ร้องเจอญาติทำร้ายจนตาบอด แถมหลอกเปิดบัญชีม้าจนถูกจับ

21 มิ.ย. 67

สาวใหญ่ร้องสายไหมต้องรอด เจอญาติทำร้าย ใช้มะพร้าวทุบหน้าจนตาบอด แถมหลอกให้เปิดบัญชีม้าโดนจับเข้าคุก 45 วัน

 

วันนี้ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน พา นางสาวศรีนวล ชุ่มจิต อายุ 47 ปี ผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายร่างกายจนตาบอด 2 ข้าง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ที่ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา วันนี้เดินทางมาพร้อมกับลูกสาว น.ส.ศุภากร เชยกลิ่น หรือน้องแอร์ อายุ 30 ปี เนื่องจากตาของผู้บาดเจ็บมองไม่เห็น ตอนที่เดินทางมาถึงโรงพัก ทีมสายไหมต้องรอด รวมทั้งลูกสาวต้องคอยช่วยประคอง น.ส.ศรีนวล อย่างใกล้ชิดเนื่องจากจะต้องเดินขึ้นบันได

หลังจากเดินทางมาถึง ทางด้าน นายเอกภพ พร้อมกับผู้บาดเจ็บ ได้เข้าไปร่วมพูดคุยกับ พ.ต.อ.มนัส อัดโดดดร ผกก.สภ.อุทัย ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

ทางด้าน นางสาวศรีนวล ผู้เสียหาย บอกว่า ร่องรอยบาดแผลตามร่างกายของตัวเอง เกิดจาก ก่อนหน้านี้ น.ส.หนูเล็ก ญาติลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกาย เอาไม้แขวนเสื้อตีเข้าที่หลังและถูกแตะที่ปลายคาง รวมทั้งถูกกักขังอยู่ในห้อง โดยไม่ให้กินข้าว และไม่ให้เข้าห้องน้ำ

1718952261503

ตนเองโดนทารุณกรรม โดยญาติคนนี้ถึงขั้นใช้ลูกมะพร้าวทุบไปที่ใบหน้าของตน กระทืบเข้าที่ใบหน้าต่อเนื่อง จนศีรษะได้รับความกระทบกระเทือน ท้ายที่สุดทำให้ตนมีอาการตาพร่ามัว และตาบอดในที่สุด ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่จังหวัดชัยนาท เมื่อปี 2561

ล่าสุดโดนผู้ก่อเหตุหลอกให้เปิดบัญชีม้า จนโดนจับไป 45 วันเพิ่งออกมาจากคุก ก่อนมาร้องเรียนสายไหมต้องรอด

ตนเอง ยอมรับ ระหว่างที่ถูกทำร้ายต่อเนื่องสะสม ตนเองไม่มีทางเลือก และไม่รู้จะไปทางไหนจริงๆ ที่ผ่านมาเคยคิดจะหนีและฆ่าตัวตาย เพราะไม่คิดว่าตัวเองต้องตกอยู่ในสภาพนี้ และต้องไปเป็นที่ระบายอารมณ์ให้กับผู้ก่อเหตุ

อีกทั้งจากที่สังเกตพฤติกรรมของคนก่อเหตุ บางครั้งก็ดูเหมือนจะเห็นใจตนเอง แต่ที่เจ็บปวดมากที่สุด เคยได้ยินผู้ก่อเหตุพูดว่า “ยิ่งเห็นเลือดออก ยิ่งสะใจ”

โดยล่าสุดตนเองได้ติดต่อพูดคุยกับผู้ก่อเหตุล่าสุดช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตอนนั้นผู้ก่อเหตุโทรมาอวยพรวันเกิดกับตน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ก่อนที่จะตัดสายทิ้ง และตอนนี้ตนหมดสิ้นทุกอย่างแล้ว ทั้งการทำงาน จนชีวิตพังทลาย และตอนนี้ก็ไม่อยากกลับไปเป็นภาระลูกหลาน วอนตำรวจช่วยตามตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีอย่างเร็วที่สุด

นาย เอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารมว.มหาดไทย ระบุ ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขั้นทั้งหมดนั้น ยืนยันว่า ทางคดีนี้ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน และต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ให้การช่วยเหลือและรับตัวผู้ร้องรายนี้จากศาลมา และสังเกตเห็นจึงสอบถามข้อเท็จจริง และค้นหาติดต่อลูกสาวให้ช่วยเหลือจนมาสืบทราบว่าโดนทำร้ายร่างกายจนตาบอด

ตนเองอยากฝากถึง นาง หนูเล็ก ผู้ก่อเหตุ ใช้ชีวิตมาหลายปีสุขสบายมานาน ป้าต้องทนทุกข์อยู่ในคุกมานาน ตอนนี้รอเลย เวรกรรมมีจริง รอท่านไปอยู่ข้างในคุกแทนบ้าง ตนเองได้ดำเนินการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางด้าน ผกก.สภ.อุทัย จว.พระนครศรีอยุธยา ได้รับเรื่องและ ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองชัยนาท อีกทางนึงถึงการตามตัว คนร้าย เนื่องจากเหตุเกิดขึ้นทั้ง 2 พื้นที่ ทั้ง จว.พระนครศรีอยุธยา และ จว.ชัยนาท

เพราะถึงแม้ป้าจะตาบอดตอนนี้ มองแทบไม่เห็น แต่ตอนเกิดเหตุนั้นไม่ตาบอด สามารถเล่ารายละเอียดต่างได้ทั้งหมดว่าเกิดเหตุเช่นไรโดนอะไรมาบ้าง

ตนเองฝากตรวจสอบถึงเรื่องคดีเกี่ยวข้องกับการทารุณกรรม มองว่าต้องมีการรสอบปากคำโดยละเอียดเพิ่มเติมด้วย อีกทั้งเรื่องของการประสานเรื่องของแนวทางการรักษาตนเองประสานกระทรวงสาธารณสุข ประสาน นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข และว่าจะรักษาอย่างไรบ้างได้บ้าง ทั้งเรื่องดวงตาที่ยังพอมาเห็นได้เพียงเล็กน้อย ก็ต้องหาแนวทางรักษาให้ดีที่สุด เพื่อให้สามารถทำให้มองเห็นได้ไม่มากก็น้อย ส่วนเรื่องบาดแผลร่องรอยของการโดนทำร้าย ที่อวัยวะผิดรูปต่างๆก็จะต้องดำเนินการรักษาหรือศัลยกรรมด้วย

แต่ตอนนี้อยากดำเนินเรื่องของจับกุมคนร้ายให้ได้ก่อน เมื่อสิ้นสุดนั้นกระบวนการนั้นก็จะได้ดำเนินการต่อในขั้นตอนการรักษาต่อไป.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส