CNG หรือ NGV ทางรอดพลังงานในอดีต กับปัจจุบันใกล้ถึงทางตันโดยสมบูรณ์?

15 ก.ค. 67

CNG หรือ COMPRESSED NATURAL GAS ซึ่งบ้านเราเรียกกันว่า NGV หรือ NATURAL GAS FOR VEHICLE ซึ่งแปลว่า ก๊าซธรรมชาติสำหรับพาหนะ เป็นก๊าซเชื้อเพลิงที่มีก๊าซมีเทนเป็นส่วนประกอบหลัก สามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ ได้เช่นเดียวกับน้ำมันเบนซินและดีเซล โดยที่ก๊าซ NGV จะถูกอัดจนมีความดันสูงมากกว่า 3,000 ปอนด์/ตารางนิ้ว ซึ่งในจุดนี้เอง ทำให้ในต่างประเทศเรียกก๊าซชนิดนี้ว่า COMPRESSED NATURAL GAS หรือ CNG ซึ่งก็แปลตรงตัวว่า ก๊าซธรรมชาติอัด นั่นเอง

คุณสมบัติของก๊าซ CNG

  • มีสัดส่วนของคาร์บอนน้อยกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่น และมีคุณสมบัติเป็นก๊าซ ทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์มากกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่น และปริมาณไอเสีย ที่ปล่อยออกจากเครื่องยนต์ใช้ก๊าซธรรมชาติ มีปริมาณต่ำกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่น
  • เป็นเชื้อเพลิงที่สะอาดไม่ก่อให้เกิดควันดำหรือสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน จึงสามารถลดปัญหามลพิษทางอากาศซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น
  • เป็นเชื้อเพลิงที่สามารถผลิตได้ในประเทศ จึงมีราคาถูกกว่าน้ำมัน และสามารถประหยัดเงินตราต่างประเทศจากการลดการนำเข้าน้ำมันดิบ


CNG เป็นเชื้อเพลิงที่ใช้ในรถยนต์ที่มีความปลอดภัยมาก เรียกว่าปลอดภัยกว่าน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล และแน่นอนว่าปลอดภัยกว่าก๊าซหุงต้มหรือ LPG หลายเท่า ที่ CNG มีความปลอดภัยมากกว่าเชื้อเพลิงตัวอื่น ๆ ก็เพราะคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครนั่นเอง อย่างเช่น เบากว่าอากาศ แต่ก๊าซหุงต้มและไอน้ำมันเบนซินหรือดีเซลหนักกว่าอากาศ

ดังนั้นเมื่อเกิดรั่วไหล ก๊าซ CNG จะไม่สะสมอยู่บนพื้นดินจนเกิดการลุกไหม้เหมือนเชื้อเพลิงอื่น ๆ นอกจากนั้น อุณหภูมิที่ก๊าซ CNG จะลุกติดไฟในอากาศเองได้ ต้องสูงถึง 650 องศาเซลเซียส ในขณะที่เชื้อเพลิงอื่น ๆ ลุกติดไฟได้ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่ามาก อีกทั้งความเข้มข้นขั้นต่ำสุดที่จะลุกติดไฟได้ของก๊าซ CNG จะต้องมีปริมาณสะสมถึง 5% ในขณะที่ก๊าซหุงต้มหรือ LPG จะอยู่ที่ 2% เท่านั้นนั่นเอง

ปัจจุบันเราจะเห็นว่าสถานีบริการก๊าซธรรมชาติอย่าง CNG สำหรับรถยนต์นั้น เริ่มถยอยปิดตัวลงอย่างเห็นได้ชัดเจน ซึ่งผู้เข้ารับบริการส่วนใหญ่จะเป็นรถแท็กซี่ สาเหตุส่วนหนึ่งอาจเนื่องมาจากเศรษฐกิจและโครงสร้างประเทศที่เปลี่ยนไป รถยนต์ที่เติมก๊าซ CNG นั้นลดน้อยลง โดยเฉพาะรถแท็กซี่เริ่มหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เนื่องจากประหยัด และได้ค่าโดยสารเต็มเม็ดเต็มหน่วย

ปั๊ม NGV เหลือกี่แห่ง?

ส่งผลให้ปัจจุบันมีการปิดปั๊ม CNG คงเหลือสถานีบริการอยู่ที่ 305 แห่งทั่วประเทศ ด้านผู้ให้บริการก๊าซธรรมชาติอย่าง ปตท. ที่ยังคงเหลือจะเป็นปั๊มที่อยู่ตามแนวท่อก๊าซธรรมชาติ โดยปั๊ม CNG เฉพาะแนวท่อก๊าซนั้น จะมีความคุ้มค่าในการลงทุนและช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งก๊าซทางรถยนต์ลงได้มาก ซึ่งปัจจุบัน ปตท. เองก็ได้ลดขนาดธุรกิจ CNG ลงเพื่อเน้นหารายได้และกำไรเพิ่มจากธุรกิจประเภทอื่น

สำหรับปัจจุบันยังคงมีปั๊ม CNG ทั้งหมดหลายร้อยแห่ง อ้างอิงมูลจากทางกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน ที่แสดงจำนวนตัวเลขสถานีบริการก๊าซธรรมชาติลดลง โดยในปี 2567 ปัจจุบันเหลือจำนวนปั๊มที่ใหบริการก๊าซธรรมชาติทั้งสิ้น 305 แห่ง จาก link: https://data.doeb.go.th/ne/dataset/r1/resource/96e6c02f-71f0-441f-a9b9-b824e2882d1c?view_id=d314439c-1b4a-40f7-8386-62f2a525c5aa

 

   

advertisement

ยานยนต์ คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม