งามไส้! เรือของกลาง คดีน้ำมันเถื่อนหาย 3 ลำ ตั้งกก.สอบ ตำรวจน้ำด่วน

13 มิ.ย. 67

งามไส้! เรือของกลาง คดีน้ำมันเถื่อน เครือข่าย “เสี่ยโจ้” หาย 3 ลำ พร้อมน้ำมันกว่า 3 แสนลิตร “บิ๊กก้อง” สั่งตั้งกรรมการสอบ ตำรวจน้ำด่วน 

วันที่ 12 มิ.ย.67 ที่ สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ร.ต.ท.สันติชล หุมอาจ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งความจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำสัตหีบว่า เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนจำนวน 3 ลำ ของกลางในคดี ที่ถูกควบคุมให้ทอดสมออยู่ในอ่าวสัตหีบได้หนีหายไป เมื่อกลางดึกของวันที่ 11 มิ.ย. 67 และคาดว่าน่าจะมุ่งหน้าไปทาง จ.ตราด และเข้าไปในเขตทะเลประเทศเพื่อนบ้านแล้ว  เรือของกลาง คดีน้ำมันเถื่อนหาย 3 ลำ ตั้งกก.สอบ ตำรวจน้ำด่วน

จากการสอบถามทราบว่า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.67 เวลาประมาณ 06.00 น. พ.ต.ท.กอบชัย โตอ่อน สว.ส.รน.3 กก.5 บก.รน.ได้รับแจ้งว่า เรือของกลาง จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย 1. เรือ เจ.พี. พร้อมของกลาง น้ำมันเถื่อนประมาณ 80,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ จำนวน 7 คน  2. เรือซีฮอต พร้อมน้ำมันเถื่อนประมาณ 150,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ จำนวน 6 คน 3. เรือดาวรุ่ง พร้อมน้ำมันเถื่อนประมาณ 100,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ จำนวน 5 คน ได้หายไปจากจุดทิ้งสมอ  

 เรือของกลาง คดีน้ำมันเถื่อนหาย 3 ลำ ตั้งกก.สอบ ตำรวจน้ำด่วน

เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 67 มีพายุเข้าในพื้นที่ อ.สัตหีบ มีกระแสลมแรง ทำให้สะพานตำรวจน้ำไม่สามารถรองรับนำหนักเรือของกลาง ที่จอดอยู่บริเวณหัวสะพาน  ทั้งหมดได้ จึงให้เรือของกลางฯ ทั้ง 3 ลำ ออกลอยลำเพื่อทำการทิ้งสมอในระยะปลอดภัย ระยะห่างจากสะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำประมาณ 100 เมตร 

และในเวลา 08.00 น. ของวันที่ 12 มิ.ย. 67 พ.ต.ท.กอบชัย พร้อมด้วย ข้าราชการตำรวจ ในสังกัด ส.รน.3 กก.5 บก.รน.(ตำรวจน้ำสัตหีบ) ได้นำเรือตรวจการณ์ 815 และเรือตรวจการณ์ 632 ออกทำการค้นหา เพื่อติดตามเรือของกลาง จำนวน 3 ลำ กลับมา    

 เรือของกลาง คดีน้ำมันเถื่อนหาย 3 ลำ ตั้งกก.สอบ ตำรวจน้ำด่วน

จากนั้นเวลา 11.00 น. เรือตรวจการณ์ 815 และ 632 ยังคงทำการค้นหา ปัจจุบันยังไม่พบเรือ ของกลาง จำนวน 3 ลำ แต่อย่างใด โดยเรือทั้งหมดถูกตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (กก.2 บก.ปอศ.) จับกุมเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา

โดยเรือน้ำมันเถื่อนของกลางทั้งหมดจอดรวมกันในวันที่เกิดเหตุได้เกิดพายุลมแรงจึงนำเรือทั้งหมดออกไปทอดสมอห่างจากฝั่งประมาณ 100 เมตร จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าตำรวจที่เข้าเวรยังมองเห็นเรือดังกล่าวเปิดไฟเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 11 มิ.ย. 67 กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. เรือทั้งหมดได้ดับไฟ จนกระทั่งช่วงเช้าจึงพบว่าเรือหายไปแล้ว เพื่อเป็นหลักฐานต่อไป 

ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งคลี่คลายคดีอย่างเร็วที่สุด โดยให้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกค้นหาทั้งทางเรือและทางอากาศ เนื่องจากของกลางหายเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเพราะอยู่ในความควบคุมของตำรวจ โดย พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน. ได้ตั้งกรรมการสอบสวน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุด และหาผู้กระทำผิดมารับผิดชอบต่อไป 

 เรือของกลาง คดีน้ำมันเถื่อนหาย 3 ลำ ตั้งกก.สอบ ตำรวจน้ำด่วน

สำหรับเรือทั้ง 3 ลำที่หายไปครั้งนี้นั้น เป็นเครือข่ายของ “โจ้ น้ำมันเถื่อน” หรือ “โจ้ ปัตตานี” ซึ่งเป็นขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ในภาคใต้ ที่หลบหนีหมายจับคดีน้ำมันเถื่อนหลายคดีอยู่ในต่างประเทศ 

ด้าน พ.ต.ท.กอบชัย เปิดเผยว่า เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนชุดที่ถูกจับกุมมาเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 67 นั้นมีจำนวน 5 ลำ โดยเรือของกลางได้จอดเก็บรักษาไว้ที่สะพานเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ได้เกิดคลื่นลมแรงอย่างมาก จนเกรงว่าสะพานที่มีสภาพเก่าอาจจะได้รับความเสีย จากแรงกระแทกของเรือ จึงสั่งการให้นำเรือของกลางออกไปทอดสมอในอ่าวสัตหีบ ซึ่งสามารถมองเห็นด้วยสายตาได้ จนถึงเวลาประมาณ 21.00 ของวันที่ 11 มิ.ย. มีคนเห็นว่าเรือทั้ง 3 ลำยังจอดอยู่ตามปกติ 

กระทั่งถึงช่วงเช้าวันนี้ ก็ไม่เห็นว่ามีเรือจอดทอดสมออยู่ในที่เดิม จึงได้ตรวจสอบจนพบว่าเรือเรือหาย โดยไม่รู้ว่าใครเป็นคนนำไปหรือหายไปที่ใด จากนั้นจึงได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่นำเรืออกติดตามไล่ล่า รวมทั้งยังมีการประสานไปยังหมู่เรือตรวจการณ์ของทัพเรือภาคที่ 2 รวมไปถึงเรือตำรวจน้ำในพื้นที่ จ.จันทบุรี ออกลาดตระเวนตรวจสอบ โดยมีรายงานล่าสุดว่ามีผู้พบเห็นเรือทั้ง 3 ลำนี้กำลังแล่นอยู่บริเวณหลังเกาะช้าง จ.ตราด ซึ่งปัจจุบันอาจเป็นไปได้ว่าแล่นเข้าไปในเขตน่านน้ำของประเทศเพื่อนบ้านไปแล้ว ทั้งนี้ทางตำรวจน้ำสัตหีบจะได้มีการนำเรื่องเข้าแจ้งความกับ สภ.สัตหีบ เพื่อบันทึกเป็นหลักฐานและตั้งข้อหาดำเนินคดีกับเรือที่หลบหนีต่อไป 

 เรือของกลาง คดีน้ำมันเถื่อนหาย 3 ลำ ตั้งกก.สอบ ตำรวจน้ำด่วน

ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า การติดตามเรือทั้ง 3 ลำที่หายไปขณะนี้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกค้นหาทั้งทางเรือและทางอากาศทั่วน่านน้ำฝั่งอ่าวไทยทั้งในพื้นที่ จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และ จ.ตราด หลังมีรายงานจากพลเมืองดีว่าพบเห็นเรือทั้ง 3 ลำ บริเวณเกาะช้าง ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบเรือดังกล่าว คาดพยายามมุ่งหน้าออกจากน่านน้ำฝั่งไทยเข้าสู่ประเทศกัมพูชา และยังคงค้นหาอย่างต่อเนื่อง 

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นความบกพร่องของตำรวจน้ำในพื้นที่ โดยได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ ตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุด และหาผู้กระทำผิดมารับผิดชอบ เนื่องจากของกลางหายเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเพราะอยู่ในความควบคุมของตำรวจ โดยในวันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) เวลา 13.00 น. จะไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ด้วยตัวเอง พร้อมสั่งการให้เร่งหาลูกเรือมาสอบสวนโดยเร็วที่สุด

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส