รวบแล้ว! คนร้ายฆ่าหนุ่มใหญ่ทิ้งศพในสระน้ำ ที่แท้คือพระ ใช้ช้อนกินข้าวเป็นอาวุธ

18 มิ.ย. 67

 

รวบแล้ว! คนร้ายฆ่าหนุ่มใหญ่ทิ้งศพในสระน้ำ ที่แท้คือพระ อ้างทนรบเร้าจะเอาอาหารไม่ไหว จึงทะเลาะ ก่อนใช้ช้อนกินข้าวเป็นอาวุธ กระหน่ำแทง 

จากกรณีที่นายศุภพงศ์ กงแก้ว หายออกไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา ทางนางอรปรียา กงแก้ว พร้อมญาติ ได้ออกค้นหาตลอดทั้งวันทุกที่ที่สามีเคยไปอยู่เป็นประจำ เช่น โบราณสถานถ้ำเขาปีบ ซึ่งมีพระจำพรรษาอยู่สองรูป และทั้งคู่อ้างว่าไม่พบหน้านายศุภพงศ์เช่นกัน 

จนกระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 15 มิ.ย. 67 ได้มีชาวบ้านมาพบเป็นศพถูกทำร้ายด้วยของเหล็ก แทงเข้าที่ใบหน้า ที่บนศีรษะหลายแผล ลอยน้ำอยู่ในสระน้ำหน้าสวนปาล์มของชาวบ้าน และอยู่เยื้องกับโบราณสถาน เพียง 200 เมตร โดยมีรางรถไฟกั้นกลาง 

ล่าสุดวันที่ 18 มิ.ย. 67 จากการลงพื้นที่ของตำรวจชุดสืบสวน ภาค 8 และตำรวจชุดสืบสวน สภ.ทุ่งตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ได้สอบปากคำพระทั้งสองรูป พร้อมนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาเปรียบเทียบคาดคั้นจากความเป็นจริง เนื่องจากการสอบปากคำพระสองพ่อลูกที่อ้างว่า ทุกเช้าจะออกเดินบิณฑบาต ตั้งแต่เช้าเวลา 05.30 น. และจะกลับในเวลาประมาณ 08.30 น. 

โดยพระหัด ภูษา ซึ่งเป็นพ่อเดินหน้า และมีพระสุนย์ทร ภูษา ลูกชายเดินตามหลัง ซึ่งเป็นอย่างนี้ทุกวัน แต่ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พบว่า ในวันเกิดเหตุ พบว่าในช่วงเช้าพระหัดเดินนำหน้าจริง โดยมีพระสุนย์ทร เดินตามหลังห่างกันเพียง 4 นาที แต่ในขณะเดียวตอนขากลับพบว่าพระสุนย์ทรได้เดินกลับเพียงลำพัง โดยพระหัดผู้เป็นพ่อ เดินตามมาห่างกันประมาณนับชั่วโมง แต่ทั้งคู่ยังยืนยันว่า ห่างกันเล็กน้อย 

เจ้าหน้าที่จึงได้นิมนต์เฉพาะพระสุนย์ทร มาสอบปากคำอีกครั้งที่ สภ.ทุ่งตะโก เพื่อเค้นหาข้อมูลที่เท็จจริงในช่วงดังกล่าวว่า มาแล้ว ไปไหน ทำอะไร เพราะเป็นช่วงที่นายศุภพงศ์ หายตัวไป ประกอบยังพบว่าบริเวณไหล่ขวาของพระสุนย์ทร มีร่อยรอยขีดข่วนแนวยาว ซึ่งขัดกับคำกล่าวอ้างของพระสุนย์ทร ที่บอกว่ายุงกัด 

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จนในที่สุด พระสุนย์ทร ยอมเปิดปาก ว่าหลังจากที่กลับจากบิณฑบาต กลับมาที่สำนักก็พบว่านายศุภพงศ์ มานั่งรอที่จะเอาอาหารจากตน ทั้งที่ตนเองเพิ่งมาถึง และยังไม่ได้ฉันอาหารเลย จึงเกิดการทะเลาะกัน ถึงขั้นลงไม้ลงมือ และตนเองก็ใช้ช้อนสั้น เป็นอาวุธในการแทงนายศุภพงศ์จริง

ทางเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำเกี่ยวกับพื้นที่บริเวณก่อเหตุตรงไหน และทำไมศพ จึงไปอยู่ในสระน้ำ ซึ่งทางพระสุนย์ทร บอกเพียงจุดที่ทะเลาะทำร้ายกัน ตรงศาลาที่สำนัก ส่วนศพและรองเท้า ทำไมไปอยู่ตรงนั้น ตนไม่รู้ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวไปทำการสึก  และรอการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากพระสุนย์ทร หรือนายสุนทร เริ่มมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด 

ด้านพระหัด ภูษา ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า พระลูกชายสุขภาพไม่ดี เคยผ่าสมองตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยสาเหตุจากอุบัติเหตุ และตนไม่รู้เลยว่าพระลูกจะมาก่อเหตุดังกล่าวได้ หากวันนั้นตนเองกลับมาพร้อมกันเรื่องก็คงไม่เกิดแน่นอน เพราะพอจะห้ามปราบได้ ซึ่งเชื่อว่าพระลูก คงคุมอารมณ์ไม่ได้ เนื่องจาก อาการจะอ่อนไหว โมโหร้าย และบางครั้งก็จะนิ่งเงียบ 

พระหัด ยังบอกว่า ก็ปล่อยไปตามกฎหมายไปใครทำอะไรก็ได้เช่นนั้น ส่วนตนนั้น หลังจากนี้ก็จะเดินทางไป จ.อุดรธานี บ้านเกิด เพื่อจะจัดการเรื่องที่ทาง เพื่อเก็บที่ดินส่วนหนึ่งไว้ให้กับนายสุนทร หลังจากที่พ้นคดีไว้ทำกินต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส