ส่องแผนเศรษฐกิจจีนชุดใหม่ กระตุ้นการบริโภคในประเทศ รับมือภาษีทรัมป์
รัฐบาลจีนประกาศแผน “special action plan” หรือแผนดำเนินการพิเศษซึ่งจะมีความครอบคลุมในวงกว้าง เพื่อส่งเสริมการใช้จ่ายภายในประเทศ โดยแผนการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจของจีน ที่เกิดจากกำแพงภาษีที่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (16 มีนาคม 68) ว่า แผนดังกล่าวมีความทะเยอทะยานที่จะบรรลุเป้าหมาย แต่ยังคงขาดรายละเอียดที่ชัดเจน แต่แผนการนี้ครอบคลุมตั้งแต่การเพิ่มรายได้ของประชาชน ไปจนถึงการจัดตั้งระบบช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็ก และการขยายโครงการ "เงินซื้อของเก่า" ที่ให้แลกของเก่า เช่น รถยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
แผนนี้สร้างขึ้นจากการให้คำมั่นของนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ในการประชุมที่สำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งจัดขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ว่าจะทำให้เรือยักษ์แห่งเศรษฐกิจจีนแล่นไปข้างหน้าอย่างมั่นคงสู่อนาคต นายกฯหลี่ยังได้ตั้งเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจไว้ที่ประมาณ 5% สำหรับปี 2025 นี้ แต่จีนจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ ก็ต่อเมื่อสามารถเพิ่มการใช้จ่ายภายในประเทศได้ เพื่อให้จีนไม่ต้องพึ่งพาการส่งออก
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำ คนไม่มีแรงจูงใจในการใช้จ่าย
ในการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเพื่อชี้แจงแผนนี้ หลี่ ชุนหลิน รองผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการวางนโยบายรัฐยอมรับว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงอ่อนแออยู่ และยังคงมีภารกิจอีกมากมายที่ต้องทำเพื่อกระตุ้นการบริโภค ขยายความต้องการของผู้บริโภคในประเทศ และตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในการมีชีวิตที่ดีขึ้น
นอกจากจะประสบปัญหาความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ต่ำแล้ว จีนยังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น แนวโน้มการจ้างงานที่ไม่แน่นอนและวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ตกต่ำยาวนาน นอกจากนี้ ยังถูกกดดันจากภายนอกเนื่องจากสหรัฐฯ เพิ่มความตึงเครียดในสงครามการค้ากับจีน
ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีสินค้าจีนเป็น 20เ% ในเดือนนี้ และจีนได้ประกาศมาตรการภาษีตอบโต้รอบใหม่ ซึ่งครอบคลุมการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) แสดงให้เห็นว่า ยอดขายปลีก ซึ่งเป็นตัวชี้วัดการบริโภค เพิ่มขึ้น 4.0% ในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มขึ้นที่รวดเร็วกว่าในเดือนธันวาคมและเป็นไปตามคาดการณ์ของโพลสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ของสำนักข่าวรอยเตอร์ส
หวง จือชุน นักเศรษฐศาสตร์จาก Capital Economics มองว่า เศรษฐกิจจีนเริ่มต้นปีได้ดี และดูเหมือนว่าจะได้รับแรงผลักดันจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ และคาดการณ์ว่า การฟื้นตัวจะดำเนินต่อไปในช่วงเดือนข้างหน้า แต่เนื่องจากแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่มีอยู่ การฟื้นตัวในระยะสั้นก็อาจจะไม่สามารถยืนระยะอยู่ยาวได้
ประเทศจีนกำลังเผชิญกับปัญหาการหดตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ผู้คนไม่ค่อยมีแรงจูงใจในการใช้จ่าย เพราะคาดว่า ในอนาคตจะมีการลดราคาสินค้าลงอีก ส่งผลให้การบริโภคลดลง ซึ่งการบริโภคนับเป็นองค์ประกอบสำคัญของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว NBS ยังได้รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรฐานในการวัดอัตราเงินเฟ้อของจีน ลดลง 0.7% ในเดือนกุมภาพันธ์เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบกว่า 1 ปี ส่วนตัวเลขการผลิตขยายตัว 5.9% ในช่วงสองเดือนแรกของปี
