข้อตกลง เพราะไม่มีทางเลือกเช่นกัน
ขณะที่เมื่อวานนี้ บรรดาผู้นำยุโรปจัดการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียม และเห็นพ้องต้องการที่จะเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม เพื่อรับรองความมั่นคงของยุโรป และเป็นการส่งสัญญาณถึงการสนับสนุนยูเครนด้วย หลังจากที่สหรัฐฯถอนความช่วยเหลือออกไป
ในการประชุมดังกล่าว ผู้นำยุโรป 26 ชาติได้ร่วมลงนามในเอกสาร เรียกร้องให้เกิดข้อตกลงสันติภาพที่เคารพในเอกราช อธิปไตยและบูรภาพแห่งดินแดนของยูเครน และต้องให้ยูเครนเข้าไปมีส่วนร่วมในการเจรจาด้วย แต่เอกสารฉบับนี้มีฮังการีที่ไม่เห็นด้วย
ขณะที่ในเอกสารอีกฉบับ ผู้นำทั้ง 27 ชาติสมาชิกของยุโรปให้ไฟเขียวกับข้อเสนอที่ว่า จะมีการเพิ่มงบกลาโหมจำนวนหลายล้านยูโร และเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรปหาวิธีใหม่ในการสนับสนุนงบประมาณด้านกลาโหมในระดับชาติของสมาชิกทุกประเทศ
ผู้นำของชาติยุโรปยังรับทราบข้อเสนอจากประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เออร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ซึ่งจะจัดหาเงินกู้ให้แก่ประเทศต่างๆ รวมเป็นมูลค่าสูงสุด 150,000 ล้านยูโร และระบุว่าแผนดังกล่าวจะได้รับการพิจารณาก่อนการประชุมอีกครั้งช่วงสิ้นเดือนนี้
ประธานาธิบดีเซเลนสกีเข้าร่วมการประชุมวาระพิเศษดังกล่าวด้วย และได้กล่าวขอบคุณบรรดาผู้นำสหภาพยุโรป (EU) ที่ให้การสนับสนุนเขา ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่สั่นคลอนกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา