ส่อแววไม่รอด! ควาญช้าง ติง "เพชรชี่" และผองเพื่อนปมไลฟ์สด ตร.จ่อออกหมายเรียก

15 ม.ค. 66

ควาญช้างวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สั่งสอน "เพชรชี่" และผองเพื่อนปมไลฟ์สดวาบหวิวต่อหน้าช้าง ด้านตร.เตรียมออกหมายเรียกส่อแววกระทำผิด

กลุ่มสาวสอง 3 คน ชาวบุรีรัมย์ ที่ไลฟ์สดขายอาหารช้างตะกร้าละ 50 บาท กลายเป็นประเด็นร้อน หลังจากมีคนออกมาวิจารณ์เกี่ยวกับการไลฟ์ที่มีลักษณะอนาจาร เป็นจำนวนมาก ควาญช้าง เผย ไม่สมควรอย่างยิ่ง ทั้งการไลฟ์สด และการสาปแช่งต่อหน้าช้าง ขณะตำรวจสภ.บ้านด่าน เตรียมออกหมายเรียกให้มาพบ อาจเข้าข่ายผิด พรบ.คอม และอนาจาร

วันที่ 15 ม.ค.66 จากกรณี กลุ่มสาวสองรวม 3 คน ซึ่งหนึ่งในนั้น เป็นกะเทยตัวแม่ ชื่อว่า"เพชรซี่ ปากปลาร้าหน้าเป๊ะ" ได้เปิดกลุ่มลับเฉพาะกะเทย ทางเฟซบุ๊กชื่อว่า กลุ่มนกเมาท์ V4 ด้วยการไลฟ์สด เปิดขายตะกร้าอาหารช้าง ตะกร้าละ 50 บาท โดยขอบริจาคผ่านการโอนเงินเข้าบัญชี

กระทั่งโลกโซเชียล ต่างออกมาวิจารณ์กันอย่างหนักว่าเหมาะสมหรือไม่ เนื่องจากมีการออกท่าทางลีลา ที่ออกในลักษณะอนาจาร ต่อหน้าช้างซึ่งคนไทยถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองบังหน้าหากิน เนื่องจากมีข้อมูลว่ามีการไลฟ์สัปดาห์ละ 2 ครั้ง แต่ละครั้งจะขายได้ 100-300 ตะกร้า หากคิดตัวเลขกลมๆ ขายได้ครั้งละ 200 ตะกร้า ๆ ละ 50 บาท เท่ากับหนึ่งหมื่นบาทต่อไลฟ์ อาทิตย์ละ 2 ครั้ง เดือนละ 8 ครั้ง คิดเป็นเงินประมาณ 80,000 -100,000 ต่อเดือน ที่สำคัญไม่มีการแจกแจงรายได้ให้ผู้บริจาคแต่อย่างใด

ซึ่งต่อนายชาติ หอมเนียม หรือน้องน้ำหวาน อายุ39 ปี บ้านเลขที่ 64 หมู่ 7 ต.วังเหนือ เจ้าของช้าง ได้ออกมาระบุและยืนยันว่าไม่ได้เป็นการอนาจาร แต่ต้องการหาเงินซื้ออาหารให้ช้างที่ตกงานในช่วงโรคโควิด-19 ระบาด รวมถึงการทำพิธีสาปแช่งคู่อริต่อหน้าช้างว่าเป็นการตอบโต้ที่ถูกกล่าวหาว่า"หากินกับช้าง"

ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวสอบถามนายวาสนา อายุ 29 ปี คนเลี้ยงช้าง บอกว่า ในฐานะที่เป็นคนเลี้ยงช้าง เท่าที่เห็นภาพ เป็นการไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง ที่มาเปิดวับๆ แวมๆ แล้วโฆษณาขายอาหารช้างเสียหลายคนเลี้ยงช้างที่เคยปฏิบัติดีมาโดยตลอด ส่วนใหญ่ผู้คนต้องการลอดท้องช้างเพื่อเป็นสิริมงคลมากกว่าการกระทำแบบนี้

ยิ่งมีการทำพิธีสาปแช่งต่อหน้าช้างยิ่งไม่สมควรอย่างยิ่ง คนโบราณ จะไม่พูดพล่อยๆ ต่อหน้าช้างโดยเด็ดขาด ไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อน จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปทำความเข้าใจและสั่งสอนกะเทยทั้ง 3 คนด้วย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

ด้าน พ.ต.อ.ชูสิทธิ์ หล่อแสง ผกก.สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาระบุว่า หลังทราบข่าวได้ให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบและรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว โดยจะทำการออกหมายเรียกเพื่อมาสอบปากคำก่อน เบื้องต้นพบว่าน่าจะมีความผิดเกี่ยวกับข้อหา พรบ.คอมพิวเตอร์และข้อหาอนาจาร ทั้งนี้จะต้องมีการสอบปากคำผู้ก่อเหตุก่อน

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส