“วาล์วน้ำ” เป็นอุปกรณ์ที่ไม่ค่อยมีปัญหา แต่ก็ยังมีโอกาสเสียได้เช่นกัน

วาล์วน้ำ หรือเทอร์โมสตัท ของเครื่องยนต์นั้น มีหน้าที่ เปิดและปิดกั้นทางเดินของน้ำหล่อเย็นไม่ให้ไหลเวียน ไปรอบ ๆ เครื่องยนต์ในขณะที่เครื่องยนต์เย็น เพื่อที่จะทำให้เครื่องยนต์ร้อนถึงอุณหภูมิการทำงานเร็วขึ้น

วาล์วน้ำ เป็นอุปกรณ์ที่ไม่ค่อยมีปัญหา แต่ก็ยังมีโอกาสเสียได้เช่นกัน ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ ก็คือ ไม่ยอมเปิดตามปกติ ด้วยอายุการใช้งานที่ยาวนานทำให้หมดสภาพ ซึ่งก็อย่างที่บอกแล้วว่า หน้าที่ของมันจะปิดกั้นทางเดินน้ำหล่อเย็น ไม่ให้น้ำไหลเวียนผ่านเข้าไปในหม้อน้ำ ตอนที่เครื่องยังไม่ร้อน เพื่อลดเวลาในการอุ่นเครื่องตอนเช้าๆ ให้น้อยลง พอเครื่องร้อนถึงอุณหภูมิทำงานแล้ว มันจึงจะเปิดให้น้ำมีการไหลเวียนเข้าไประบายความร้อนผ่านหม้อน้ำ อุณหภูมิที่กำหนดให้วาล์วน้ำหรือเทอร์โมสตัท เปิดในรถแต่ละรุ่นอาจจะไม่เท่ากัน พวกรถยุโรปจะตั้งที่อุณหภูมิสูงกว่ารถญี่ปุ่น เพราะต้องการประสิทธิภาพในการเผาไหม้ในอุณหภูมิสูง ๆ และอากาศจะหนาวเย็น

การทดสอบวาล์วน้ำหรือเทอร์โมสตัท

เริ่มจากวิธีง่าย ๆ ด้วยการสตาร์ทเครื่องยนต์ในขณะที่เครื่องยนต์ยังเย็นอยู่นั้น ให้ใช้มือสัมผัสที่หม้อน้ำหรือท่อน้ำอันบน ซึ่งเป็นท่อทางน้ำออก ในช่วงแรก ๆ จะยังเย็นอยู่ แต่ถ้าผ่านไปสัก 2 - 3 นาที จะรู้สึกร้อนขึ้นอย่างเร็ว แสดงว่า วาล์วน้ำทำงานผิดปรกติ แต่ถ้าค่อย ๆ ร้อนขึ้นทีละน้อย แสดงว่า วาล์วน้ำเปิดค้างตลอดเวลา แต่ถ้ากว่าจะร้อนได้ต้องใช้เวลานานมาก และเครื่องยนต์เริ่มร้อนจัดแล้ว ก็แสดงว่า วาล์วน้ำปิดตาย

แต่ถ้าจะให้แน่นนอนและชัดเจนขึ้น ก็ให้ถอดวาล์วน้ำหรือเทอร์โมสตัทออกมาต้ม ในภาชนะที่สามารถมองเห็นได้ เมื่อน้ำเริ่มร้อนมันจะเริ่มเผยอเปิดออกทีละน้อย จนน้ำเดือดก็จะเปิดกว้างสุด เมื่อเทอร์โมสตัทเสียบางทีจะเปิดไม่หมด ทำให้น้ำไหลเวียนไม่สะดวก ทำให้เกิดปัญหาโอเวอร์ฮีท (OVER HEAT) หรือเครื่องยนต์ร้อนจัดขึ้นได้ ต้องเปลี่ยนวาล์วน้ำหรือเทอร์โมสตัทใหม่ ไม่ควรไปถอดออก เพราะในรถรุ่นใหม่ ๆ ที่เป็นเครื่องยนต์หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ จะมีเซ็นเซอร์ตรวจเช็คอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น เพื่อรายงานให้กล่อง ECU ทราบ ซึ่งใช้เป็นส่วนหนึ่ง ในการกำหนดปริมาณการจ่ายเชื้อเพลิงเมื่อเครื่องเย็น จะสั่งจ่ายเชื้อเพลิงในอัตราส่วนผสมหนาทำให้เปลืองน้ำมันมากขึ้นนั่นเอง