อัจฉริยะ ร้องนายกฯ สอบ บิ๊กเอก เอี่ยวเว็บพนัน ฮุบรถหรูอดีต ผกก.โจ้

28 พ.ค. 67

 

อัจฉริยะ บุก ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์รัฐบาล ร้องนายกฯ ตั้งกรรมการเอาผิด บิ๊กเอก เอี่ยวเว็บพนัน แถมยังฮุบรถหรูอดีต ผกก.โจ้ 

วันที่ 28 พ.ค. 67 นาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 

เพื่อขอให้ตั้งกรรมการสอบสวน พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และให้มีคำสั่งย้ายไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี หลังศาลอาญาพิพากษาว่า พล.ต.ต.เอกรักษ์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ และร่วมกันลักรถยนต์ของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีต ผกก.โจ้ เข้าข่ายมีพฤติการณ์ฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน ทำให้อาจขาดคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ 

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของ ปปง. ต้องเป็นบุคคลที่ขาวสะอาด เป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม และเป็นตัวอย่างในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน แต่พล.ต.ต.เอกรักษ์ ซึ่งเป็นรองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง. กลับไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์เสียเอง 

ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ ตนเองก็จะไปยื่นเรื่องให้นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธาน กรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง พล.ต.ต.เอกรักษ์เช่นเดียวกัน พร้อมบอกด้วยว่าในสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตนเองเคยร้องเรียนไปยังนายฉัตรชัยแล้ว แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ โดยอ้างว่าไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่วันนี้ศาลมีคำพิพากษาชัดเจนแล้วว่า พล.ต.ต.เอกรักษ์เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ดังนั้นก็คาดหวังว่านายฉัตรชัยจะดำเนินการเรื่องนี้ มิฉะนั้นจะถือว่าละเลยเพิกเฉย และตนก็จะร้องเรียนให้ดำเนินการทางวินัยกับนายฉัตรชัย ในฐานะผู้บังคับบัญชาด้วยเช่นกัน 

สำหรับคำพิพากษาที่นายอัจฉริยะอ้างถึงนั้น เป็นคดีที่นายอัจฉริยะถูก พล.ต.ต.เอกรักษ์ฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และในการสืบพยานทั้งโจทก์และจำเลยในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลอาญามีคำสั่งยกฟ้องนายอัจฉริยะ โดยในคำพิพากษาบางช่วงบางตอนปรากฎข้อเท็จจริงว่า นายภาคิน ฐานะบวรเดช เจ้าของเว็บพนันออนไลน์ และผู้กดเงินได้โอนเงิน 560,000 บาทให้ พล.ต.ต.เอกรักษ์ และตำรวจยังได้นำหมายศาลบุกค้นสำนักพิมพ์ของภรรยา พล.ต.ต.เอกรักษ์ เนื่องจากมีหลักฐานที่ได้จากการทดลองเล่นพนันออนไลน์ และยังเป็นที่ตั้งเว็บไซต์พนันออนไลน์ด้วย แม้พล.ต.ต.เอกรักษ์จะอ้างว่าเงินที่ได้รับโอนเป็นเงินจากการซื้อขายรถ แต่ก็ไม่มีหลักฐานสนับสนุน ทำให้มีเหตุน่าเชื่อได้ว่า พล.ต.ต.เอกรักษ์อาจมีความเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับเว็บพนันออนไลน์ 

ส่วนกรณีรถยนต์ของ อดีต ผกก.โจ้นั้น พล.ต.ต.เอกรักษ์ได้เบิกความรับว่าเคยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่าเคยให้บุตรนำรถของ อดีต ผกก.โจ้ 13 คันไปขาย โดยไม่ได้รับมอบอำนาจจาก อดีต ผกก.โจ้โดยตรงจริงอีกด้วย

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส