Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ทรัมป์สั่ง Boeing พัฒนาเครื่องบินรบ F-47 สำคัญต่อกองทัพอย่างไร?
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

ทรัมป์สั่ง Boeing พัฒนาเครื่องบินรบ F-47 สำคัญต่อกองทัพอย่างไร?

24 มี.ค. 68
17:28 น.
แชร์

เครื่องบินรบ กับ ระบบพรางตัวสุดล้ำ

สำนักข่าว Defense News ของสหรัฐฯ รายงานว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้มอบสัญญาสำหรับการพัฒนาและผลิตเครื่องบินขับไล่รุ่น Next Generation Air Dominance ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ หรือที่เรียกว่า NGAD ให้กับ Boeing โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เครื่องบินรบรุ่นที่ 6 ซึ่งจะมาแทนที่เครื่องบิน F-22 Raptor จะถูกเรียกว่า “F-47” และเครื่องบินขับไล่รุ่นนี้จะมีเทคโนโลยีพรางตัวที่ล้ำสมัย ทำให้เรดาร์ของศัตรูแทบตรวจจับไม่เห็น 

พลเอกเดวิด ดับเบิลยู. ออลวิน เสนาธิการกองทัพบก ซึ่งเข้าร่วมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำเนียบขาว กล่าวว่าเครื่องบินรุ่นใหม่นี้จะมีความสามารถในการพรางตัว เป็นคุณสมบัติที่จะตรวจจับได้ยากหรือ Stealth นอกจากนี้ยังมีระบบการรวมเซ็นเซอร์ และการโจมตีระยะไกลรุ่นใหม่ เพื่อต่อต้านศัตรูในสภาพแวดล้อมที่มีความซับซ้อน พร้อมอ้างว่า F-47 จะมีพิสัยการบินไกลกว่า F-22 อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเครื่องบินขับไล่รุ่นปัจจุบันมีพิสัยการบิน 1,850 ไมล์ นอกจากนั้นจะซ่อมบำรุงได้ง่ายกว่า ใช้คนน้อยกว่า

ออลวินกล่าวว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เครื่องบินขับไล่ X-Plane ได้ทดสอบบินมาแล้วเป็นเวลาหลายร้อยชั่วโมงแล้ว สะท้อนให้เห็นว่านี่เป็นการเปิดเผยถึงโครงการลับทางกองทัพอากาศสหรัฐฯ ครั้งแรก และเขายังแถลงเพิ่มเติมว่าเครื่องบินลำนี้จะสามารถนำมาใช้ในปฏิบัติการต่าง ๆ ได้ ภายในวาระที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งอยู่ นั่นหมายความว่าโครงการถูกวางแผนให้พัฒนาสำเร็จภายในไม่เกิน 4 ปีนี้ ก่อนทรัมป์จะก้าวลงจากตำแหน่งในปี 2029

จีนจับตา วิเคราะห์เข้ม

การประกาศล่าสุดของสหรัฐฯ เกี่ยวกับเครื่องบินขับไล่ F-47 ได้รับการวิเคราะห์อย่างเข้มข้นจากผู้เชี่ยวชาญและผู้สังเกตการณ์ด้านการทหารของจีน ซึ่งยอมรับว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินขับไล่รุ่นที่ 6 อย่างแท้จริง เนื่องจากมีลักษณะเฉพาะ เช่น การออกแบบแบบไม่มีหาง แต่พวกเขายังตั้งคำถามเกี่ยวกับความสามารถในการพรางตัวว่า จะล้ำหน้าได้จริงอย่างที่ประกาศไว้หรือไม่

หลังจากตรวจสอบภาพจำลองของเครื่องบิน F-47 ที่กองทัพอากาศสหรัฐเผยแพร่ จางเซว่เฟิง ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการทหารของจีน เปิดเผยว่ารูปลักษณ์ของเครื่องบิน F-47 สอดคล้องกับแนวโน้มการพัฒนาทั่วไปของแนวคิดเครื่องบินขับไล่รุ่นที่ 6 ตัวอย่างเช่น เครื่องบินรุ่นนี้ไม่มีหางแนวตั้ง ซึ่งเป็นความพยายามที่จะปรับปรุงความสามารถในการพรางตัวในทุกทิศทางให้ดียิ่งขึ้น หัวเครื่องบินมีความแบนลีบมากขึ้น และตัวเครื่องยกสูงขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นลักษณะสำคัญของเครื่องบินขับไล่รุ่นที่ 6

อย่างไรก็ตาม การเผยแพร่ภาพจำลองของตัวเครื่องบินรบ เป็นเพียงภาพโมเดล ไม่ใช่ภาพถ่ายของตัวเครื่องจริง แต่ทีมวิเคราะห์ก็สามารถสังเกตเห็นคานาร์ด (Canard) หรือครีบรีดลม ซึ่งช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการบินและส่งผลต่อต่อการพรางตัว มีแนวโน้มว่าระหว่างปฏิบัติการ ตัวเครื่องจะสามารถถอดหางแนวตั้งนี้ออกและใช้ปีกบินความเร็วเหนือเสียงเพื่อเพิ่มความสามารถในการพรางตัวนั่นเอง แต่ด้วยผู้ผลิตอย่าง Boeing ที่ไม่ได้มีประสบการณ์เข้มข้นในการผลิตเครื่องบินรบ จึงอาจสร้างข้อกังขาในการเฟ้นหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาแก้จุดบอดกลไกที่มีในปัจจุบัน

หวัง หย่าหนาน บรรณาธิการบริหารนิตยสาร Aerospace Knowledge ประจำกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า เมื่อเปรียบเทียบกับขนาดของหลังคาและล้อหน้าเครื่องบินแล้ว สามารถวิเคราะห์ได้ว่าขนาดโดยรวมของ F-47 ไม่น่าจะใหญ่กว่า F-22 มากนัก นั่นหมายความว่า F-47 ยังคงเป็นเครื่องบินรบทางยุทธวิธี ไม่ใช่เครื่องบินขนาดใหญ่ที่เอาไว้ใช้งานอเนกประสงค์

พันธมิตรอาจมีสิทธิ์ซื้อ

สำนักข่าวต่างประเทศต่างวิเคราะห์ว่า การเปิดตัวโครงการลับพัฒนาเครื่องบินรบของสหรัฐฯ ในครั้งนี้ เป็นการแสดงแสนยานุภาพทางทหาร หรือเป็นการเปิดตัวสินค้าที่ใช้ในสงครามกันแน่ เนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์แถลงว่าสหรัฐฯ อาจจะพิจารณาขาย F-47 ให้กับประเทศพันธมิตร แต่จะต้องเป็นรุ่นที่ลดคุณสมบัติให้ไม่เท่ากับที่สหรัฐฯ มี อาจจะลดราว 10% เพราะไม่แน่ใจว่าพันธมิตรเหล่านั้นจะเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ ไปเรื่อย ๆ หรือไม่

แต่สำหรับเครื่องบินรบ F-22 Raptor ที่กองทัพฯ ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ไม่ได้เปิดขายให้กับประเทศใดเลย แม้แต่ประเทศพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุด ซึ่งคาดการณ์กันว่าราคาต้นทุนของ F-22 อยู่ที่ประมาณลำละ 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว หรือเป็นเงินไทยจะอยู่ที่ราว 11,900 ล้านบาท นับเป็นเครื่องบินขับไล่ที่มีราคาแพงที่สุดรุ่นหนึ่งที่เคยสร้างมา แต่สำหรับต้นทุนของ F-47 นอกจากจะล้ำกว่ารุ่นเดิมแล้ว ยังทำราคาให้ต่ำลงกว่า F-22 ประมาณครึ่งหนึ่ง เสนาธิการกองทัพบกสหรัฐฯ เปิดเผยว่าจะถูกลงราว 180 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว

หวัง หย่าหนาน บรรณาธิการบริหารนิตยสาร Aerospace Knowledge ให้ความเห็นว่ากองทัพสหรัฐฯ พยายามจะเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องบินรบ และพยายามลดราคาต้นทุนให้ต่ำลงเช่นนี้ ดูจะเป็นข้อดีสำหรับการค้าเครื่องบิน มากกว่าที่จะเสิรมความแข็งแกร่งให้กองทัพ โดยเฉพาะการมีบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินเชิงพาณิชย์อย่าง Boeing เข้ามารับงาน ทั้งที่บริษัทนี้แพ้การประมูลมาหลายปีแล้ว อย่างเครื่องบินรบ F-35 ก็ตกเป็นของบริษัท Lockheed Martin นอกจากนี้ โครงการอื่นๆ ของบริษัท Boeing เช่น เครื่องบินโดยสาร 737 MAX และเครื่องบินเติมเชื้อเพลิง KC-46 ก็ประสบปัญหาต่างๆ มากมายเช่นกันในช่วงไม่นานมานี้ 

แชร์
ทรัมป์สั่ง Boeing พัฒนาเครื่องบินรบ F-47 สำคัญต่อกองทัพอย่างไร?