ยู ซัมมิท กรุ๊ป เตือนครั้งที่ 1 ลงบันทึกประจำวัน ลิลลี่ เหงียน ด่าปัญญาอ่อน

11 ก.ค. 67

 

ยู ซัมมิท กรุ๊ป เตือนครั้งที่ 1 บุกสน.ทองหล่อ ลงบันทึกประจำวัน ลิลลี่ เหงียน ด่าปัญญาอ่อน ชี้หากผิดอีกฟ้อง 10 ล้าน - เผยเจ้าหนี้ ปู มัณฑนา รีบแสดงตัวก่อนสิ้นเดือนนี้ เพื่อรวมยอดคืนให้เร็วที่สุด 

วันที่ 11 ก.ค. 67 ที่ สน.ทองหล่อ นายตรีพัชญ์  มหากิจวิวัฒน์ ตัวแทนบริษัท ยู ซัมมิท กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทดูแลด้านการเงิน ที่นาย ภักดีหาญส์ หิมะทองคำ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นสามีของ ปู มัณฑนา หิมะทองคำ อดีตนักแสดง-นางแบบ ให้มาดูแลเรื่องการรวบรวมรายชื่อเจ้าหนี้ เดินทางมาลงบันทึกประจำวัน กรณีที่ ลิลลี่ เหงียน กล่าวพาดพิงบริษัท ยู ซัมมิท กรุ๊ป จำกัดในรายการหนึ่งว่าปัญญาอ่อน 

นายตรีพัชญ์ กล่าวว่า เดิมจะมาแจ้งความดำเนินคดี แต่คิดแล้ววันนี้เปลี่ยนมาลงบันทึกประจำวันแทน เพราะตนเข้าใจว่าน้องลิลลี่อาจจะมีอารมณ์ปะทะ และไม่เข้าใจว่าบริษัทเราเข้ามาเพื่อไกล่เกลี่ย ทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ของปูมัณฑนา ฉะนั้นตนเข้าใจและเห็นใจ แต่อยากน้องลิลลี่ได้เห็นว่าการใช้อารมณ์ และการเข้าใจอย่างถี่ถ้วนจะทำให้ทุกอย่างคลี่คลาย 

น้องลิลลี่เป็นคนน่ารัก นิสัยดี และใจสปอร์ต อยากให้เป็นที่รักของประชาชนในนามของบริษัท ยู ซัมมิท กรุ๊ป จำกัด ก็ขอให้น้องลิลลี่ประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจ เป็นดาราที่อยู่ในวงการได้ 

นายตรีพัชญ์ กล่าวต่อว่า การที่มาลงบันทึกประจำวันก็แค่ต้องการตักเตือน เพราะผิดครั้งที่หนึ่ง สามารถตักเตือนกันได้ แต่ขออย่าผิดครั้งที่สอง เพราะคำว่าปัญญาอ่อนบางคนไปตีความว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่ หรือแค่เข้าลหุโทษ โทษน้อย ซึ่งอยู่ที่วิชาชีพของแต่ละคน แต่ด้วยวิชาชีพของตน และบริษัทตนดูแลเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ และมีนายทุนค่อนข้างเยอะ ดูแลอสังหาริมทรัพย์มูลค่าที่เราดูแลอยู่ประมาณ 1,000 กว่าล้านบาท ฉะนั้นถ้าตนจะจริงจังกับน้องลิลลี่ ตนเรียกค่าเสียหายก็ต้องไปสู้กันเยอะ เพราะการที่น้องพูดแบบนี้ทำให้กระทบความเชื่อมั่นนายทุนที่จะดูแลวงเงินให้บริษัท ถ้าเขาเกิดไม่เชื่อมั่นก็จะเกิดความเสียหายมาก และตนเองก็ยังมีนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในการดูแลของตนที่ทำธุรกิจด้วยกับตนประมาณ 100 คน แบบนี้เกิดความเสียหายใหญ่ และน้องลิลลี่ใช้ถ้อยคำลงในออนไลน์ สามารถดูซ้ำ  ลงในออนไลน์ และตัดถ้อยคำนั้นมาลง ก็สร้างความเสียหายให้กับภาพลักษณ์ของบริษัท ถ้าตนวันนี้จะดำเนินคดีจริงๆ มูลค่าความเสียหายค่อนข้างสูง ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท 

เมื่อถามว่า วันนี้ยังมีการตักเตือนแล้วหากยังมีการกระทำอีกในลักษณะเดิมๆ หรือดูหมิ่นอีก จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายตรีพัชญ์ กล่าวว่า ตนก็คงจะแจ้งความดำเนินคดีแน่นอน เมื่อถามว่าจะให้โอกาสสักกี่ครั้ง นายตรีพัชญ์ กล่าวว่า ผิดครั้งที่หนึ่งอภัยได้แต่ผิดครั้งที่สองไม่ได้แล้ว ครั้งนี้ถือเป็นใบเตือนก่อน ทั้งนี้ภายหลังจากมีการดำเนินการลงบันทึกประจำวันแล้ว น้องลิลลี่ก็ไม่ได้ติดต่อมาขอโทษ และไม่มีการทำอะไรเลยที่รู้สึกว่าสิ่งที่กระทำอยู่นั้นเขาพลาดพลั้ง 

นายตรีพัชญ์ กล่าวว่า คนไทยทุกคนสิ่งสำคัญที่สุดคือมารยาท และความอ่อนน้อมถ่อม ตนบริษัทตนใช้เวลา 9 ปี ในการจดทะเบียน และตนทำธุรกิจด้านนี้มา 10 กว่าปีแล้ว ช่วงเวลาที่ผ่านมาชีวิตตนก็ล้มลุกคุกคลานมาเยอะ ผ่านการล้มละลายมาก่อน ฉะนั้นตอนนี้ธุรกิจตนอยู่ในช่วงกำลังขึ้น ชื่อเสียงหรือผู้ใหญ่ให้โอกาส แต่ถ้าน้องมาใช้คำพูดแบบนี้แล้วตนได้รับความเสียหาย เหมือนเป็นการดิสเครดิตบริษัทตนออกสื่อ มันเกิดความเสียหายเยอะ ตนไม่ได้อยากมาทำตราบาปให้น้อง หรือรังแกน้อง แต่ตนให้อภัยเพียงแค่ครั้งเดียว 

นอกจากนี้หากใครที่เป็นเจ้าหนี้ของปู มัณฑนา ก็ขอให้ติดต่อมาที่บริษัท ยู ซัมมิท กรุ๊ป จำกัด เพื่อแจ้งรายละเอียดมาภายในสิ้นเดือนนี้ เราจะเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยมูลหนี้ให้ โดยจะดำเนินการไกล่เกลี่ยและจ่ายเงินเต็มจำนวน ไม่มีเงื่อนไขอะไรซึ่งเราพยายามทำให้เรียบร้อย ตอนนี้มีติดต่อมาแล้วประมาณ 5 คน มูลค่าไม่ถึง 10 ล้านบาท จึงยืนยันว่าเป็นหนี้ก็ต้องจ่าย ขณะที่ทนายกิ่ง เดินทางไปที่ สน.วังทองหลาง เพื่อแจ้งความน้องลิลลี่ในข้อหาหมิ่นประมาทแล้ว

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส