สาวไม่ทน! ถูกหนุ่มในบริษัทพยามข่มขืน เบ่งอายุงานมากกว่า

สาวผู้จัดการบริษัทขนส่ง ร้องสายไหมต้องรอด หลังถูกลูกน้องในบริษัทลวนลาม พยามจะข่มขืน แจ้งความแล้วคดีไม่คืบ

วันที่ 20 มิ.ย.67 นางจิตราภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ผู้เสียหายเดินทางเข้าพบนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ภายหลังถูกเพื่อนร่วมงานแสดงพฤติกรรมอนาจาร ชอบเดินจับอวัยวะเพศโชว์ในที่ทำงาน และพยายามกระทำอนาจารในที่ทำงานหลายครั้ง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขึ้นภายในบริษัทแห่งหนึ่ง ย่านตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี

นางจิตราภรณ์ ผู้เสียหาย บอกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 19.05 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนเลิกงาน ระหว่างนั้นเธอได้เดินไปเข้าห้องน้ำ และ เห็นว่านายนิกร (ผู้ก่อเหตุ) ยืนรอดักอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ ซึ่ง ณ ตอนนั้นเธอไม่ได้เอะใจอะไร จึงเดินเข้าห้องน้ำตามปกติ จนกระทั่งเธอเดินออกมาจากห้องน้ำ จู่ๆ นายนิกร (ผู้ก่อเหตุ) ได้เดินเข้ามาฉุดและพยายามจะทำอนาจารเธอ และขอมีอะไรด้วย ซึ่งเหตุการณ์ก็เป็นไปตามภาพกล้องวงจรปิด

หลังเกิดเหตุเธอได้มีการแจ้งพฤติกรรมพนักงานไปยังต้นสังกัด แต่ด้วยความที่ต้นสังกัด ณ ช่วงเวลานั้นเป็นแฟรนไชส์ ยังไม่ได้เป็นของสำนักงานใหญ่ ทางแฟรนไชส์ได้มีการอ้างกับเธอว่า “เขาไม่สามารถทำอะไรได้ เขาไม่กล้า กลัว เนื่องจากเคยโดนพนักงานคนนี้เคยข่มขู่ไว้ว่า เขาจะทำให้งานมีปัญหา” ด้วยความที่นายนิกร (ผู้ก่อเหตุ) เป็นคนค่อนข้างที่ทำงานมานาน จึงทำให้ต้นสังกัดไม่กล้าที่จะลงโทษ เพราะกลัวกระทบกับงาน ซึ่งเธอมองว่า ทางแฟรนไชส์ มองแค่เรื่องงาน ไม่ได้คิดถึงจิตใจและความปลอดภัยของตนเลย

นางจิตราภรณ์ เผยต่อว่า เธอเข้ามาทำงานที่บริษัทขนส่งแห่งนี้ได้ ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 66 จากนั้นเข้าสู่เมื่อ เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายนิกร (ผู้ก่อเหตุ) ซึ่งมีตำแหน่งเป็นพนักงานส่งพัสดุอาวุโส ได้เริ่มมีพฤติกรรมมาขอมีเพศสัมพันธ์กับเธอ โดยอ้างว่าที่ผ่านมาเขาคอยช่วยเหลืองานเธอทุกอย่าง ซึ่งตนก็ได้มีการปฏิเสธ เพราะทั้งเธอ และเขาก็มีแฟนด้วยกันทั้งคู่ จึงเป็นเหตุทำให้นายนิกรไม่พอใจ และตามข่มขู่คุกคามตนมาระยะตลอดเวลา 5 เดือน ทั้งจับเนื้อต้องตัว พูดจาในเชิงอนาจาร มิหนำซ้ำยังไปพูดกับคนอื่นว่า “ตนเป็นเด็กของเด็กของเขา และเคยได้กันแล้ว” ซึ่งเธอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงและต้องการออกมาเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตนเอง

ที่ผ่านมาตนพยามอดทนมาตลอด เพราะคิดอยู่อย่างเดียวว่า เธอมาทำงาน แต่นับวันพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุนั้น ก็ไม่ยอมหยุด จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ในคลิปดังกล่าว เธอจึงเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.เสม็ด ทันที

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอยืนยันว่า จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หลังเกิดเหตุเธอได้ขอย้ายไปงานอีกสาขาหนึ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงการเจอหน้ากับนายนิกร (ผู้ก่อเหตุ)และอยากให้ทางบริษัทพิจารณาพฤติกรรมของนายนิกร (ผู้ก่อเหตุ) ว่า สมควรรับทำงานอยู่ที่นี่หรือไม่

ด้าน นายเอกภพ เผยว่า หลังจากนี้จะมีการประสานงานไปยังผู้กำกับสภ.เสม็ด ให้เร่งติดตามดำเนินคดีกับนายนิกร (ผู้ก่อเหตุ) ให้เร็วที่สุด เพราะพฤติกรรมดังกล่าวนั้น ตนมองว่ามันไม่ถูกต้อง และเท่าที่ตนทราบ พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุนั้นก็ค่อนข้างที่จะเก๋า เพราะคิดว่าอายุงานนานสุด หากไม่พอใจอะไรใคร เขาก็จะหาเรื่อง และบีบให้คนนั้นออกจากงาน