ดราม่า "เพชรชี่ ปากปลาร้าหน้าเป๊ะ" ไลฟ์สดขายอาหารช้าง ชาวเน็ตจวก ท่าทางไม่เหมาะสม แฉรายได้หลักแสนต่อเดือน ด้านสาวสองเจ้าของช้าง โต้กลับ!
สาวสองครอบครัวของช้างที่ อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ยืนยันไม่ใช่เป็นการอนาจาร เป็นการหาเงินซื้ออาหารให้ช้างที่ตกงานจาก โควิด-19 หลังจาก "เพชรชี่ ปากปลาร้าหน้าเป๊ะ" มารีวิววาบหวิวต่อหน้าช้าง เพื่อขายตะกร้าอาหารช้าง จนกระทั่งมีการวิจารณ์กันเป็นวงกว้างว่าเหมาะสมหรือไม่
จากกรณีมีกลุ่มสาวสองตัวแม่ ชื่อว่า"เพชรชี่ ปากปลาร้าหน้าเป๊ะ" ได้เปิดกลุ่มลับเฉพาะกระเทยทางเฟซบุ๊ก ชื่อว่า กลุ่มนกเมาท์V4 ด้วยการไลฟ์สดเปิดขายตะกร้าอาหารช้าง ตะกร้าละ 50 บาท โดยขอบริจาคผ่านการโอนเงินเข้าบัญชี
กระทั่งโลกโซเชียลต่างออกมาวิจารณ์กันอย่างหนักว่าเหมาะสมหรือไม่ เนื่องจากมีการออกท่าทางลีลาเป็นในลักษณะอนาจารต่อหน้าช้าง ซึ่งคนไทยถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง บังหน้าหากิน
เนื่องจากมีข้อมูลว่า มีการไลฟ์สัปดาห์ละ 2 ครั้ง แต่ละครั้งจะขายได้ 100-300 ตะกร้า หากคิดตัวเลขกลมๆ ขายได้ครั้งละ 200 ตะกร้า ตะกร้าละ 50 บาทเท่ากับ 10,000 บาทต่อไลฟ์ อาทิตย์ละ 2 ครั้ง เดือนละ 8 ครั้ง คิดเป็นเงินประมาณ 80,000 - 100,000 ต่อเดือน ที่สำคัญไม่มีการแจกแจงรายได้ให้ผู้บริจาคแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่ บ้านแคนหมู่7 ต.วังเหนือ อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสถานที่มีการไลฟ์สดขายตะกร้าช้าง พบ นายชาติ หอมเนียม หรือ น้องน้ำหวาน อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 64 หมู่ 7 ต.วังเหนือ เล่าว่า
ช้างที่เห็นในภาพเป็นช้างของครอบครัว จำนวน 3 เชือก มีชื่อ ชะนู๊ด ช้างเพศเมีย อายุ 16 ปี , ชื่อชลิตา เพศเมีย อายุ 13 ปี และชื่อลำดวน เพศเมีย อายุ 40 ปี ปกติช้างทั้ง 3 เชือกจะไปรับจ้างบริการนักท่องเที่ยวอยู่ต่างจังหวัด หลังเกิดวิกฤติโควิด-19 ช้างต้องกลับมาบ้านแต่เกิดปัญหาเพราะไม่มีเงินมาซื้ออาหารช้าง
จึงคุยกับ เพชรชี่ ปากปลาร้าหน้าเป๊ะ ซึ่งมีชื่อเสียงทางโซเชียลมากกว่า ตนจึงให้มาร่วมจัดการไลฟ์สดดังกล่าว ยืนยันไม่ใช่เป็นการอนาจารเพราะเชื่อว่าผ่านการตรวจสอบของเฟซบุ๊กมาแล้ว หากไม่เหมาะสมน่าจะถูกบล็อกไปแล้ว
ส่วนการสาปแช่งตามคลิปเพราะเพชรชี่มีคู่กรณีทางโซเชียลแล้วมาคอมเมนต์ตำหนิกล่าวหาว่าหากินกับช้าง จึงทำพิธีเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์และสาปแช่งตอบโต้คนกล่าวหา
