20 มีนาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศ Al Jazeera รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิต 70 คน หลังอิสราเอลระดมโจมตีพื้นที่ทั่วกาซาเมื่อวันพุธที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา และเริ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงยุติ
นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างประเทศอิสราเอลและกลุ่มฮามาสยุติลงเมื่อสองวันก่อน (18 มีนาคม) สำนักข่าว Al Jazeera รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาแล้วหลายร้อยคน มีการรายงานว่า วันอังคารที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นวันที่ฉนวนกาซานองเลือดที่สุด ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่สงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์ปะทุขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2023
ต่อมาเมื่อวันที่ 19 มีนาคม กองทัพอิสราเอลแถลงว่า จะเริ่มปฏิบัติการณ์ “แบบเจาะจงเป้าหมาย” (targeted ground activities) ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นปฏิบัติการภาคพื้นดินครั้งแรกตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงยุติไป
กองกำลังลงพื้นที่ถนนเนตซาริม คอร์ริดอร์ (Netzarim Corridor) ถนนเส้นสำคัญที่แบ่งปาเลสไตน์เป็นสองฝั่ง การลงปฏิบัติการในพื้นที่นี้จึงทำให้ชาวปาเลสไตน์ไม่สามารถเดินทางหรือเคลื่อนย้ายได้อย่างอิสระ และยังพึ่งเป้าไปที่อัล-มาวาซี (Al-Mawasi) ซึ่งกองทัพอิสราเอลกำหนดให้เป็นเขตปลอดภัยมาเป็นเวลานาน แม้จะยังคงมีการโจมตีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม
การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลพุ่งเป้าไปที่สถานที่จัดงานศพในเมืองเบอิตลาฮิยาและพื้นที่ของสหประชาชาติในเดียร์เอลบาลาห์ เป็นเหตุให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 24 คนและเจ้าหน้าที่สหประชาชาติเสียชีวิต 1 คน และผู้บาดเจ็บอีกหลายราย
ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว Al Jazeera ทาเร็ก อาบู อัซซูม สังเกตเห็นรูปแบบการโจมตีของอิสราเอลที่เปลี่ยนไป นอกจากเน้นการจำกัดการเดินทางของประชาชนชาวกาซา ยังผลักประชากรจากตอนเหนือของฉนวนกาซาลงไปทางใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใช้ย้ายถิ่นฐานของประชากรจำนวนมาก และเริ่มเห็นการอพยพของหลายครอบครัวที่ชายแดน
“ต่อจากนี้ไป การเจรจาใดๆ จะเกิดขึ้นพร้อมเสียงกระสุนปืน” นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮูประกาศออกทางโทรทัศน์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา “ผมขอยืนยัน นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น”
ข้อตกลงหยุดยิงที่ฉีกขาดมาพร้อมใบปลิวที่แจกจ่ายไปที่ประชาชนในฉนวนกาซา ประกาศคำสั่งอพยพของอิสราเอลอีกครั้ง
รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล อิสราเอล แคตซ์ กล่าวว่า การโจมตีของอิสราเอลเป็นผลจาก “การที่ฮามาสปฏิเสธปล่อยตัวประกันที่เหลือและขู่ว่าจะทำอันตรายกองกำลังป้องกันอิสราเอลและชุมชนอิสราเอล” ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวกันกับที่อิสราเอลใช้เปิดฉากโจมตีฉนวนกาซาตั้งแต่ 7 ตุลาคม 2023
ก่อนหน้านี้ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม อิสราเอลปิดช่องทางการขนส่งสินค้าและพลังงานไปในฉนวนกาซา อ้างว่า เพื่อกดดันฮามาสตามข้อตกลงหยุดยิง เพราะการปล่อยตัวประกันไม่มีความคืบหน้า สถานทูตอิสราเอลในประเทศไทยออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า อิสราเอลส่งมอบรถบรรทุกให้ความช่วยเหลือเข้าไปในกาซา แต่สิ่งของเหล่านั้นกลับถูกใช้โดยกลุ่มฮามาส เป็นการหาประโยชน์จากการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพื่อการก่อการร้าย
อีกด้านหน่วยงานผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์แห่งสหประชาชาติ (The U.N. Palestinian refugees agency: UNRWA) กล่าวว่า การระงับเส้นทางขนส่งดังกล่าวนั้นทำให้ฉนวนกาซาขาดแคลนอาหาร ยา และเชื้อเพลิง ทำให้ประชากรในฉนวนกาซา 2.3 ล้านคนอยู่ในอันตราย มีอาหารและน้ำพอใช้อีกเพียงไม่กี่สัปดาห์
ข้อตกลงหยุดยิงเริ่มต้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2568 หลังประกาศเมื่อวันที่ 15 มกราคม ข้อตกลงดังกล่าวระบุให้อิสราเอลถอนกำลังทหารออกจากกาซา และฮามาสปล่อยตัวประกันที่จับไว้แลกกับชาวปาเลสไตน์ที่อิสราเอลควบคุมตัวไว้ ซึ่งจะประกอบด้วยการแลกเปลี่ยนตัวประกันและนักโทษจาก 2 ฝ่ายรวม 8 รอบ
การเจรจารอบแรกแบ่งข้อตกลงหยุดยิงออกเป็น 3 ระยะ เริ่มจากการหยุดยิง 6 สัปดาห์และการปล่อยตัวชาวอิสราเอลทั้งหมดที่ฮามาสควบคุมตัวไว้ แลกกับการปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคนในอิสราเอล
ข้อตกลงหยุดยิงไม่เป็นที่พอใจนักสำหรับชาวอิสราเอล โดยเฉพาะชาวอิสราเอลแนวขวา หรือแนวอนุรักษ์นิยม พวกเขามองว่า การยอมตกลงหยุดยิงเป็นการยอมจำนนต่อฮามาส พวกเขาต้องการให้ชาวปาเลสไตน์ทุกคนออกไปจากฉนวนกาซาและให้อิสราเอลตั้งถิ่นฐานขึ้นใหม่บนพื้นที่นี้
อิทามาร์ เบน ก์วีร์ อดีตรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติผู้มีแนวคิดขวาจัด ลาออกจากตำแหน่งเพื่อประท้วงข้อตกลงหยุดยิง ด้านเบซาเลล สมอตริช รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเองก็ประกาศจะลาออกหากอิสราเอลไม่กลับเข้าสงครามบรรยากาศอันร้อนระอุของการเมืองอิสราเอล และความมั่นคงในตำแหน่งของเนทันยาฮูจึงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้สงครามครั้งนีั้ดำเนินขึ้น
การกลับเข้าร่วมสงครามยังช่วยดึงความสนใจของชาวอิสราเอลออกจากการที่เนทันยาฮูต้องการไล่ ชิน เบ ประธานหน่วยงานความมั่นคงระหว่างประเทศของอิสราเอลออกจากตำแหน่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อันเป็นเหตุให้เกิดความไม่พอใจและการเรียกรวมประท้วงใหญ่ในประเทศ
ปัจจุบันยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการว่าข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสองฝ่ายนั้นยุติลงแล้ว
อ้างอิง: Al Jazeera, CNN, CNN